จัดฟันคืออะไร มีกี่แบบ รวมข้อมูลการดัดฟันที่ต้องรู้
คนที่อยากจัดฟัน หรือดัดฟันทุกคนมักจะสงสัยกันว่า เราควรจะเลือกการจัดฟันแบบไหน การจัดฟันในปัจจุบันมีกี่ชนิด และจัดฟันราคา ปัจจุบันเท่าไหร่ ข้อมูลจากคำถามอันมากมายเหล่านี้อาจทำให้ผู้ที่อยากจัดฟันทุกท่านสับสนได้
วันนี้คุณหมอจะมาอธิบายข้อดี ข้อเสียของจัดฟันแบบต่างๆ ทั้ง จัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบเซรามิก จัดฟันแบบดามอน (Damon) หรือจัดฟันแบบใส ทั้ง Invisalign และแบรนด์อื่นๆ เช่น ดี-aligner นอกจากนี้ยังแนะนำเทคนิคในการเลือกคลินิกจัดฟันมาให้คุณด้วย – หวังว่าเมื่ออ่านจบแล้วคุณจะสามารถเลือกคลินิก และชนิดของจัดฟันให้เหมาะกับ Lifestyle และงบประมาณของคุณ ใครอยากให้ฟันเรียงสวยกว่าเดิมห้ามพลาด
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน หรือ Orthodontics ประกอบไปด้วยรากศัพท์ภาษากรีก 2 คำ คือ ‘Orthos’ ซึ่งแปลว่า แก้ไข/ให้ตรง ส่วน ‘Dontics’ แปลว่า ฟัน การจัดฟันเป็นทันตกรรมเฉพาะทางแขนงหนึ่ง ที่มุ่งเน้น การวินิจฉัย การป้องกัน และการแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น การสบฟัน ตำแหน่งและขนาดของกระดูกขากรรไกร
การดัดฟันมีจุดประสงค์เพื่อการบดเคี้ยวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดฟันสึก รวมทั้งยังทำให้คุณสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ดีขึ้น ทำให้ลดโอกาสในการเกิดโรคทางทันตกรรมอื่นๆ และแน่นอนว่ายังช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงาม ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับคุณได้
การจัดฟันมีกี่แบบ?
การจัดฟันสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ดังนี้
- การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ ได้แก่ ติดเครื่องมือแบบใช้ยาง O-ring เช่น การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก และการติดเครื่องมือแบบไม่ใช้ยาง (Self-ligating) เช่น การจัดฟันแบบดามอน (Damon)
- การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ เช่น จัดฟันใส Invisalign หรือ ดี-aligner
การเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของการจัดฟันในแต่ะละชนิด จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมกับ lifestyle และงบประมาณของคุณ วันนี้เรามาเรียนรู้การจัดฟัน และโปรจัดฟันในแต่ละประเภทกันดีกว่า
1. จัดฟันแบบโลหะ
คลินิกจัดฟันที่ราคาถูกที่สุด โปรจัดฟันเพียบ คุณหมอมีตัวช่วยเยอะเหมาะกับเคสซับซ้อน สนุกกับการเลือกเปลี่ยนสียางโอริงได้ทุกเดือน
การจัดฟันแบบโลหะ หรือ การจัดฟันแบบเหล็ก (Metal Bracket) เป็นวิธีดั้งเดิมที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่าย แบบสบายกระเป๋า
ข้อดีอีกอย่างของจัดฟันแบบโลหะธรรมดา คือ เหมาะสำหรับเคสที่ยากหรือซับซ้อน เนื่องจากคุณหมอสามารถควบคุม และปรับเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนฟันของคุณในยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย และยืดหยุ่นกว่า นอกจากนี้คุณหมอยังสามารถเลือกใช้อุปกรณ์เสริม หรือการรักษาอื่นๆ เช่น การปักหมุดจัดฟัน, การดึงยาง มาเป็นตัวช่วยได้อีกด้วย
สามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบโลหะ เพิ่มเติม เขียนโดยทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญได้ที่นี่!
จัดฟันแบบโลหะ ราคาเท่าไหร่?
- ผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้ว ราคาเดือนละ 1,500 บ. (12-18 เดือน)
ผู้ที่ยังไม่เคยจัดฟันมาก่อน ติดเครื่องมือจัดฟัน 999 บ. ( 2 เดือนแรก) หลังจากนั้นเดือนละ 1,500 บ.
2. จัดฟันแบบเซรามิก
เหมือนแบบโลหะ แต่ Bracket สีใส เหมาะกับเคสซับซ้อน ที่ต้องการบุคลิกภาพที่ดีตลอดเวลา
การจัดฟันแบบเซรามิก คือ การจัดฟันที่มีวิธีการเคลื่อนตำแหน่งฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่เปลี่ยนเครื่องมือจัดฟัน (Bracket) โลหะ ให้เป็นเซรามิกใส ซึ่งสังเกตได้ยากเพราะมีสีคล้ายกับฟันธรรมชาติ ดูสวยงามกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพ หรือความต้องการที่จะคงบุคลิกภาพที่ดี ดูเป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ฟันที่เรียงตัวผิดปกติเยอะ เป็นเคสยาก และต้องอาศัยการออกแรงดึงฟันที่ซับซ้อน รวมทั้งอาจต้องใช้อุปกรณ์จัดฟันอื่นๆ มาช่วยเคลื่อนฟันเพิ่มเติม
ข้อดีอีกอย่างนอกจากความสวยงามคืออุปกรณ์จัดฟันที่เป็นเซรามิกจะมีความเรียบ และโค้งมนกว่าแบบโลหะ ลดโอกาสไปเกี่ยวกระพุ้งแก้มเป็นแผลร้อนในได้
3. จัดฟันแบบดามอน
ใช้ตัวล๊อคแบบพิเศษ ไม่ต้องมีโอริง เจ็บน้อยกว่า จัดฟันเสร็จเร็วกว่า
จัดฟัน damon หรือ จัดฟันแบบดามอนคือ รูปแบบหนึ่งของการจัดฟันชนิดที่เรียกว่า ‘Self-Ligating Braces’ โดยคุณหมอจะไม่ใช้โอริง (o-ring) ในการยึดลวดเข้ากับอุปกรณ์จัดฟันโลหะ (Metal Bracket) ที่ติดอยู่กับฟัน แต่จะใช้ Bracket แบบพิเศษซึ่งมีตัวล๊อคเปิดปิดได้เป็นตัวยึดลวดจัดฟัน
ข้อได้เปรียบของการจัดฟันแบบดามอนคือ ลวดจัดฟันจะสามารถเคลื่อนที่ซ้ายขวาได้อย่างอิสระ ไม่ถูกยึดอยู่กับที่ด้วยโอริง แรงที่กระทำต่อฟันจะคงที่ตลอดเวลา ทำให้เจ็บน้อยกว่า เคลื่อนฟันได้นุ่มนวล รักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า โอกาสที่เศษอาหารติดก็จะลดลง ทำให้จัดฟันเสร็จไวกว่า และไม่ต้องเสียเวลามาพบคุณหมอบ่อยๆ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบดามอน เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
จัดฟันแบบดามอน ราคาเท่าไหร่?
- ราคาติดเครื่องมือ 12,000 บ. (2 เดือนแรก) หลังจากนั้นเดือนละ 2,500 บ. (22 เดือน)
4. จัดฟันแบบใส
มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน ดูเป็นผู้ใหญ่ คงลุคมืออาชีพอยู่ตลอด สามารถถอดได้ แปรงฟันง่าย รับประทานอาหารสะดวก ไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ มีโปรจัดฟันใส ราคาไม่ได้แพงเหมือนแต่ก่อน
หากคุณไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ และการมี Bracket ติดอยู่ที่ฟันนั้นเป็นอุปสรรคต่อหน้าที่การงาน หรือคุณต้องการลุคที่ดูเป๊ะ เป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา การจัดฟันแบบใส หรือดัดฟันใส เป็นคำตอบของคุณ การที่สามารถถอดออกได้ ทำให้คุณสามารถรับประทานอาหารได้สะดวก และง่ายต่อการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันด้วย
การจัดฟันแบบใสในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ได้แก่
Invisalign
เป็นยี่ห้อจัดฟันใสจากอเมริกา มีจำนวนคนไข้ถึง 12 ล้านคน รวมทั้งเปิดให้บริการมายาวนานถึง 25 ปี Invisalign ถือเป็น Gold Standard ในการจัดฟันใส ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง invisalign ราคาเริ่มต้นที่ที่ 69,000 บ. ซึ่งจำกัดระยะเวลารักษาที่ 6 เดือน เคลื่อนฟันได้ถึงฟันกรามน้อยเท่านั้น และราคาจะแพงขึ้นตามความยากของเคสและเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันใส
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบใส invisalign เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
จัดฟันใส ดี-aligner
จัดฟันใสยี่ห้ออื่น
จัดฟันใสยี่ห้ออื่นๆ ปัจจุบันมีแบรนด์จัดฟันใสอื่นๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น Zenyum, BeforeDent, Clear Correct ฯลฯ
จัดฟันแบบใส ราคาเท่าไหร่?
- จัดฟันแบบใส Invisalign ราคาเริ่มต้น 49,000 บ. (ราคาเพิ่มขึ้นตามจำนวนชิ้นงานที่ต้องใช้)
- จัดฟันแบบใส ดี-Aligner ราคาเริ่มต้น 39,999 บ. (สำหรับ 12 คู่แรก) ผ่อนชำระได้สูงสุด 10 เดือน
ลักษณะฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน ?
การจัดฟันสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัว และการสบฟันที่ผิดปกติแบบใดได้บ้าง
- ฟันซ้อน ฟันเอียง หรือ บิด – ปัญหาเหล่านี้เป็นประเด็นหลักที่นำคนไข้เข้ามารับการรักษา หากฟันซ้อนกันมากๆ คุณหมออาจจำเป็นต้อง ถอนฟัน บางซี่ออก มีการตะไบฟัน หรือขยายขากรรไกรเพื่อให้มีพื้นที่ในการเรียงฟัน
- ฟันห่าง – ปัญหาฟันห่าง สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
- ฟันเบี้ยว หรือ ฟันกัดเบี้ยว – เป็นภาวะที่กึ่งกลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกัน ทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สามารถแก้ฟันเบี้ยวได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
- Deep bite หรือ ฟันสบลึก เป็นภาวะที่ฟันบนสบลงมาฟันล่างลึกเกินไป
- Cross bite หรือ ฟันสบคร่อม เป็นภาวะที่ฟันล่างคร่อมฟันบน
- Open bite หรือ ฟันสบเปิด เป็นภาวะที่ฟันบนและฟันล่างไม่สามารถสบสัมผัสกันได้ หรือที่เรียกกันว่า ฟันไม่สบกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการเรียงตัวของฟัน
สงสัยกันไหมว่าทำไมคนเดี๋ยวนี้ถึงมีฟันเรียงตัวผิดปกติกันเยอะ อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงกันแน่
- วิวัฒนาการของมนุษย์ – อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 15,000 ปีที่แล้ว จากการศึกษาโครงกระดูกของมนุษย์ เราจะพบว่าบรรพบุรุษของเรานั้นมีฟันที่เรียงตัวดี และแทบไม่มีฟันคุดอยู่เลย ที่เป็นแบบนั้นเพราะขากรรไกรของมนุษย์สมัยก่อนนั้นใหญ่กว่าในปัจจุบัน การปฎิวัติการเกษตร และอุตสาหกรรมทำให้เราปรุงอาหารได้ดีขึ้น มีอุปกรณ์ในการหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กลง ทำให้จำนวนครั้งในการเคี้ยวน้อยลงตามไปด้วย ขนาดของขากรรไกรในมนุษย์จึงหดเล็กลงเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่ของฟันน้อยลง แต่จำนวนฟันเท่าเดิม เกิดเป็นการเรียงตัวที่ผิดปกติของฟัน จนต้องลงเอยที่การจัดฟัน
- ฟันล้ม – หากคุณเคยถอนฟันมาก่อนและไม่ได้บูรณะทดแทนฟันด้วย รากฟันเทียม สะพานฟัน หรือฟันปลอม ฟันซี่ข้างเคียงก็จะเคลื่อน และล้มเข้ามาในช่องว่างที่เกิดขึ้น
- โดนฟันคุดดัน – สาเหตุหนึ่งที่คุณหมอแนะนำให้ถอนฟันคุดออกเพราะ ฟันคุดสามารถดันฟันซี่อื่นให้เอียง หรือขยับมาซ้อนกันได้
- พฤติกรรมบางอย่าง – การหย่าขวดนมช้า การดูดนิ้ว ภาวะลิ้นดุนฟัน อาจทำให้การเรียงตัวของฟันผิดปกติ
ควรจัดฟันดีไหม จัดฟันช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าการจัดฟันเป็นการแก้ไขปัญหาด้านความสวยงามเพียงอย่างเดียว จริงอยู่ที่การมีฟันเรียงสวยนั้น ส่งผลต่อบุคลิกภาพของคุณในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับคุณหมอแล้ว การจัดฟันยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เช่น
- ช่วยลดปัญหาทันตกรรมอย่างอื่น เช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือ ฟันผุ – ทั้งนี้เนื่องจากฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบนั้นสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และทั่วถึงกว่า การจัดฟันจึงช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้
- ช่วยในการย่อยอาหาร – การสบฟันที่ดีขึ้นสามารถทำให้คุณเคี้ยวอาหารได้ละเอียดกว่า ลดภาระของระบบทางเดินอาหารลง บอกลาอาการท้องอืด ปวดจุกท้อง และลดโอกาสในการเกิดกรดไหลย้อน
- ลดโอกาสการละลายของกระดูกขากรรไกร – กระดูกขากรรไกรที่ปกติจะได้รับแรงจากฟันที่สบกันเวลาเคี้ยวอาหาร แรงสบฟันจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกได้
- ช่วยให้พูดชัดขึ้นได้ – พยัญชนะเช่น ฟ ส ซ หรือตัว S ต้องใช้การออกเสียงผ่านฟัน ซึ่งผู้ที่ฟันเรียงตัวผิดปกติอาจออกเสียงได้ไม่ชัดเจน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน
- ช่วยลดความอูมของริมฝีปาก – จะยิ่งเห็นชัดเจนในเคสที่มีการถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน
- เพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ – คนไข้ที่จัดฟันเสร็จแล้วมักจะมีความมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง เป็นเสน่ห์และความสดใสที่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต
ข้อดี และ ข้อจำกัดของการจัดฟัน
ข้อดีในการจัดฟัน
การจัดฟันมีประโยชน์และข้อดีหลายอย่างดังนี้
- สุขภาพช่องปากดีขึ้น – ฟันที่เรียงสวย ตรง และเป็นระเบียบจะทำให้คุณสามารถรักษาสุขอนามัยของช่องปากได้ดีมากขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและฟันผุ
- การเคี้ยวและการพูดดีขึ้น – ฟันที่เรียงไม่ตรงอาจมีปัญหาในการสบฟันทำให้ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ละเอียด หรือมีช่องว่างทำให้ออกเสียงพูดได้ไม่ชัดเจน ซึ่งการจัดฟันสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
- ยิ้มสวยมากขึ้น – แน่นอนว่าการจัดฟันสามารถทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง
- ป้องกันปัญหาทางทันตกรรมในอนาคต – การจัดฟันสามารถแก้ไขฟันที่เก เรียงตัวไม่เหมาะสมซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมที่รุนแรงมากขึ้น เช่น ปวดกราม ปวดหัวเรื้อรัง หรือ ฟันสึก
- สุขภาพโดยรวมดีขึ้น – สุขภาพช่องปากมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสุขภาพโดยรวมของคุณ ดังนั้น การปรับปรุงสุขภาพฟันด้วยการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นด้วย
ข้อจำกัดในการจัดฟัน
- ระยะเวลาในการรักษา – การจัดฟันมักใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจจะหลายปีจนกว่าจะเสร็จ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความผิดปกติในการเรียงตัวของฟัน คุณต้องปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอ และมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การเคลื่อนฟันเป็นไปตามแผนการรักษา
- ความเจ็บปวด – คนไข้มักรู้สึกปวดในระหว่างการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-5 วันแรกของการปรับเครื่องมือจัดฟัน (ในกรณีจัดฟันแบบติดแน่น) หรือการเปลี่ยนชุดเครื่องมือจัดฟันใส
- ข้อจำกัดด้านอาหาร – เมื่อจัดฟัน คุณอาจต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด หรือปรับเปลี่ยนประเภทอาหารในระหว่างจัดฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็ก หรืออุปกรณ์จัดฟันเสียหาย ในกรณีจัดฟันแบบใส คุณสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ขณะรับประทานอาหาร ทำให้ลดข้อจำกัดของตัวเลือกในการรับประทานอาหารลง
- ค่าใช้จ่าย – การจัดฟันแต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกัน คุณควรพิจารณาตัวเลือก และงบประมาณที่เหมาะสมกับคุณ
- การเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม – หากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) หลังจัดฟันเสร็จ ฟันของคุณมีความเสี่ยงในการเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม
- สุขอนามัยในช่องปาก – การรักษาความสะอาดในช่องปากเป็นเรื่องท้าทายขึ้น เมื่อมีเหล็กดัดฟัน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในช่องปาก คุณต้องหมั่นแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
ควรเลือกเทคนิคการจัดฟันแบบไหนดี ?
การจัดฟันปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคโดยแบ่งเป็นการจัดฟันแบบติดแน่น เช่น การจัดฟันแบบโลหะแบบทั่วไป ซึ่งโดดเด่นที่ราคาถูก สามารถจัดได้ในเคสยากซับซ้อน และสามารถเปลี่ยนสีโอริงได้ หรืออยากเรียบร้อยขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นแบบเซรามิกซึ่งใช้หลักการเดียวกัน แต่อุปกรณ์จัดฟันจะสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากคุณต้องการจัดฟันให้เสร็จเร็ว เจ็บน้อยลง และไม่อยากถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน คุณอาจเขยิบไปจัดฟันแบบดามอน
การจัดฟันแบบใสอย่างเช่น ดี-aligner หรือ invisalign เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่รบกวนบุคลิกภาพ ยังสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ และถอดออกตอนแปรงฟันกับรับประทานอาหารได้ ทำให้สุขภาพช่องปากดีกว่า รวมทั้งลดข้อจำกัดในการทานอาหาร นอกจากนี้ยังไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ อีกด้วย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกจัดฟันแบบไหน การจัดฟันราคาเท่าไหร่ อยากได้ข้อมูลการจัดฟัน เราแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ : จัดฟันมีกี่แบบ ? ควรเลือกอย่างไร บอกข้อดีข้อเสียแบบหมดเปลือก!
อยากจัดฟันครั้งแรกต้องเริ่มต้นอย่างไร
เมื่อเรารู้จักการจัดฟันชนิดต่างๆ แล้ว สำหรับคนที่จัดฟันครั้งแรก คุณหมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ในคลินิก เพื่อตรวจประเมินสภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด สิ่งที่คุณจะใช้รับจากการปรึกษาจัดฟันครั้งแรกกับคุณหมอที่ Smile Seasons คือ
- สุขภาพช่องปากของคุณ – มีฟันผุหรือไม่ มีเหงือกอักเสบหรือเปล่า มีฟันคุดที่ควรต้องจัดการก่อนเริ่มการจัดฟันไหม
- เอ็กซเรย์ภายนอกและภายในช่องปาก – เพื่อช่วยในการวางแผนการรักษา
- เลือกชนิดของการจัดฟัน – คุณอาจจะมีตัวเลือกการจัดฟันอยู่ในใจ แต่การมาพบคุณหมอ คุณก็จะได้ข้อมูลทางคลินิกเพิ่มเติม และสามารถปรึกษากับคุณหมอเพื่อเลือกชนิดของการจัดฟันที่เหมาะสมสำหรับคุณ
- แผนการรักษาคร่าว ๆ – คุณอาจสามารถจัดฟันได้เลย แต่บางคนอาจจะต้องมีการถอนฟัน เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับการเรียงฟัน ในบางครั้งอาจต้องใช้เครื่องมือจัดฟันพิเศษ เช่น มินิสกรูหรือหมุดจัดฟัน (Mini screw) เป็นต้น
- ราคาจัดฟันครั้งแรก – คุณหมอและเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก สามารถประเมินราคาค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปาก จัดฟัน ตามแผนการรักษาให้คุณได้
การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
ในบางครั้งความผิดปกติของฟันจะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งของขากรรไกรที่ผิดปกติด้วย ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว และจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน ถึงจะสามารถแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติได้
การผ่าตัดสามารถทำแค่ขากรรไกรล่างอย่างเดียว หรือทำทั้งบนและล่าง ขึ้นอยู่กับปัญหาทางคลินิกของคุณ โดยส่วนใหญ่คุณจะต้องเข้ารับการจัดฟันไปสักระยะหนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยทำการผ่าตัดซึ่งต้องทำในโรงพยาบาล เมื่อการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย คุณจะต้องจัดฟันต่ออีกหลายเดือนถึงจะเสร็จสิ้นการรักษา หากคุณเคยได้รับการวินิจฉัยว่าควรต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด คุณสามารถติดต่อเราเพื่อทำนัดพบกับคุณหมอจัดฟันเฉพาะทางจากเราได้
ทำความรู้จักกับเครื่องมือจัดฟัน
การจัดฟันเป็นการรักษาที่ใช้เวลารักษานานจึงเป็นการดีหากคุณรู้จักส่วนประกอบต่างๆ ของอุปกรณ์จัดฟันแบบติดแน่นที่จะอยู่กับคุณไปเป็นเวลาหลายเดือน หรือบางกรณีก็หลายปี
ส่วนประกอบหลักของเครื่องมือจัดฟัน
- Bracket – Bracket เป็นส่วนที่ติดแน่นอยู่บนผิวฟันด้วยกาวทางทันตกรรมแบบพิเศษ ทำหน้าที่ส่งผ่านแรงจากลวดจัดฟันมาที่ตัวฟัน Bracket นั้นมีทั้งที่ลักษณะเป็นโลหะ ซึ่งมักทำจาก Stainless Steel หรือมีลักษณะเป็นสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นซึ่งเป็นเซรามิกที่ทำจาก Sapphire
- ลวดจัดฟัน (Archwire) – ลวดจัดฟันเป็นส่วนสำคัญในการออกแรงเคลื่อนฟัน มีหลายขนาด หลายเบอร์ รวมถึงทำจากวัสดุหลายชนิด ทันตแพทย์จะเป็นคนดัดลวดจัดฟันรวมถึงเลือกชนิดและขนาดที่เหมาะสมในการเคลื่อนฟันของคุณให้เป็นไปตามแผนการรักษา
- ตัวรัด (Ligature) – เป็นส่วนที่ยึด Bracket กับลวดจัดฟันเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งอาจใช้ลวดขนาดเล็กๆ หรือใช้ยางโอริงที่มีสีสันสวยงามแบบที่เห็นกันทั่วไปก็ได้ การจัดฟันชนิดดามอนซึ่งเป็นระบบ Self ligating system สามารถล๊อคลวดจัดฟันเข้ากับ Bracket แบบพิเศษได้เลย ทำให้ไม่ต้องใช้ตัวรัดเพิ่มเติม
อุปกรณ์เสริมของเครื่องมือจัดฟัน
บางครั้งแค่อุปกรณ์หลักก็ไม่เพียงพอที่จะออกแรงเคลื่อนฟันไปตามแผนการรักษาได้ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าคุณหมอมีอุปกรณ์เสริมอีกเพียบซึ่งถือเป็นข้อดีหนึ่งของการจัดฟันแบบโลหะ ตัวอย่างอุปกรณ์เสริมมีดังนี้
- ยางดึงฟัน (Elastic) – มักใช้ดึงฟันไปแนวหน้าหลัง หรือแนวดึ่งเพื่อแก้ไขการสบฟัน โดยคุณหมอจะแนะนำวิธีการคล้องยางดึงฟันให้กับคุณ ซึ่งโดยปกติจะต้องเปลี่ยนยางทุกๆ 1-2 วัน
- เชนดึงฟัน (Power Chain) – ไว้ดึงฟันในแนวหน้าหลังเช่นกัน มีหลายสี คุณหมอเป็นคนใส่ให้ และห้ามถอดออกเอง คนไข้จัดฟันไม่จำเป็นต้องใช้เชนดึงฟันทุกคน ฉะนั้นหากคุณหมอไม่ใส่เชนให้ก็ไม่ต้องตกใจไป
- สปริง (Spring) – เอาไว้ดึง หรือดันฟันไปยังตำแหน่งต่างๆ โดยสปริงจะออกแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับเชนดึงฟันที่แรงจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
- หมุดจัดฟัน (Miniscew) – ใช้เป็นหลักยึดที่แข็งแรง เพื่อนำอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มายึดเพื่อเคลื่อนฟันในเคสที่ซับซ้อน คุณสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ หมุดจัดฟัน ได้ที่นี่
- ตัวหนุนฟัน (Raise Bite หรือ Bite turbo) – เป็นวัสดุสีฟ้า หรือสีเหมือนฟัน เพื่อยกฟันแยกจากกัน เพื่อแก้ไขการสบฟันในแนวดิ่ง ระหว่างนี้คุณอาจจะเคี้ยวอาหารยากขึ้นนิดหน่อย
ขั้นตอน และ ค่าใช้จ่าย ทั้งหมดในการจัดฟัน
1. พบทันตแพทย์และเอ็กซเรย์
ฟรี (จากปกติ 1,000 + 1,600)
วันแรกเข้ามาทำความรู้จักกับคุณหมอก่อน เพราะเราต้องเจอกับคุณหมอไปอีกเป็นปี คุณหมอจะซักประวัติและตรวจช่องปากของคุณอย่างละเอียด พร้อมกับดูฟิล์มเอ็กซเรย์ประกอบเพื่อวางแผนจัดฟันให้กับคุณ
คนไข้หนึ่งคนอาจมีแผนจัดฟันได้หลายแบบ คุณหมอจะอธิบายข้อดีข้อเสีย และช่วยคุณเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด หากคุณพูดคุยทำความเข้าใจกับคุณหมอเรียบร้อย และตกลงที่จะเข้ารับการจัดฟัน คุณหมอจะพิมพ์ปากทำโมเดลฟันเพื่อใช้ประกอบในการรักษา
2. การเคลียร์ช่องปาก
ฟรี คูปองส่วนลดมูลค่า 3,500 บ. พร้อมเคลือบฟลูออไรด์ (มูลค่า 500 บ.)
ฟันและช่องปากของคุณจะต้องมีสุขภาพดี นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณหมอจะต้องจัดการ ขูดหินปูน อุดฟัน ที่ผุ รวมถึงถอนฟันคุดของคุณให้เรียบร้อยก่อนจะติดเครื่องมือจัดฟัน ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าภาวะเหล่านี้จะไม่ไปรบกวนคุณระหว่างจัดฟัน
ถ้าหากช่องปากมีคราบหินปูนนอกจากจะทำใฟ้ฟันเหลืองเสียบุคลิกภาพได้แล้ว ยังสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อเหงือกและฟันได้ด้วย สามารถอ่านบทความ ขูดหินปูน เพิ่มเติม ที่ได้รวบรวมคำตอบของคำถามเกี่ยวกับการขูดหินปูนที่หลายคนสงสัยไว้ให้แล้ว ตอบโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คลิก!
สภาพช่องปากของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเคลียร์ช่องปากของคนไข้จึงแตกต่างกันด้วย คุณหมอจะให้คำแนะนำว่าคุณควรต้องรักษาอะไรบ้าง แต่คุณไม่จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปากให้เสร็จในครั้งเดียว สามารถแบ่งชำระได้ โดยคุณจะได้รับคูปองส่วนลดจัดฟันดังนี้
- ส่วนลดขูดหินปูน 300 บาท
- ส่วนลดอุดฟัน 200 บาท จำนวน 3 ใบ
- ส่วนลดถอนฟัน 200 บาท จำนวน 3 ใบ
- ส่วนลดผ่าฟันคุด 500 บาท จำนวน 3 ใบ
- ฟรี เคลือบฟลูออไรด์ 500 บาท
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ ผ่าฟันคุด ถอนฟันคุด เพิ่มเติม คลิก! (เนื้อหาเพิ่มเติม)
3. การติดและปรับเครื่องมือ
คุณต้องมาพบคุณหมอทุกเดือน โดย 2 ครั้งแรก คุณจะได้รับการติดเครื่องมือที่ฟันบนและล่าง มีค่าใช้จ่าย 999 บ. ต่อครั้ง หลังจากนั้นคุณจะได้รับการปรับเครื่องมือจัดฟัน เปลี่ยนลวด และเปลี่ยนยาง O-ring มีค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละ 1,500 บ. จนกว่าจะเสร็จสิ้นการรักษา
4. การทำรีเทนเนอร์
ฟรี! รีเทนเนอร์ใส
รีเทนเนอร์ คือเครื่องมือคงสภาพฟัน เมื่อคุณจัดฟันเสร็จคุณจะได้รับรีเทนเนอร์ใส 1 ชุด (บนและล่าง) และยังได้รับสิทธิ์ส่วนลดเพิ่มในการซื้อรีเทนเนอร์แบบลวดอีกด้วย
เงื่อนไขการได้รับรีเทนเนอร์ใสฟรี คือระหว่างจัดฟัน คุณไม่ผิดนัดเกิน 3 ครั้ง (หากคุณเลื่อนนัดล่วงหน้าไม่ถึง 24 ชม. ก่อนวันนัด 2 ครั้ง จะนับเป็นการผิดนัด 1 ครั้ง หากคุณไม่มาตามนัดโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าจะนับเป็นการผิดนัด 1 ครั้ง) อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ รีเทนเนอร์ เพิ่มเติม คลิก! (เนื้อหาเพิ่มเติม)
การเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน
คุณอาจจะตื่นเต้นในวันที่จะได้ติดเครื่องมือจัดฟัน ไม่รู้จะเตรียมตัวอย่างไร ไม่ต้องกังวล คุณหมอมีเทคนิคในการเตรียมตัวเองก่อนการจัดฟันดังนี้
- เช็คให้ชัวร์ว่าคุณเคลียร์ช่องปากเรียบร้อยแล้ว – การติดเครื่องมือจัดฟัน จะทำให้คุณแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันยากขึ้น สุขภาพช่องปากของคุณจึงควรอยู่ในสภาพดี และแข็งแรง สอบถามและตรวจเช็คว่าคุณได้ทำการรักษาทั้งหมดตามที่คุณหมอแนะนำ
- เติมของกินในตู้เย็น – หลังติดเครื่องมือจัดฟัน คุณอาจมีอาการปวดเพราะร่างกายยังไม่ปรับตัว คุณควรรับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยว หาซื้อ โจ๊ก ข้าวต้ม โยเกิร์ต สมูตตี้ผลไม้ ซุป ติดตู้เย็นเอาไว้
- เตรียมยา และขี้ผึ้งจัดฟันไว้ให้พร้อม – หากคุณจัดฟันที่ Smile Seasons คุณจะได้รับอุปกรณ์เหล่านี้กลับบ้านไปด้วย แต่ถ้าคุณไม่มี คุณหมอแนะนำให้หาซื้อยาแก้ปวด เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen รวมถึงขี้ผึ้งจัดฟัน ติดบ้านเอาไว้
- หาคนมารับมาส่ง – การติดเครื่องมือจัดฟันใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที และเมื่อเสร็จปุ๊บคุณก็อาจจะเริ่มปวด การมีเพื่อน คนรู้ใจ หรือคนในครอบครัว ขับรถไปส่งคุณที่บ้าน พร้อมกับให้กำลังใจ ก็เป็นไอเดียที่ดี
- เช็คตารางงานของคุณให้ดี – เนื่องจากอาการปวดอาจเป็นอยู่หลายวัน โดยเฉพาะหากคุณจัดฟันครั้งแรก อาจทำให้คุณตั้งสมาธิในการทำงานลำบาก หากสามารถหยุดงาน หรือหลีกเลี่ยงงานใหญ่ที่จำเป็นต้องพูด หรือทานอาหารเยอะๆ ไปก่อนสัก 2-3 วันได้ก็จะเป็นการดี
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ – คุณอาจจะทานอาหารได้น้อยกว่าปกติ ร่างกายได้รับพลังงานน้อย จึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะๆ ไปก่อน
ระยะเวลาในการจัดฟัน
“ฉันจะจัดฟันเสร็จเมื่อไหร่” เป็นหนึ่งในคำถามสำคัญที่คนไข้อยากรู้ โดยปกติแล้วการจัดฟันจะใช้เวลา 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับบุคคล ซึ่งการจะบอกให้แน่นอนได้ คุณหมอจะต้องดูปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังนี้
- สภาพฟันเริ่มต้น – ฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติมาก ย่อมใช้เวลาในการจัดฟันนานกว่า ผู้ที่จัดฟันครั้งแรกก็จะใช้เวลานานกว่า ผู้ที่จัดฟันรอบสอง
- มีการสบฟันที่ผิดปกติร่วมด้วย – การจัดฟันไม่เพียงแก้ไขเรื่องการเรียงตัวของฟันเท่านั้น คุณหมอจะต้องแก้ไขการสบฟันของคุณด้วย ซึ่งจะใช้เวลาจัดฟันนานกว่าปกติ
- แผนการรักษา – หากคุณหมอจำเป็นต้องถอนฟันร่วมด้วย ก็จะต้องใช้เวลาจัดฟันนานกว่า
- ชนิดของการจัดฟันที่เลือก – การจัดฟันแบบโลหะจะออกแรงได้ดีในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก หลังจากนั้นก็จะต้องไปให้คุณหมอปรับเครื่องมือจัดฟัน การจัดฟันชนิด Self-Ligating เช่น ดามอน หรือการจัดฟันใส จะสามารถออกแรงเคลื่อนฟันได้ต่อเนื่องตลอดเวลา ส่งผลให้เคลื่อนฟันได้ไว และจัดฟันเสร็จเร็วกว่า
- การดูแลสุขภาพช่องปาก – การจัดฟันชนิดติดเครื่องมือจะทำให้คุณแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันยากขึ้น เสี่ยงกับฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ซึ่งหากเกิดขึ้น คุณหมออาจจะต้องชะลอการจัดฟัน และรักษาอาการต่างๆ ให้ดีขึ้นก่อน ซึ่งจะทำให้ใช้เวลารักษานานมากขึ้น
- ความร่วมมือในการรักษาของคุณ – การจัดฟันถือเป็นการร่วมมือกันระหว่างคุณหมอและคนไข้ คุณควรปฎิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เช่น การดึง ยางจัดฟัน การมาพบคุณหมอตามนัด กรณีที่คุณจัดฟันแบบใส คุณควรใส่เครื่องมือจัดฟันต่อเนื่อง ยกเว้นเฉพาะตอนรับประทานอาหาร และแปรงฟัน การที่คุณผิดนัดบ่อยๆ ลืมดึงยาง ก็จะทำให้การจัดฟันใช้เวลานานมากขึ้น
- อายุของคุณ – คนไข้อายุน้อยจะสามารถเคลื่อนฟันได้ง่ายกว่า ใช้เวลาจัดฟันน้อยกว่าคนไข้อายุมาก (แต่ไมไ่ด้หมายความว่าคนไข้อายุมากจะจัดฟันไม่ได้นะ)
- อาหาร – อาหารที่แข็ง หรือเหนียว อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งหากเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็จะส่งผลให้คุณจัดฟันเสร็จช้าลง
- ยาที่คุณรับประทานอยู่ – ยาบางชนิดเช่น ยาแก้ปวดแก้อักเสบ NSAIDS (Ibuprofen, Aspirin) ยาในกลุ่ม Steroid และยากดภูมิกุ้มคัน จะทำให้ฟันเคลื่อนตัวช้าลง ขณะที่ยาเพิ่มไทรอยด์ และ วิตามินดี จะทำให้ฟันของคุณเคลื่อนไวกว่าปกติ
การดูแลตัวเองในช่วงจัดฟัน
คุณหมอมาแนะนำการดูแลตัวเองในช่วงจัดฟัน สิ่งที่ควรทำ และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงจัดฟันไว้ดังนี้
สิ่งที่ควรทำ
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (หรือถ้าจะให้ดีคือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร)
- ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
- บ้วนปากเสมอหลังรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่ม
- มาพบคุณหมอตามนัด และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เช่น การดึงยาง
- หากคุณเป็นนักกีฬา คุณควรใส่ mouth guard ในช่วงฝึกซ้อม หรือแข่งขัน
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว กรอบหรือชิ้นใหญ่เกินไป เพราะอาจทำให้เกิความเสียหายต่อเครื่องมือจัดฟัน
- งดโซดา น้ำอัดลม ขนมหวาน
- อย่ากัดเล็บ เคี้ยวน้ำแข็ง ใช้ฟันงัดเปิดขวด
จัดฟันที่ไหนดี?
จัดฟันที่ไหนดี ? การเลือกคลินิกจัดฟันถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่คุณต้องตัดสินใจ นี่คือสิ่งที่คุณควรพิจารณาในการพิจารณาเลือกคลินิกที่จะมาดูแลคุณ
- ความหลากหลายของตัวเลือกในการจัดฟัน – ยิ่งคุณมีตัวเลือกในการรักษามาก คุณก็มีโอกาสที่จะพบกับการจัดฟันชนิดที่เหมาะสมที่สุดกับคุณ ที่ Smile Seasons เราให้บริการจัดฟันทุกรูปแบบ ตั้งแต่การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก การจัดฟันชนิด Self Ligating ทั้งแบบดามอน และแบรนด์อื่นๆ รวมทั้งการจัดฟันใสแบบ Invisalign หรือตัวเลือกใหม่อย่าง ดี-aligner นอกจากนี้เรายังมีคุณหมอที่ดูแลการจัดฟันที่จำเป็นต้องทำร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรด้วย ไม่ว่าความต้องการของคุณเป็นแบบไหน รับรองว่าเรามีพร้อมให้บริการ
- ราคาของการจัดฟัน – จริงอยู่ว่าใครๆ ก็ไม่อยากเสียเงินเป็นจำนวนมากในการจัดฟัน อย่างไรก็ดี อุปกรณ์ รวมทั้งเครื่องมือทางทันตกรรมที่ดี มีราคาไม่ถูก เราอยากให้คุณเลือกคลินิกจัดฟันที่มีราคาปานกลาง ไม่แพงมากหรือถูกมาก จนน่าสงสัย และหลีกเลี่ยงการจัดฟันแฟชั่น หรือการจัดฟันที่ไม่ทำโดยทันตแพทย์ในทุกกรณี เชื่อเราเถอะว่าได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ เลือกจัดฟันแท้ ดัดฟันแท้กับคุณหมอตัวจริงจะดีกว่า
- ความสะดวกในการเดินทาง – การจัดฟันโดยเฉพาะแบบติดเครื่องมือ คุณจะต้องเข้ามาพบคุณหมอทุกเดือน ฉะนั้นคุณควรเลือกคลินิกที่เดินทางง่าย อยู่ในละแวกที่อยู่อาศัย หรือระหว่างทางไปทำงาน เพราะอย่าลืมว่าคุณต้องเจอกับคุณหมอไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปี Smile Seasons เปิดให้บริการทั่วกรุงเทพฯ และสามารถเดินทางได้สะดวกทั้ง ขนส่งสาธารณะ เช่น BTS, MRT หรือจะขับรถส่วนตัวมาก็ได้ คุณอาจค้นหา คลินิกจัดฟันใกล้ฉัน ใน google เพื่อตรวจสอบคลินิกในบริเวณใกล้เคียง
- รีวิวจากคนไข้ท่านอื่น – ความคิดเห็นจากผู้เข้ารับบริการจริง ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณควรนำมาเป็นปัจจัยร่วมในการตัดสินใจ คลินิกที่ได้รับคำชื่นชมก็จะทำให้คุณวางใจได้ระดับหนึ่งว่าคุณกำลังเลือกคลินิกได้อย่างถูกต้องแล้ว คุณสามารถอ่านรีวิวจากคนไข้ของเรา ได้ทั้งใน website, Facebook หรือใน google
- ลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอ – สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ที่ Smile Seasons และคลินิกบางแห่ง คุณสามารถเข้าไปปรึกษาคุณหมอได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากคุณพอใจในการเดินทาง การบริการ และคุณหมอที่ดูแล คุณสามารถตัดสินใจตอบตกลงเข้ารับการจัดฟันในภายหลังได้
- มีคุณหมอเฉพาะทางด้านอื่นๆ หรือไม่ – บางครั้งการจัดฟันอาจต้องทำร่วมกับทันตกรรมสาขาอื่นๆ ที่ Smile Seasons เรามีคุณหมอเฉพาะทางครบทุกด้าน ไม่ว่าเคสของคุณจะเป็นเคสซับซ้อนเพียงใด ก็มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา
ทำไม Smile Seasons ถึงเป็นคลินิกจัดฟันที่เหมาะกับคุณ
1. ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
2. ดูแลคุณเป็นทีม
3. เรามีเวลาให้คุณ
ปัญหาหนึ่งของคนไข้จัดฟันคือแทบไม่มีเวลาคุยกับคุณหมอ เราจำกัดเคสจัดฟันต่อหนึ่งวันในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อให้คุณหมอมีเวลาดูแลคุณมากขึ้น หากคุณอยากปรึกษา ถามคำถามข้องใจ ก็สามารถทำได้เต็มที่
4. เดินทางสะดวก
คุณสามารถเลือกจัดฟันกับเรา ได้ทั้งหมด 7 สาขา ทั่วกรุงเทพ ได้แก่
- สนามเป้า/อนุสาวรีย์ชัย
- อโศกทาวเวอร์
- เมเจอร์รัชโยธิน
- ท่าพระ
- BTS อ่อนนุช
- Silom Complex
- Central Westville
สามารถเดินทางโดย BTS/MRT รวมทั้งมีอาคารจอดรถไว้ให้บริการ
5. ผลตอบรับดีเยี่ยมจากคนไข้
เราให้ความสำคัญกับคำติชมจากคนไข้ของเราเป็นอย่างมาก ฉะนั้นเราจึงภูมิใจกับรีวิวและความประทับใจที่คนไข้ของเรามีให้ เราสัญญาว่าจะพัฒนาบริการของเราให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เปรียบเทียบโปรโมชั่น
เราแนะนำให้คุณเลือกโปรจัดฟันแบบโอนจอง 500 บาท เพราะคุณสามารถติดเครื่องมือในราคาที่ถูกกว่า รวมทั้งได้รีเทนเนอร์ใสฟรี (ปกติราคา 5,000 บ.) คุณสามารถเลื่อนนัดล่วงหน้าได้ 24 ชม. ได้ 1 ครั้งโดยที่คุณไม่เสียสิทธิ์การจองโปรโมชั่นอีกด้วย
โปรโมชั่นปัจจุบัน
แบบโอนจอง
โปรโมชั่นปัจจุบัน
แบบไม่โอนจอง
ราคาปกติ
ค่าโอนจอง
500 บ.
ติดเครื่องมือ
999 x2
1,500 x2
4,000 x2
ปรับเครื่องมือ
1,500
1,500
2,000
ฟรี-ค่าปรึกษาและพิมพ์ปาก
ฟรี-ค่าเอ็กซเรย์
คูปองส่วนลดเคลียร์ช่องปาก 3,500
ฟรี-Retainer ใส
รายการแถมตามโปรโมชั่น
ค่าปรึกษาและพิมพ์ปาก
จากปกติราคา 1,000 บ.
ค่าเอ็กซเรย์ วางแผนจัดฟัน
จากปกติราคา 1,600 บ.
คูปองส่วนลดค่าเคลียร์ช่องปาก
มูลค่ารวม 3,500 บ.
รีเทนเนอร์ใส
จากปกติราคา 5,000 บ.
รีวิวจากคนไข้ที่จัดฟันกับเรา
ทีมทันตแพทย์ของเรา
คลินิกทันตกรรม Smile Seasons ของเรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดฟันที่พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการจัดฟันที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับคุณ
FAQ เกี่ยวกับการจัดฟัน จากทันตแพทย์
จัดฟันครั้งแรกต้องทำอย่างไร
เมื่อจัดฟันครั้งแรก คุณต้องเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่คลินิกว่า ต้องการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาอะไร เช่น ฟันห่าง ฟันเอียง ฟันเบี้ยว หรืออื่น ๆ คุณหมอจะทำการตรวจช่องปากอย่างละเอียด พร้อม X-ray เพื่อวางแผนการจัดฟัน คุณสามารถสอบถามข้อสงสัยของคุณ และหากคุณตกลงเข้ารับการจัดฟัน คุณหมอจะพิมพ์ปากเพื่อสร้างโมเดลฟัน สำหรับใช้ประกอบการรักษา
โปรโมชั่นของเรา : ฟรี ค่าปรึกษา ค่า X-ray และค่าพิมพ์ปาก – คุณไม่เสียค่าใช้จ่ายในวันแรกที่พบคุณหมอ
จัดฟันราคา ปัจจุบันเริ่มต้นที่เท่าไหร่ อัพเดต 15/06/67
ที่ Smile Seasons จัดฟันราคา ปัจจุบันเริ่มต้นที่ ติดเครื่องมือ 999 บ. X2 ครั้ง หลังจากนั้นปรับเครื่องมือเพียงเดือนละ 1,500 บ. นอกจากนี้โปรโมชั่นจัดฟันของเรายังแถมฟรี คูปองส่วนลดค่าเคลียร์ช่องปาก 3,500 บ. และรีเทนเนอร์ใสเมื่อทำการรักษาเสร็จสิ้น
เคลียร์ช่องปากคืออะไร
ก่อนติดเครื่องมือจัดฟัน สภาพช่องปากของคุณต้องแข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด คุณหมอจะต้องขูดหินปูน อุดฟันที่ผุ รวมทั้งถอนฟันคุด (หากมี) ให้เรียบร้อย เพื่อให้มั่นใจว่าภาวะเหล่านี้จะไม่ไปรบกวนคุณระหว่างจัดฟัน
ค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปากประมาณเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเคลียร์ช่องปากของคนไข้แต่ละรายจะแตกต่างกันตามสภาพช่องปาก คุณหมอจะให้คำแนะนำว่าคุณต้องทำการรักษาอะไรบ้าง
คุณไม่จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปากให้เสร็จทั้งหมดในครั้งเดียว คุณสามารถแจ้งงบประมาณในแต่ละครั้งให้กับคุณหมอ หรือเจ้าหน้าที่ เพื่อเราจะได้ช่วยคุณวางแผนได้
ราคาค่ารักษาเริ่มต้น ที่เกี่ยวข้องกับการเคลียร์ช่องปาก – ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน 1,000 บ. ถอนฟันคุด 1,600 ผ่าฟันคุด 2,800 (ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ ตำแหน่ง และความยากง่าย) ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จัดฟันราคา เลย
จัดฟันใช้เวลากี่ปี
โดยเฉลี่ยการจัดฟันใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับการเรียงตัวของฟัน อายุของคนไข้ และความร่วมมือ เช่น มาปรับเครื่องมือตามนัดทุกครั้ง ดึงยางตามคำแนะนำของคุณหมอ เป็นต้น
อยากย้ายคลินิกจัดฟัน ต้องทำอย่างไร
หากคุณย้ายที่อยู่ หรือมีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนคลินิกจัดฟัน ถ้าคุณหมอสามารถจัดฟันต่อให้เสร็จได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันชุดใหม่ จะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 1,500 บ.
กรณีคุณหมอจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันชุดใหม่ จะมีค่าถอดเครื่องมือ ขัดกาวชุดเก่าออก 1,500 บ. หลังจากนั้นคุณสามารถเลือกใช้โปรโมชั่นจัดฟันของคลินิกได้ตามปกติ
จัดฟันจะปวดไหม ปวดนานกี่วัน
เมื่อฟันถูกเคลื่อนตำแหน่ง ย่อมเกิดความไม่สบายรบกวนคุณได้บ้าง อาการปวดจะเป็นอยู่ในช่วง 3-4 วันแรกหลังปรับเครื่องมือ และจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ หากปวดมาก คุณสามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
จัดฟันแล้วทานอาหารอะไรได้บ้าง
ในช่วงแรกที่มีอาการปวด คุณควรรับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป ไข่ตุ๋น พยายามใช้ฟันกรามเคี้ยว ซึ่งจะปวดน้อยกว่า
เมื่อหายปวดคุณสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรแบ่งหรือตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ และงดเว้นอาหารแข็ง/เหนียว เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุด หรือชำรุดได้
การมีเครื่องมือจัดฟันจะทำให้คุณทำความสะอาดช่องปากได้ไม่ดีเท่าเดิม คุณควรใช้เวลากับการแปรงฟันมากขึ้น และควรใช้ไหมขัดฟัน และแปรงซอกฟันเพื่อทำความสะอาดเพิ่มเติมในจุดที่เข้าถึงยาก
จัดฟันแบบไม่ถอนฟันได้หรือเปล่า
เมื่อจัดฟัน คุณหมอจำเป็นต้องมีช่องว่างสำหรับให้ฟันเคลื่อนที่ หรือหมุนไปอยู่ในตำแหน่งที่สวยงาม ความจำเป็นในการถอนฟันขึ้นอยู่กับสภาพฟันของคุณว่ามีพื้นที่เพียงพอหรือไม่ หากคุณไม่อยากถอนฟัน คุณสามารถสอบถามถึงทางเลือก และข้อจำกัดในการรักษากับคุณหมอของเราได้ตลอดเวลา
อายุเท่าไหร่ถึงจัดฟันได้
คุณสามารถจัดฟันได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม อย่างไรก็ดีช่วงวัยรุ่น (10-14 ปี) เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการจัดฟัน เพราะกระดูมกรามกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา เรียงตัวของฟัน และการสบฟันที่ดีจากการจัดฟันสามารถทำให้โครงหน้าสวยงามได้ในอนาคต
จัดฟันแล้วหน้าเรียว หน้าเปลี่ยนไหม
การจัดฟันอาจะทำให้ลักษณะโครงหน้าเปลี่ยนแปลงไป โดยขึ้นอยู่กับปลายปัจจัยดังนี้
- การถอนฟัน ร่วมกับการจัดฟัน ซึ่งทำให้ปากอูมลดลง โดยเฉพาะเมื่อมองจากทางด้านข้าง กรณีฟันบน จมูกก็จะดูโด่งมากขึ้น หากเป็นฟันล่าง คางก็จะชัดขึ้น
- ระหว่างจัดฟันคนไข้มักเคี้ยวน้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวทำงานน้อยลงตาม แก้มจึงดูเรียวกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
- คนไข้ที่จัดฟันตั้งแต่วัยรุ่น (10-14 ปี) กระดูกขากรรไกรกำลังเจริญเติบโต การแก้ไขฟันที่เรียงตัว หรือสบผิดปกติ สามารถส่งผลให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่ดี และสวยงามขึ้นได้
- การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร เมื่อรักษาเสร็จสิ้นจะทำให้โครงหน้าสวยงามขึ้นอย่างแน่นอน
หลังจัดฟัน ใส่รีเทนเนอร์ นานแค่ไหน
รีเทนเนอร์จะสำคัญมากในช่วง 1-2 ปีแรกหลังจากทำการจัดฟันเสร็จ ซึ่งทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทนเนอร์หลังจากที่จัดฟันเสร็จใหม่ตลอดเวลาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน แต่จะถอดได้เฉพาะตอนแปรงฟันและรับประทานอาหารเท่านั้น เนื่องจากช่วงที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ ฟันมีโอกาสที่จะเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งก่อนจัดฟันได้ง่าย แต่หลังจากนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนได้ หรือถ้าผ่านช่วงแรกไปแล้วก็เปลี่ยนเป็นใส่ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
สรุปคือ ถ้าสามารถใส่รีเทนเนอร์ไว้ได้ตลอดตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็จะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนตัวน้อย และไม่ต้องกลับมาจัดฟันรอบสองใหม่
จัดฟันแล้วสามารถทำจมูกได้หรือไม่
การจัดฟันไม่มีผลต่อการเสริม หรือการทำศัลยกรรมที่จมูก ความเชื่อที่ว่าทำจมูกร่วมกับจัดฟันแล้วจมูกจะทะลุเป็นความเข้าใจที่ผิด อย่างไรก็ตามการจัดฟัน โดยเฉพาะคนไข้ที่ถอดฟันบนร่วมด้วย ความอูมของปากจะลดลง รูปจมูกจะดูโด่งขึ้น หากคุณยังไม่ได้ทำจมูก อาจรอให้ฟันเคลื่อนตัวสไปสักพัก่อนปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมเรื่องการเสริมจมูกในภายหลัง
จัดฟันเด็กได้ไหม ต่างกับจัดฟันผู้ใหญ่อย่างไร
จัดฟันเด็กสามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการจัดฟันผู้ใหญ่ แต่ในด้านการทำทันตกรรมก็จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงอายุที่เข้ารับการรักษา ยกตัวอย่างเช่น
- หากทำการจัดฟันเด็กช่วงอายุ 6-11 ปี มักจะใช้การจัดฟันเฉพาะบางตำแหน่ง เพื่อให้ปัญหาภายในช่องปากบรรเทาลง เมื่อเข้าสู่ช่วงชุดฟันแท้งอกขึ้นมาจนครบ และมักจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่สั้นประมาณ 1-6 เดือน
- แต่เมื่ออายุ 12 ปีขึ้นไปจะเป็นการรักษาฟันแท้ทุกซี่ในช่องปาก เพื่อให้ฟันเรียงตัวในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยระยะเวลาการจัดฟันก็จะนานขึ้นด้วย (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับว่าต้องถอนฟันหรือไม่)
- สำหรับการจัดฟันผู้ใหญ่ก็จะใช้เวลาในการรักษาที่นานกว่าในเด็ก เนื่องจากมีความหนาแน่นในกระดูกที่มากกว่า
จัดฟัน ดึงฟันเจ็บไหม
จัดฟันเด็กได้ไหม ต่างกับจัดฟันผู้ใหญ่อย่างไร
รีเทนเนอร์จะสำคัญมากในช่วง 1-2 ปีแรกหลังจากทำการจัดฟันเสร็จ ซึ่งทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทนเนอร์หลังจากที่จัดฟันเสร็จใหม่ตลอดเวลาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน แต่จะถอดได้เฉพาะตอนแปรงฟันและรับประทานอาหารเท่านั้น เนื่องจากช่วงที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ ฟันมีโอกาสที่จะเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งก่อนจัดฟันได้ง่าย แต่หลังจากนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนได้ หรือถ้าผ่านช่วงแรกไปแล้วก็เปลี่ยนเป็นใส่ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
สรุปคือ ถ้าสามารถใส่รีเทนเนอร์ไว้ได้ตลอดตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็จะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนตัวน้อย และไม่ต้องกลับมาจัดฟันรอบสองใหม่
ฟันใหญ่ จัดฟันได้ไหม
กรณีฟันซี่หน้าใหญ่ ปัญหาฟันหน้าใหญ่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน แต่อาจมีจำเป็นต้องทำการรักษาอื่นๆ เช่น การกรอฟัน หรือการทำวีเนียร์ ร่วมกับการจัดฟันด้วย การรักษาจะมีความซับซ้อนมากขึ้น และจำเป็นต้องใช้ทีมคุณหมอเฉพาะทางหลายสาขาเข้ามาร่วมดูแล
สรุปเกี่ยวกับการจัดฟัน
โดยสรุปแล้วการจัดฟัน ถือเป็นการลงทุนกับสุขภาพช่องปาก รวมถึงบุคลิกภาพและความมั่นใจของตัวเอง คุณหมอหวังว่าคุณจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจ เลือกชนิดและคลินิกจัดฟันที่เหมาะสมกับตัวเอง รวมทั้งรู้ถึง ขั้นตอน วิธีการดูแลตัวเองทั้งก่อน และระหว่างจัดฟัน สำหรับใครที่อยากจัดฟันกับ Smile Seasons สามารถลงทะเบียน เข้ามาปรึกษากับคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วพบกันนะครับ
อ้างอิง
- What is orthodontics?., Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/24285-orthodontics
- Dental Braces: Types, Uses, Care., Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/24601-teeth-braces
- Braces and orthodontics ., Available from: https://www.nhs.uk/conditions/braces-and-orthodontics/
- What are Dental Braces?., Available from: https://www.news-medical.net/health/What-are-Dental-Braces.aspx
บทความโดย
ปริทันตวิทยา (โรคเหงือก), รากเทียม, จัดฟัน
- วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญ (ปริทันตวิทยา) ทันตแพทยสภา
- ประกาศนียบัตรหลักสูตรทันตแพทย์เฉพาะทาง (ปริทันตวิทยา) ม.มหิดล
- ประกาศนียบัตร (ทันตกรรมจัดฟัน) Advanced Orthodontic Society
- ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ม.เชียงใหม่
โปรโมชั่นอื่นๆ
เลือกน้ำยาบ้วนปากอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง
น้ำยาบ้วนปากเป็นตัวช่วยเสริมในการส่งเสริมให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี แต่ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับสุขภาพช่องปาก แต่จะเลือกอย่างไร คลิกเลย
หลังติดเครื่องมือจัดฟัน ฟันโยกเกิดจากอะไร แก้ไขได้ด้วยวิธีใดบ้าง
หลังจัดฟัน ฟันโยกเป็นอาการที่พบได้บ่อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการจัดฟันนานเกินไปและไม่พบทันตแพทย์อย่างต่อเนื่อง ที่ทำให้ฟันโยกหลังจัดฟัน
ชวนหาคำตอบเมื่อเหล็กจัดฟันหลุด ต้องทำอย่างไร
เหล็กจัดฟันหลุด ควรทำอย่างไร? เรียนรู้สาเหตุที่ทำให้เหล็กจัดฟันหลุด พร้อมวิธีรับมือและการป้องกัน ไม่ให้จัดฟันแล้วเหล็กหลุดได้ง่าย ๆ
จัดฟันแล้วปวดฟันเกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง
อาการจัดฟันแล้วปวดฟันเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น แรงดันจากการเคลื่อนฟันหรือการดูแลที่ไม่ดี ปัญหาเหล่านี้ควรรีบแก้ไขก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากอื่น ๆ
เกลารากฟันคืออะไร สำคัญต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร
เกลารากฟันเป็นการทำความสะอาดรากฟันใต้เหงือกลึก เพื่อกำจัดหินปูนและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษาโรคปริทันต์และป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากที่รุนแรง
ทำความเข้าใจการปักสกรูเวลาจัดฟันคืออะไร
เจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับการปักสกรูจัดฟัน ตั้งแต่ขั้นตอน อาการที่อาจเกิดขึ้น และการดูแลตัวเองหลังปักสกรู พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ