รีเทนเนอร์ คืออะไร มีกี่แบบ แนะนำการใส่รีเทนเนอร์ที่ถูกต้อง
รีเทนเนอร์คือเครื่องมือคงสภาพฟัน ที่คุณจำเป็นต้องใส่เมื่อจัดฟันเสร็จ ไม่ว่าคุณจะจัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบดามอน หรือจัดฟันแบบใส คุณหมอก็จะให้คุณใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันฟันของคุณซึ่งเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม เคลื่อนกลับตำแหน่งเดิมก่อนจัดฟัน
รีเทนเนอร์มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีข้อดีข้อเสีย รวมทั้งราคาที่ต่างกัน แล้วควรเลือกรีเทนเนอร์แบบไหนดี? วันนี้เราจะพาคุณเจาะลึกในทุกแง่มุมของรีเทนเนอร์ที่คุณควรทราบทั้งชนิดของรีเทนเนอร์ แบบไหนที่เหมาะกับคุณ เหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรใส่รีเทนเนอร์ แล้วต้องใส่ตลอดวันไหม วิธีการดูแลทำความสะอาดรีเทนเนอร์ควรทำอย่างไร – ไปอ่านกันเลยครับ
รีเทนเนอร์คืออะไร ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันเสร็จ ?
รีเทนเนอร์คืออะไร? ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันเสร็จ? – รีเทนเนอร์เป็นเครื่องมือที่ทำจากอะคริลิก พลาสติก และลวด หรือแบบใสที่ทำจากพลาสติกพิเศษทางทันตกรรม ถูกออกแบบและผลิตมาให้พอดีกับรูปร่างของฟันของคุณ เพื่อล๊อคฟันให้อยู่ในตำแหน่งหลังจากจัดฟันเสร็จ ไม่ให้เคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม หรือที่เรียกว่า Tooth Relapse
หลังจัดฟันเสร็จ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อรอบๆ ฟันของคุณยังไม่จดจำตำแหน่งใหม่ และมักออกแรงดึงฟันให้เคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม รีเทนเนอร์ หรือเครื่องมือคงสภาพฟันจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ การลืมใส่รีเทนเนอร์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณอาจต้องกลับมาจัดฟันรอบสองอีกครั้ง เราพบว่าคนไข้บางรายเพียงไม่ใส่รีเทนเนอร์ 1 เดือน ฟันก็สามารถเคลื่อนฟันจนต้องมาทำการจัดฟันรอบสองซ้ำแล้ว
โปรโมชั่นรีเทนเนอร์ !
1. โปรโมชั่นรีเทนเนอร์แบบเดี่ยว
พบกับรีเทนเนอร์ลายสุดน่ารักมากกว่า 10 ลาย Exclusive เฉพาะ Smile Seasons ที่เดียวเท่านั้น
- รีเทนเนอร์ 1 สีมาตรฐาน – 2,699 บ.
- รีเทนเนอร์ออกแบบเอง หรือลาย Preset แบบจัดเต็ม – 2,899 บ.
- รีเทนเนอร์ใส – 2,899 บ.
2. โปรโมชั่นแพคคู่ Duo Retainer
- รับส่วนลด 30% – สำหรับ Retainer ใส (2,240 จาก 3,199 บ.)
- รับส่วนลด 50% – สำหรับ Retainer ใส พร้อม ขูดหินปูน + พ่นขจัดคราบสกปรกบนฟันด้วย AirFlow (2,999 จาก 6,000 บาท)
** ราคานี้เป็นราคา 2 ชิ้นบน-ล่าง รวมค่าพิมพ์ปากเรียบร้อยแล้ว
3. ทำรีเทนเนอร์ที่บ้าน ไม่ต้องมาที่คลินิก!
บอกลารถติด เสียเวลาเดินทาง ด้วยบริการทำรีเทนเนอร์ถึงที่บ้าน! ที่ Smile Seasons ทีเดียวเท่านั้น
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราเพื่อใช้โปรโมชั่นทำรีเทนเนอร์ที่บ้าน
- เลือกสี ออกแบบ เลือกลาย และชำระเงิน
- เราจะส่งชุดพิมพ์ปากไปให้คุณถึงที่บ้าน ดูวิธีการพิมพ์ปากได้ ที่นี่
- เมื่อเราได้รับพิมพ์ปากจากคุณ ห้อง Lab ทางทันตกรรมจะทำรีเทนเนอร์ และส่งกลับไปให้คุณ
* สามารถใช้โปรโมชั่น Duo Retainer ได้เพียงชำระค่ารีเทนเนอร์ลวดในราคา 2,999 บ.
รีเทนเนอร์เหมาะกับใคร
- รีเทนเนอร์ เหมาะสำหรับคนไข้ที่จัดฟันเสร็จแล้วทุกคน ไม่ว่าจะจัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบดามอน หรือ จัดฟันแบบใส d-aligner ก็ตาม
- คนไข้ที่ไม่ได้จัดฟัน คุณหมอไม่แนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ เนื่องจากไม่ได้ประโยชน์ แถมตัวรีเทนเนอร์เองก็เป็นอุปสรรคในการทำความสะอาด มีเศษอาหาร และเชื้อโรคสะสมได้ง่ายหากดูแลรักษาไม่ถูกต้อง
- หากคนไข้ต้องการเรียงฟันที่ซ้อนเกของตัวเอง คุณหมอแนะนำให้จัดฟันดีกว่า เพราะรีเทนเนอร์เป็นเครื่องมือคงสภาพฟัน ไม่สามารถเคลื่อนฟันไปตำแหน่งอื่นเหมือนกับการจัดฟันได้
เราใส่รีเทนเนอร์เพื่ออะไร
ฟันของเรามีความสามารถในการเคลื่อนที่ได้ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีแรกหลังจาก จัดฟัน เสร็จ เพราะเป็นระยะที่เซลล์กระดูก และรอบๆ บริเวณรากฟันต้องจดจำตำแหน่งใหม่ การใส่รีเทนเนอร์จึงจำเป็นมากในการคงสภาพฟัน โดยเฉพาะในช่วงแรก
รีเทนเนอร์มีกี่แบบ เลือกแบบไหนดี
1. รีเทนเนอร์แบบใส
รีเทนเนอร์ใส (Clear Retainer) มีลักษณะเป็นแผ่นพลาสติกใส ครอบเฉพาะตัวพัน ไม่มีส่วนของเพดานปาก ทำให้ไม่รบกวนการพูดเหมือนแบบลวด นอกจากนี้ยังยิ้มแล้วไม่เห็นเหล็ก เหมาะกับผู้ที่ต้องการบุคลิกภาพเป็นทางการในการทำงาน อย่างไรก็ตาม รีเทนเนอร์ใสมีข้อเสียอยู่เช่นกัน
ข้อดีของรีเทนเนอร์ใส
- ไม่เห็นลวดเวลายิ้ม ทำให้ไม่รบกวนบุคลิกภาพของคุณ สวยงาม ดูเรียบร้อย เป็นมืออาชีพ
- ไม่ค่อยรบกวนการพูด และการออกเสียง
ข้อเสียของรีเทนเนอร์ใส
- อายุการใช้งานน้อยกว่า ชำรุดเสียหายได้ง่ายกว่า
- ทำความสะอาดยากกว่า เนื่องจากมีลักษณะเป็นหลุม
- น้ำลายสามารถขังอยู่ในรีเทนเนอร์ ทำให้เห็นเป็นฟองอากาศได้ในคนไข้บางคน
- ไม่สามารถปรับแต่งได้ ต้องทำใหม่เท่านั้น
- ไม่เหมาะในการใช้สำหรับคนไข้จัดฟันบางประเภท เช่น ผู้ที่มีภาวะนอนกัดฟัน หรือลักษณะฟันสบลึก ฯลฯ
2. รีเทนเนอร์แบบลวด (โลหะ)
รีเทนเนอร์แบบลวด หรือรีเทนเนอร์โลหะ เป็นแบบที่พบเห็นได้บ่อยมากที่สุด มีความคงทน ราคาไม่แพง ปรับแต่งเพิ่มเติมได้ แต่ก็ต้องแลกกับการเห็นลวดเวลายิ้ม ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนกังวล
ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบลวด
- มีอายุการใช้งานยาวนาน หากดูแลรักษาดีสามารถใช้ไปได้เป็นปีๆ
- สามารถออกแบบตัวอะคริลิกได้เอง – Smile Seasons เปิดโอกาสให้คุณสามารถเลือกผสมสี และใส่สติกเกอร์ หรือใส่ Glitter ในรีเทนเนอร์แบบลวดของคุณเอง
- รีเทนเนอร์แบบลวดถอดทำความสะอาดได้ง่ายกว่าแบบใส
- สามารถปรับแต่ง หรือซ่อมแซมได้หากต้องการ ไม่ต้องทำใหม่ทั้งชิ้น
- รีเทนเนอร์แบบลวดมักมีราคาที่ถูกกว่าแบบใส
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบลวด
- เห็นลวดเวลายิ้ม ทำให้ไม่เหมาะหากคุณกังวลเรื่องบุคลิกภาพและความสวยงาม
- อาจรบกวนการพูด และการออกเสียง ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าในการทำให้ร่างกายคุ้นชิน
รีเทนเนอร์โลหะมีการทำรีเทนเนอร์เถื่อน หรือรีเทนเนอร์ที่ไม่ได้ทำโดยทันตแพทย์ บ่อยกว่าแบบใส คุณควรเช็คข้อมูลให้ดีว่าคุณจะได้รับการดูแลจากทันตแพทย์ตัวจริง
3. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น
รีเทนเนอร์แบบติดแน่น หรือรีเทนเนอร์แบบถาวร เป็นการใช้ลวดบิดเกลียวโค้งตามรูปร่างการเรียงตัวของฟัน ติดเข้าไปที่ด้านในของตัวฟัน ไม่สามารถถอดเข้าถอดออกได้ หากต้องการเอาออกต้องให้คุณหมอเอาออกให้
ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบติดแน่น หรือแบบถาวร
- มองไม่เห็นเวลายิ้ม – ฟันของคุณจะดูเป็นธรรมชาติเวลายิ้ม เนื่องจากรีเทนเนอร์ถูกซ่อนไว้ด้านในของตัวฟัน
- ไม่ต้องกังวลจะทำรีเทนเนอร์หาย หรือชำรุด
- ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมใส่ – เหมาะสำหรับคนไข้เด็กๆ หรือคนไข้ที่ชอบลืมใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำ จนฟันที่ผ่านการจัดฟันมาแล้ว เคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม
- มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบติดแน่น หรือแบบถาวร
- เศษอาหารติดง่ายขึ้น เนื่องจากมีเครื่องมือติดอยู่
- ดูแลสุขอนามัยฟันและช่องปากยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งถ้าดูแลไม่ดีอาจทำให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือมีปัญหาทันตกรรมอื่นๆ ตามมา
4. รีเทนเนอร์ไร้เหงือก
รีเทนเนอร์ไร้เหงือก เป็นรีเทนเนอร์แบบแปลกๆ ที่มีเฉพาะในประเทศไทย ติดเครื่องมือจัดฟันที่เรียกว่า Bracket เอาไว้สำหรับใส่เพื่อให้เหมือนกำลังจัดฟันอยู่ คุณหมอ ขอห้ามไม่ให้ไปทำรีเทนเนอร์แบบนี้ นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังเสี่ยงกับโรคทันตกรรมอีกมากมาย เป็นแฟชั่นซึ่งไม่คุ้มที่จะทำ หลีกเลี่ยงดีกว่าครับ
ควรเลือกรีเทนเนอร์แบบถอดได้ หรือติดแน่นดี
เลือกรีเทนเนอร์แบบไหนดี ระหว่างถอดได้ กับติดแน่น? แบบถอดได้สามารถถอดออกและทำความสะอาดได้ง่าย คุณหมอมักจะแนะนำรีเทนเนอร์แบบถอดได้ให้กับคนไข้มากกว่า ยกเว้นว่าจะมีข้อบ่งชี้ในการทำรีเทนเนอร์แบบติดแน่น เช่น คนไข้ลืมใส่รีเทนเนอร์บ่อย จนฟันเคลื่อน อย่างไรก็ตามคนไข้ที่เลือกรีเทนเนอร์แบบติดแน่นจำเป็นต้องรักษาสุขภาพช่องปากเป็นอย่างดี
ต้องใส่รีเทนเนอร์นานแค่ไหน กี่ปี
อย่างที่กล่าวไปว่าในช่วงแรกที่เพิ่งจัดฟันเสร็จ ไม่ว่าจะจัดฟันแบบโลหะ หรือ จัดฟันแบบใส invisalign เซลล์รอบๆ รากฟัน รวมทั้ง กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นต่างๆ ยังไม่จดจำตำแหน่งฟันใหม่ ทำให้ฟันเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งเดิมได้ง่ายและเร็วมาก ดังนั้น เรามีคำแนะนำในการใส่รีเทนเนอร์ที่ถูกต้อง ดังนี้
- ช่วง 6 เดือนแรก – คุณควรใส่รีเทนเนอร์อย่างน้อย 22 ชม.ต่อวัน แปลว่าควรใส่ตลอดเวลายกเว้นตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น
- ช่วง 6 เดือน ถึง 2 ปี – คุณสามารถใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนเข้านอนได้
- 2 ปีขึ้นไป – คุณยังต้องใส่รีเทนเนอร์ไปตลอดชีวิต หากไม่อยากต้องจัดฟันใหม่ แต่สามารถใส่น้อยลงได้ โดยคร่าวๆ คือคุณสามารถใส่นอนวันเว้นวันได้
ขั้นตอนการทำรีเทนเนอร์กับทันตแพทย์
รีเทนเนอร์ต้องมีขนาดและรูปร่างที่พอดีกับฟันของคนไข้ ขั้นตอนแรกคือการพิมพ์โมเดลฟัน เพื่อส่งให้ห้องแลปทันตกรรมที่ได้มาตราฐานผลิตชิ้นงานออกมา
หลังจากนั้น คุณหมอจะนัดคุณเข้ามาใส่รีเทนเนอร์ และปรับแต่งเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถใส่รีเทนเนอร์ได้พอดี และไม่เจ็บปวด นอกจากนี้คุณจะตรวจสุขภาพช่องปากของคุณร่วมด้วย หากมีปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ จะได้แนะนำคุณได้
วิธีการใส่รีเทนเนอร์ที่ถูกต้อง
การใส่รีเทนเนอร์ที่ถูกต้องจะทำให้สามารถคงสภาพฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีคำแนะนำดังนี้
- ตรวจสอบให้ดีว่ากำลังใส่ชิ้นบน หรือชิ้นล่าง
- ใส่รีเทนเนอร์เข้าไปในปากก่อน อ้าปากกว้างๆ แล้วดันรีเทนเนอร์ให้ครอบตัวฟัน
- ดันรีเทนเนอร์ให้สุด โดยเฉพาะในส่วนของฟันหลัง หากคุณใช้รีเทนเนอร์แบบใส คุณสามารถกัดยางกัดฟัน chewies แล้วเคี้ยวเบาๆ เพื่อให้แน่ใจว่ารีเทนเนอร์ใสเข้าไปสุดทาง
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใส่รีเทนเนอร์
1. ฟันผุ
รีเทนเนอร์มีประโยชน์ในการคงสภาพฟันไว้ก็จริง แต่ก็สามารถเกิดการสะสมจะเศษอาหาร และคราบจุลินทรีย์ในระหว่างที่ใส่ได้ ซึ่งจะนำมาสู่โรคทางทันตกรรมอื่นๆ เช่น หินปูน เหงือกอักเสบ และฟัน คุณจึงควรทำความสะอาดรีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งห้ามลืมแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันทุกวันอีกด้วย
2. รีเทนเนอร์หลวม
รีเทนเนอร์หลวมมักเกิดในรีเทนเนอร์แบบลวดที่เสียหายจากลวดที่ถูกถ่างออก ไม่ว่าจะจากการเคี้ยวของแข็ง หรือจากอุบัติเหตุอื่นๆ รีเทนเนอร์ที่หลวมจะทำให้สูญเสียความสามารถในการคงสภาพฟัน คุณจึงควรติดต่อเรา เพื่อปรับรีเทนเนอร์ใหม่
3. รีเทนเนอร์แน่น คับ ใส่ไม่เข้า
หากคุณไม่สามารถใส่รีเทนเนอร์ได้ หรือใส่แล้วแน่นปวดมากผิดปกติ สาเหตุมักจะเกิดจากการที่คุณไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์เป็นเวลานานแล้วกลับมาใส่อีกครั้ง หรือรีเทนเนอร์เสียรูปทรงจากความร้อน หรือชำรุดเสียหายจากอุบัติเหตุ
คุณไม่ควรฝืนใส่รีเทนเนอร์ที่แน่น หรือคับจนเกินไป เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะในช่องปากได้ นอกจากนั้นอาจทำให้ฟันของคุณเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ กรุณาติดต่อเราเพื่อแก้ไขหรือทำรีเทนเนอร์ชิ้นใหม่
4. รีเทนเนอร์แตกหัก
รีเทนเนอร์สามารถแตกหักได้ โดยเฉพาะรีเทนเนอร์แบบใสที่เปราะบาง คุณควรเก็บรีเทนเนอร์ไว้ในกล่องเสมอเพื่อป้องกันการชำรุด หากรีเทนเนอร์ของคุณแตกหัก ชำรุดเสียหาย คุณควรเข้ามาทำรีเทนเนอร์ชิ้นใหม่กับเราโดยเร็ว ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ฟันที่ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์อาจเลื่อนตำแหน่งได้
วิธีการดูแล ทำความสะอาด รีเทนเนอร์
- ใช้แปรง และยาสีฟันทำความสะอาด เวลาเดียวกันกับการแปรงฟันตอนเช้า และก่อนนอน
- ห้ามใช้ยาสีฟันชนิดมีผงขัด เพราะจะทำให้รีเทนเนอร์เสียหาย
- สามารถนำเม็ดฟู่แช่ฟันปลอม ผสมน้ำ 1 แก้ว และแช่รีเทนเนอร์ทิ้งไว้ 5 นาที เพื่อทำความสะอาด
- ห้ามนำรีเทนเนอร์แช่ในน้ำร้อน เพราะจะทำให้ผิดรูป หากต้องการดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนจัดให้ถอดรีเทนเนอร์ออกก่อน
- เก็บรีเทนเนอร์ใส่กล่องเสมอ อย่าห่อกระดาษทิชชู่ เพราะจะทำหาย
- มาตรวจเช็ครีเทนเนอร์ตามนัดคุณหมอทุกครั้ง
- หากใส่แล้วเจ็บ หรือหลวม ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำนัดเข้ามาตรวจเช็คกับคุณหมอ
ข้อควรระวังในการใช้รีเทนเนอร์
- การดูแลรีเทนเนอร์อย่างเหมาะสม – คุณต้องทำความสะอาดรีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์ หากละเลยอาจทำให้มีกลิ่นปาก เกิดเหงือกอักเสบ หรือฟันผุได้
- มาพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ – หลังใส่รีเทนเนอร์คุณหมอจะมีนัดตรวจติดตามอาการเป็นระยะ เพื่อเช็คว่ารีเทนเนอร์ใส่ได้พอดีหรือไม่ และอาจมีการปรับรีเทนเนอร์ให้พอดีกับฟันของคุณ
- ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์ – คุณควรใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของคุณหมอ การลืมใส่รีเทนเนอร์บ่อยๆ อาจทำให้คุณต้องกลับมาจัดฟันรอบสองซ้ำอีกครั้ง
- การเปลี่ยนรีเทนเนอร์ – โดยปกติรีเทนเนอร์มีอายุการใช้งานหลายปี โดยรีเทนเนอร์ลวดจะแข็งแรงกว่า อย่างไรก็ตามหากคุณสังเกตว่ารีเทนเนอร์ของคุณหัก ชำรุด หรือเสื่อมสภาพ คุณควรติดต่อเรา เพื่อทำรีเทนเนอร์อันใหม่
- อาการแพ้ – คนไข้บางคนอาจมีอาการแพ้ต่อสารที่นำมาทำรีเทนเนอร์ ถึงแม้จะพบได้ไม่บ่อยแต่อาจเกิดอันตรายได้ หากคุณมีอาการบวม หรือแสบร้อนหลังใส่รีเทนเนอร์ควรถอดรีเทนเนอร์ออกแล้วรีบกลับมาพบคุณหมอโดยเร็ว
- พูดไม่ชัด – รีเทนเนอร์โดยเฉพาะแบบลวดอาจรบกวนการพูดและออกเสียงของคุณในช่วงแรก เมื่อกล้ามเนื้อของคุณปรับตัวในช่วงระยะเวลา 1-2 อาทิตย์ หลังจากนั้นคุณก็จะพูดชัดขึ้น
ไม่ใส่รีเทนเนอร์ 1 เดือน เป็นอะไรไหม ?
รีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่
โปรโมชั่นรีเทนเนอร์ของ Smile Seasons แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบดังนี้ (ราคานี้เป็นราคาปกติ อาจมีโปรโมชั่นลดราคากรุณาตรวจสอบจากหัวข้อโปรโมชั่นรีเทนเนอร์ ด้านบน)
-
รีเทนเนอร์แบบลวด สีมาตราฐาน 4,500
คุณสามารถเลือกสีของรีเทนเนอร์ของคุณได้ 1 สี
-
รีเทนเนอร์แบบลวด มีสีสันลวดลาย 5,000
ให้การทำรีเทนเนอร์เป็นเรื่องสนุก คุณสามารถเลือกรูปแบบน่ารักๆ ที่เราดีไซน์เอาไว้ให้ หรือจะออกแบบเองก็ได้ สามารถผสมสีตาม Pattern โรย Glitter เลือกใส่ Sticker ได้ตามใจชอบ
-
รีเทนเนอร์แบบใส 5,000
“รีเทนเนอร์แบบใสเหมาะสำหรับใส่ทำงานตอนกลางวัน เพราะเรียบร้อยกว่า ไม่รบกวนการพูด
ส่วนแบบลวดที่มีความแข็งแรงเหมาะสำหรับใส่ตอนกลางคืน
เราเลยออกโปรโมชั่น Duo Retainer มาให้สำหรับคนที่อยากทำรีเทนเนอร์ทั้ง 2 แบบ”
ลงทะเบียนจองโปรโมชั่น รีเทนเนอร์
เพียงกรอกรายละเอียด และรอเจ้าหน้าที่ของเราติดต่อกลับ คุณสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และทำนัดหมายเข้ามาพบคุณหมอได้ทันที
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับรีเทนเนอร์
รีเทนเนอร์ คืออะไร
รีเทนเนอร์ (Retainer) คือ เครื่องมือที่ใช้คงสภาพและตำแหน่งของฟัน หลังจากคุณได้รับการจัดฟันจนเสร็จและถอดเครื่องมือจัดฟันออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รีเทนเนอร์แฟชั่นคืออะไร ทำไมราคาถูกมาก
รีเทนเนอร์แฟชั่นคือ รีเทนเนอร์ที่ไม่ได้ผลิตและกำกับดูแลโดยทันตแพทย์ รวมทั้งรีเทนเนอร์ที่โฆษณาว่าผลิตจากห้องแลป/ช่างทันตกรรมก็ถือเป็นรีเทนเนอร์แฟชั่นด้วย ซึ่งนอกจากจะผิดกฏหมายแล้ว ยังเป็นอันตราย ทำให้การเรียงตัวของฟันผิดปกติ และเกิดปัญหาตามมามากมาย หรืออาจติดเชื้อจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
คุณควรใส่รีเทนเนอร์ตอนไหนบ้าง
ช่วงแรกหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน สภาพกระดูกและเหงือกที่ห่อหุ้มฟันต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่ ดังนั้นคุณควรใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา (รวมถึงเวลานอนหลับด้วย) ถอดได้เฉพาะเวลาแปรงฟัน และรับประทานอาหาร การใส่รีเทนเนอร์ไม่สม่ำเสมอ จะทำให้ฟันเคลื่อนกลับสู่ตำแหน่งเดิม หากทิ้งไว้นานจะทำให้ใส่รีเทนเนอร์ไม่ลง หรือปวดมาก ซึ่งอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายทำรีเทนเนอร์ชุดใหม่ หรือถึงขั้นต้องจัดฟันรอบใหม่กันเลยทีเดียว
ขั้นตอนการทำรีเทนเนอร์
รีเทนเนอร์ต้องมีขนาดและรูปร่างที่พอดีกับฟันของคนไข้ ขั้นตอนแรกคือการพิมพ์โมเดลฟัน เพื่อส่งให้ห้องแลปทันตกรรมที่ได้มาตราฐานผลิตชิ้นงานออกมา
หลังจากนั้น คุณหมอจะนัดคุณเข้ามาใส่รีเทนเนอร์ และปรับแต่งเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถใส่รีเทนเนอร์ได้พอดี และไม่เจ็บปวด นอกจากนี้คุณจะตรวจสุขภาพช่องปากของคุณร่วมด้วย หากมีปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ จะได้แนะนำคุณได้
ใส่รีเทนเนอร์อย่างไร
จับรีเทนเนอร์วางบนฟันตามรูปร่าง แล้วกดเบาๆ ให้ลงล๊อค ไล่จากฟันหน้าไปฟันหลัง ให้แน่ใจว่ารีเทนเนอร์แนบสนิทกับฟัน ไม่ควรใช้ฟันกัดให้ลงล๊อคเพราะอาจะทำให้รีเทนเนอร์หัก หรือผิดรูป
ต้องใส่รีเทนเนอร์ไปนานเท่าไหร่
ผู้ป่วยที่จัดฟันต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดชีวิต โดยเฉพาะช่วงปีแรกหลังถอดเครื่องมือจัดฟันที่ควรต้องใส่ตลอดเวลา หลังจากนั้นก็สามารถลดระยะเวลาการใส่ได้จนเหลือเฉพาะแค่ตอนเข้านอน
ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์จะเป็นอย่างไร
หากคุณไม่ใส่รีเทนเนอร์ ฟันของคุณจะเคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิม (Tooth Relapse) ถ้าทิ้งไว้นานๆ คุณอาจจะต้องจัดฟันใหม่
รีเทนเนอร์ใส่กินข้าวได้มีไหม
เดี๋ยวนี้มีรีเทนเนอร์ชนิดที่ทำจากโลหะทั้งชิ้น ซึ่งโฆษณาว่าสามารถใส่รับประทานอาหารได้ ซึ่งในมุมมองของคุณหมอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรีเทนเนอร์แบบไหนก็ควรต้องถอดออกมาทำความสะอาดอยู่ดี เราคงไม่ใส่รีเทนเนอร์ทานอาหารแล้วไม่ทำความสะอาดไปเรื่อยๆ นอกจากนั้นคุณอาจต้องกรอเนื้อฟันธรรมชาติออกอีกด้วย
รีเทนเนอร์หาย ต้องทำอย่างไร
เมื่อคุณทำรีเทนเนอร์หาย อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน รีบติดต่อเราเพื่อทำรีเทนเนอร์ชิ้นใหม่ ก่อนฟันของคุณจะเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม
ใส่รีเทนเนอร์ไม่ได้ ต้องทำอย่างไร
อย่าฝืนใส่รีเทนเนอร์ที่คับมาก เพราะอาจทำให้อวัยวะในช่องปากของคุณได้รับบาดเจ็บ คุณควรติดต่อเราเพื่อนำรีเทนเนอร์เข้ามาตรวจเช็ค
ทำอย่างไรหากรีเทนเนอร์มีกลิ่น
หากรีเทนเนอร์ของคุณมีกลิ่น แปลว่าคุณทำความสะอาดรีเทนเนอร์ไม่ดี คุณควรทำความสะอาดรีเทนเนอร์ไปพร้อมกับการแปรงฟันทุกครั้ง นานๆ ครั้งคุณอาจนำเม็ดฟู่สำหรับแช่ฟันปลอม ผสมาน้ำ 1 แก้ว และแช่รีเทนเนอร์ทิ้งไว้ 5 นาที
รีเทนเนอร์ทำให้ฟันเคลื่อนแบบจัดฟันแบบใสหรือไม่
รีเทนเนอร์ไม่มีแรงเพียงพอที่จะเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งต่างๆ ได้ หากคุณต้องการแก้ไขฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม เราแนะนำให้คุณจัดฟันจะดีกว่า
จัดฟันจากที่อื่น สามารถทำรีเทนเนอร์กับที่ใหม่ได้หรือไม่
คุณสามารถทำรีเทนเนอร์กับเราได้ ไม่ว่าจะได้รับการจัดฟันจากที่ไหน
สรุปเกี่ยวกับรีเทนเนอร์ (Retainer)
รีเทนเนอร์ (Retainer) เป็นเครื่องมือคงสภาพฟันให้อยู่ในตำแหน่งหลังจัดฟัน ไม่เคลื่อนกลับที่เดิม มีทั้งแบบติดแน่น และแบบถอดได้ซึ่งแบ่งเป็นแบบลวดที่มีอายุการใช้งานนานกว่า และแบบใสที่สวยงาม เรียบร้อย
ช่วงแรกปีแรกหลังจัดฟันเสร็จคุณควรใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา หลังจากนั้นสามารถใส่เฉพาะตอนกลางคืนได้
คุณควรทำความสะอาดรีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ารีเทนเนอร์หลวม หรือคับเกินไป คุณควรเข้ามาพบคุณหมอเพื่อปรับ หรือทำรีเทนเนอร์ใหม่
รีเทนเนอร์ที่ Smile Seasons มีราคาเริ่มต้นเพียง 2,999 บ. สามารถเปลี่ยนเป็น แบบที่มีลวดลาย หรือแบบใสได้ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นทำรีเทนเนอร์แบบลวด และแบบใสไปพร้อมกันในราคาลดพิเศษ 30-50%
บทความโดย
ทพญ.ณิฌา รักษาทรัพย์
ประกาศนียบัตรทันตกรรมจัดฟัน K-9 Orthodontic Center
ทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
รีวิวจากคนไข้ที่ใช้รีเทนเนอร์ของเรา
เกลารากฟันคืออะไร สำคัญต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร
เกลารากฟันคืออะไร สำคัญต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร การเกลารากฟัน หรือ Root Planing เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่พบได้บ่อย และสำคัญมาก มักเป็นหนึ่งในทางเลือกแรกของการรักษา โรคปริทันต์ และ โรคเหงือกอักเสบที่รุนแรง หากคุณหนึ่งในคนที่ได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ให้เกลารากฟัน ในบทความนี้คุณหมอจะมาอธิบาย ข้อบ่งชี้ ขั้นตอน ข้อควรระวัง และการดูแลตัวเองหลังเกลารากฟัน เกลารากฟันคืออะไร เกลารากฟัน (Root Planing) เป็นหัตถการทางทันตกรรมที่มุ่งเน้นการกำจัดคราบหินปูนและจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่บริเวณใต้เหงือก ซึ่งแตกต่างจากการขูดหินปูนโดยทั่วไปที่เน้นการกำจัดหินปูนที่อยู่เหนือเหงือก
ทำความเข้าใจการปักสกรูเวลาจัดฟันคืออะไร
ทำความเข้าใจการปักสกรูเวลาจัดฟันคืออะไร การปักสกรูเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้จัดฟัน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ได้ทำในทุกคน คุณหมอจะพิจารณาใช้วิธีการปักสกรูในคนไข้จัดฟันบางรายที่จำเป็นต้องใช้แรงดึงที่ซับซ้อนในการเคลื่อนตำแหน่งของฟันเท่านั้น แม้ว่าการปักสกรูจัดฟันจะฟังดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วเป็นกระบวนการที่ปลอดภัย ไม่ซับซ้อน และเจ็บน้อยกว่าที่คิด บทความนี้จะช่วยทุกคนไปทำความเข้าใจว่าทำไมถึงต้องใช้การปักสกรูจัดฟัน หมุดจัดฟันคืออะไร หมุดจัดฟันหรือสกรูจัดฟัน (Orthodontic Mini-screws) เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ทำจากโลหะไทเทเนียม มีคุณสมบัติพิเศษคือไม่ก่อให้เกิดการแพ้ หมุดจัดฟันมีขนาดเล็กมาก โดยทั่วไปมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2-2 มิลลิเมตร และยาว 6-12 มิลลิเมตร
ใครจัดฟันต้องอ่าน เลือกแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันอย่างไรให้เหมาะสม
ใครจัดฟันต้องอ่าน เลือกแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันอย่างไรให้เหมาะสม การจัดฟันแบบติดแน่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเรื่องการทำความสะอาดช่องปาก เพราะเครื่องมือจัดฟันมักเป็นที่สะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย การเลือกแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันให้มีความเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ที่ผู้จัดฟันควรให้ความใส่ใจ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันต่างจากแปรงสีฟันทั่วไปอย่างไร แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากแปรงสีฟันทั่วไป ทั้งในด้านขนแปรงที่มีความนุ่มและความหนาแน่นพิเศษ พร้อมทั้งมีรูปทรงที่ออกแบบมาให้เข้าถึงซอกมุมรอบเครื่องมือจัดฟันได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ทำความสะอาดได้ทุกซอกมุม ที่สำคัญด้ามจับที่ออกแบบมาให้จับถนัดมือเพื่อให้ควบคุมแรงได้ดี ช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงโดยที่ไม่ทำลายเหงือกและฟัน ทำไมคนจัดฟันต้องใช้แปรงสีฟันพิเศษ? เครื่องมือจัดฟันที่ติดแน่นบนผิวฟันเป็นจุดที่เศษอาหารและคราบแบคทีเรียสะสมได้ง่าย แปรงสีฟันทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงซอกมุมเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งขนแปรงที่แข็งเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเหงือกและทำลายผิวฟันได้ การใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันจึงช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ชวนหาคำตอบจัดฟันแล้วฟันผุเกิดจากอะไร
ชวนหาคำตอบจัดฟันแล้วฟันผุเกิดจากอะไร การจัดฟันเป็นทันตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันให้มีความสวยงามและมีการสบฟันที่เป็นปกติ แต่เนื่องจากการจัดฟันแบบติดแน่นต้องมีเครื่องมือจัดฟันอยู่บนฟันทุกซี่และไม่สามารถถอดออกได้ ทำให้การทำความสะอาดฟันทำได้ยากกว่าปกติ หากดูแลสุขภาพช่องปากได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุตามมาได้ มาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้จัดฟันแล้วฟันผุมีอะไรบ้าง และมีวิธีป้องกันแก้ไขอย่างไร สาเหตุที่ทำให้จัดฟันแล้วฟันผุ การจัดฟันไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดฟันผุ แต่การจัดฟันแบบติดแน่นที่จำเป็นต้องติดเครื่องมือที่ฟัน ทำให้ส่งผลให้คราบอาหารเข้าไปติดได้ง่ายขึ้น จึงทำความสะอาดช่องปากได้ยากขึ้น ทั้งการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งถือเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย หากทำความสะอาดได้ไม่ดี จะเพิ่มความเสี่ยงให้จัดฟันแล้วฟันผุได้มากกว่าคนที่ไม่ได้จัดฟัน สัญญาณเตือนที่ควรระวังว่าอาจมีปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุ ฟันผุเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้บ่อยในผู้ที่จัดฟัน โดยเฉพาะผู้ที่ดูแลความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ มาดูกันว่ามีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังมีปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุ มีกลิ่นปาก
เปิดเทคนิคการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าให้ตอบโจทย์
เปิดเทคนิคการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าให้ตอบโจทย์ ในปัจจุบัน แปรงสีฟันไฟฟ้าได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมาก และเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่คนนิยมเลือกซื้อเพื่อมาดูแลรักษาสุขอนามัยช่องปากของตัวเอง แปรงสีฟันไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างจากแปรงสีฟันโดยทั่วไป แต่ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าแล้วแปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าจริงหรือไม่ คุ้มค่าไหมที่จะหาซื้อมาใช้ บทความนี้จะมาแนะนำแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบต่างๆ พร้อมเทคนิคการเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าให้เหมาะกับคุณ พร้อมทั้งแนะนำ ประเภท คุณสมบัติ และวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าเหมาะกับการดูแลสุขภาพช่องปากของคุณหรือไม่ แปรงสีฟันไฟฟ้า คืออะไร แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟัน โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หรือการชาร์จไฟ เพื่อขับเคลื่อนหัวแปรงให้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถขจัดคราบพลัคและเศษอาหารได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา แปรงสีฟันไฟฟ้ามักมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบจับเวลา โหมดการทำงานหลากหลาย
เปิดสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วทอนซิล พร้อมแชร์วิธีรักษานิ่วทอนซิล
เปิดสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วทอนซิล พร้อมแชร์วิธีรักษานิ่วทอนซิล นิ่วทอนซิลเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้ไม่บ่อยนัก มักเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก แม้จะไม่อันตรายร้ายแรง แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้ บทความนี้ Smile Seasons จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ สาเหตุการเกิดนิ่วทอนซิล อาการ และวิธีรักษานิ่วทอนซิลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ นิ่วทอนซิลคืออะไร นิ่วทอนซิล หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Tonsil Stones หรือ Tonsilloliths คือ ก้อนสีขาวเหลืองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นตามซอกของต่อมทอนซิล ซึ่งก้อนเหล่านี้เกิดจากการสะสมของเศษอาหาร