หลังจัดฟันเสร็จแล้วต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง

การดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันเสร็จ

การจัดฟันเป็นกระบวนการที่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามมากขึ้น แต่หลังจัดฟันเสร็จแล้วหากไม่มีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีฟันก็จะไม่เรียงตัวสวยงามตลอดไป การดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันเสร็จแล้วจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจ บทความนี้ Smile Seasons จะชวนทุกคนไปดูกันว่าหลังจัดฟันเสร็จแล้วนั้นต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไร หากไม่ดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีจะส่งผลต่อฟันอย่างไรบ้าง

การจัดฟันส่งผลต่อสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง

การจัดฟันไม่ได้เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปากในด้านอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งระหว่างการจัดฟันกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟันจะเกิดการปรับตัวให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามอย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยให้การทำความสะอาดช่องปากง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกและฟันผุ อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาการบดเคี้ยวและการพูด

แม้ว่าหลังจากจัดฟันเสร็จแล้วโครงสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟันจะเรียงตัวสวยงาม แต่หากไม่มีการดูแลที่ดีโครงสร้างของฟันมีแนวโน้มที่จะพยายามดึงฟันกลับไปยังตำแหน่งเดิม การดูแลหลังจัดฟันเสร็จแล้วจึงมีความสำคัญ หากไม่มีการดูแลที่เหมาะสม ฟันอาจเคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้ ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดฟันใหม่

หลังจัดฟันต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไร

หลังจัดฟันต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไร

การดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันเสร็จแล้วเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาให้โครงสร้างของฟันเรียงตัวสวยงาม โดยที่ฟันไม่ล้ม ไปดูกันว่าวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันมีอะไรบ้าง

1. ใส่รีเทนเนอร์

เมื่อจัดฟันเสร็จแล้วทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปในช่วงแรกหลังจัดฟันเสร็จแล้ว คุณอาจต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ยกเว้นเวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน เพราะรีเทนเนอร์คือเครื่องมือคงสภาพฟัน ทำหน้าที่ช่วยยึดให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิม

การใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของทันตแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามที่กำหนด ฟันอาจเคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิม ทำให้ต้องกลับไปจัดฟันใหม่อีกครั้ง ทำให้เสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งรีเทนเนอร์มีด้วยกันหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ทันตแพทย์จะพิจารณาเลือกประเภทที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

2. หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว

แม้ว่าหลังจัดฟันเสร็จแล้วจะสามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้นกว่าในช่วงที่กำลังจัดฟัน แต่ก็ยังควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารบางประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รีเทนเนอร์แบบติดถาวรควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็ง เหนียว หรือกรอบมากเกินไป เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์แบบติดถาวรหลุดหรือเสียหายได้ นอกจากนี้ อาหารที่เหนียวติดฟัน เช่น ลูกอม ทอฟฟี่ หรือหมากฝรั่ง ติดบนรีเทนเนอร์หรือซอกฟัน ทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย

หากคุณใช้รีเทนเนอร์แบบถอดได้ ควรถอดออกก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง และควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพฟันและเหงือก เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีแคลเซียมสูง เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟันหลังจัดฟันเสร็จแล้ว

3. แปรงฟันหลังรับประทานอาหาร

การรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดีเป็นสิ่งสำคัญหลังจัดฟันเสร็จแล้ว การแปรงฟันอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและคราบอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดฟันผุและโรคเหงือก ดังนั้นควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หรือดีที่สุดคือหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ โดยเลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ แปรงอย่างน้อย 2 นาที ให้ทั่วทุกด้านของฟัน

นอกจากการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจัดฟันเสร็จแล้ว เนื่องจากบริเวณซอกฟันอาจมีเศษอาหารตกค้างได้ง่าย การใช้ไหมขัดฟันจะช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง รวมถึงมีการใช้น้ำยาบ้วนปากก็เป็นตัวช่วยเสริมที่ดีในการดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันเสร็จแล้ว ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเคลือบฟันและลดการสะสมของแบคทีเรีย 

4. ทำความสะอาดรีเทนเนอร์

การทำความสะอาดรีเทนเนอร์เป็นประจำเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำหลังจัดฟันเสร็จแล้ว เนื่องจากรีเทนเนอร์สามารถเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและคราบอาหารได้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากหลังจัดฟัน ดังนั้นควรล้างรีเทนเนอร์ด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นทุกครั้งที่ถอดออกและก่อนใส่ นอกจากนี้ควรแช่รีเทนเนอร์ในน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมเป็นประจำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกำจัดคราบสกปรกที่ตกค้าง และเก็บรีเทนเนอร์ในกล่องที่สะอาดและแห้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน

5. ตรวจสุขภาพฟันประจำปี

การตรวจสุขภาพฟันประจำปี ควรทำทุก ๆ 6 เดือน รวมถึงต้องมีการขูดหินปูนทุก ๆ 6 เดือนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่จัดฟันเสร็จแล้ว เพราะการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำจะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถติดตามผลการจัดฟันและตรวจสอบว่าฟันยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ ทันตแพทย์ยังสามารถตรวจพบปัญหาต่าง ๆ ได้แต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะลุกลามจนรุนแรง

ผลกระทบหลังจัดฟันเสร็จแล้วไม่ดูแลสุขภาพช่องปาก

ผลกระทบหลังจัดฟันเสร็จแล้วไม่ดูแลสุขภาพช่องปาก

การไม่ดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันเสร็จแล้วเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ฟันมีการเรียงตัวสวยงาม แต่ในกรณีที่ไม่มีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี โดยเฉพาะการไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพฟัน และส่งผลกระทบตามมามากมาย ดังนี้

ฟันเคลื่อนตัว

หลังจากที่จัดฟันเสร็จแล้ว แต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อาจทำให้เกิดปัญหาฟันเริ่มเคลื่อนตัวกลับไปยังตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่ถอดเครื่องมือจัดฟันแล้วไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามที่แพทย์แนะนำ ฟันจะเคลื่อนตัวไปจากตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือการสบฟันตามมา ดังนั้นการใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอหลังจัดฟันเสร็จแล้วจะช่วยต้านแรงดึงนี้และรักษาตำแหน่งฟันให้คงที่

ฟันล้ม

ฟันล้มเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ตามมาหลังจัดฟันเสร็จแล้ว ซึ่งเกิดจากการไม่ดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ ฟันที่มีการเรียงตัวอย่างสวยงามอาจเริ่มเอียงหรือล้มไปด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งอาจส่งผลต่อความสวยงาม นอกจากนี้ ฟันล้มยังอาจส่งผลต่อการบดเคี้ยวและการสบฟันที่ไม่สมดุล ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาข้อต่อขากรรไกรในระยะยาวได้

ฟันไม่เรียง

การจัดฟันเป็นตัวช่วยที่ทำให้ฟันเรียงตัวสวยงาม เพื่อรอยยิ้มที่สดใสอย่างมั่นใจ แต่หลังจัดฟันเสร็จแล้วแต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ อาจทำให้เกิดปัญหาฟันไม่เรียงหลังจัดฟันเสร็จ ซึ่งเป็นผลมาจากการเคลื่อนตัวของฟันหลายซี่พร้อมกัน ทำให้ฟันกลับมาซ้อนเก หรือฟันห่างกันอีกครั้ง ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามแล้ว ยังทำให้เศษอาหารติดตามซอกฟันได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าถึงได้ยาก ทำให้เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์และนำไปสู่ฟันผุและโรคเหงือกได้ง่ายขึ้น

แนวทางแก้ไขเมื่อหลังจัดฟัน ฟันล้ม

หลังจัดฟันเสร็จแล้วหากพบว่าฟันเริ่มมีการล้มหรือเคลื่อนตัว ควรรีบเข้าปรึกษาทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด การรักษาในระยะเริ่มต้นจะทำได้ง่ายและประหยัดเวลากว่าการปล่อยให้ปัญหาลุกลามมากขึ้น ในกรณีที่ฟันเคลื่อนตัวมาก อาจต้องจัดฟันซ้ำรอบสอง หลังการแก้ไขปัญหาแล้ว การใส่รีเทนเนอร์อย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของทันตแพทย์และการตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำ

สรุป

หลังจากจัดฟันเสร็จแล้วควรใส่รีเทนเนอร์ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งมีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีทั้งการแปรงฟันให้ถูกต้อง ตรวจสุขภาพช่องปากทุก ๆ 6 เดือน และหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง หรือเหนียว เพื่อช่วยให้ฟันแข็งแรง สำหรับใครที่มีปัญหาหลังจัดฟันเสร็จแล้ว สามารถเข้ามาปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ Smile Seasons เราพร้อมให้การดูแลรักษาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน เราขอความยินยอมของคุณในการใช้คุกกี้ ดูรายละเอียด นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือ คุกกี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน เราขอความยินยอมของคุณในการใช้คุกกี้ ดูรายละเอียด นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือ คุกกี้