เชฟเก็บไว้เลยกับรีวิว 5 ไหมขัดฟันเลือกยี่ห้อไหนดี
การดูแลช่องปากเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แม้การแปรงฟันจะเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่หลายคนทำอยู่ทุกวัน แต่การทำความสะอาดซอกฟันที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยแปรงสีฟันอาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุและโรคเหงือกต่าง ๆ การใช้ไหมขัดฟัน จึงเป็นการเสริมการดูแลช่องปากที่จำเป็นสำหรับทุกคน บทความนี้ Smile Seasons จะมารีวิว 5 ไหมขัดฟันที่ดีที่สุด พร้อมคำแนะนำในการเลือกไหมขัดฟัน ให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
5 ไหมขัดฟันที่คัดมาแล้วว่าดี!
เมื่อพูดถึงไหมขัดฟัน มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้งาน โดยแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณเลือกได้เหมาะสมที่สุด เราจึงได้ทำการรวบรวม 5 ไหมขัดฟันที่คัดมาแล้วว่าดี
1.Oral-B Superfloss
Oral-B เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในวงการดูแลสุขภาพช่องปากไหมขัดฟัน Oral-B Superfloss มาในรูปแบบกล่องที่บรรจุ 50 ชิ้น พร้อมการออกแบบที่สะดวกต่อการใช้งาน ไหมขัดฟันชนิดนี้มีปลายด้านหนึ่งที่แข็งเหมือนเข็ม ทำให้สะดวกในการทำความสะอาดฟันที่มีเหล็กจัดฟันหรือสะพานฟัน โดยเส้นใยของไหมมีลักษณะนุ่มคล้ายฟองน้ำที่ช่วยทำความสะอาดซอกฟันได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เหงือกบาดเจ็บจากการใช้ไหมขัดฟันที่มีความคมเกินไป
- ราคา 199 บาท
- ความยาว 50 เมตร
2.Sparkle รุ่น Dental Floss SK0059
Sparkle ไหมขัดฟันแบบเส้นไหมที่มีขนาด 30 เมตร ตัวเส้นไหมมีความสามารถในการขยายตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำ ช่วยทำความสะอาดร่องฟันได้ดี โดยไม่ทำให้เส้นไหมขาดได้ง่าย นอกจากนี้ยังเคลือบขี้ผึ้งที่ช่วยเพิ่มความเหนียวไม่ทำให้ขาดง่าย ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีฟันแน่นและต้องการไหมขัดฟันที่มีความทนทาน
- ราคา 55 บาท
- ความยาว 30 เมตร
3.Dentiste’ Whitening Dental Floss
ไหมขัดฟันจาก Dentiste’ มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษในการขจัดคราบพลัค และช่วยขัดฟันให้ขาวขึ้น Dentiste’ Whitening Dental Floss ใช้เส้นใยไนลอนที่มีคุณสมบัติขยายตัวเมื่อสัมผัสกับความชื้นจากน้ำลาย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดคราบแบคทีเรียและคราบพลัคได้ดียิ่งขึ้น
- ราคา 105 บาท
- ความยาว 30 เมตร
4.Systema Silky Floss Plus Fluoride
Systema Silky Floss Plus Fluoride ไหมขัดฟันที่มีเส้นไหม PTFE ให้ความเหนียวนุ่มและทนทาน โดยไม่แตกเป็นขุย ข้อดีของรุ่นนี้คือมีการเคลือบสารฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันฟันผุและรักษาสุขภาพฟันให้แข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังมีกลิ่นมินต์ที่หอมสดชื่น ช่วยให้ช่องปากรู้สึกสะอาดทุกครั้งหลังการใช้
- ราคา 60 บาท
- ความยาว 50 เมตร
5.3M Dental Flosser
3M Dental Flosser เป็นไหมขัดฟันที่มาพร้อมกับด้ามจับ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกใช้ไหมขัดฟันด้วยมือ ไหมขัดฟันแบบด้ามจับนี้ช่วยให้การทำความสะอาดซอกฟันทำได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าไหมจะหลุดออกจากซอกฟันเมื่อใช้งาน
- ราคา 73 บาท
- จำนวน 30 ชิ้น
การเลือกประเภทของไหมขัดฟันให้เหมาะกับสุขภาพช่องปาก
- ฟันห่าง : ผู้ที่มีปัญหาฟันห่างควรใช้ไหมขัดฟันแบบเทป ซึ่งเป็นไหมขัดฟันแบบมาตรฐานทั่วไป ที่มีลักษณะเป็นแผ่นแบนและกว้างกว่าชนิดทั่วไป ช่วยทำความสะอาดช่องว่างระหว่างฟันได้ดีกว่าไหมขัดฟันแบบเส้น เช่น Dentiste’ Whitening Dental Floss
- ช่องฟันแน่นและแคบ : สำหรับใครที่มีลักษณะช่องฟันที่แน่นและแคบ ควรใช้ไหมขัดฟันที่เคลือบขี้ผึ้ง ที่มีความลื่นไหล ช่วยให้ไหมขัดฟันไหลเข้าไปในช่องฟันได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสไหมขัดฟันขาด อย่าง Sparkle รุ่น Dental Floss SK0059
- ใส่เครื่องมือจัดฟัน : ในกรณีที่คุณใส่เครื่องมือจัดฟัน หรือมีการใส่ฟันปลอม หรือฟันสะพาน ทำให้ช่องปากมีซอกที่เสี่ยงต่อการที่เสาอาหารติดได้มากขึ้น จึงควรใช้ไหมขัดฟันแบบซูเปอร์ฟลอสส์ ซึ่งเป็นไหมแบบพิเศษ ที่สามารถสอดเข้าไปในซอกฟัน หรือใต้เหล็กดัดฟัน ช่วยให้ขจัดเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน และเครื่องมือจัดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าง Oral-B Superfloss
- ผู้สูงอายุ : สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวข้อมือ ไม่สามารถขยับข้อมือได้สะดวก ควรเลือกใช้ไหมขัดฟันแบบมีด้ามจับ เพื่อให้ใช้ไหมขัดฟันได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้มือพันไหมขัดฟัน อย่าง 3M Dental Flosser
- ผู้ที่ฟันแข็งแรง และแน่นมาก : ผู้ที่มีสุขภาพฟันที่แน่นมาก จนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างฟัน การใช้ไหมขัดฟันแบบเดิม ๆ อาจทำให้ไหมขัดฟันขาดได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกไหมขัดฟันชนิดเส้นใยทนทาน เช่น Dentiste’ Whitening Dental Floss และSystema Silky Floss Plus Fluoride
- ฟันผุ : สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันผุควรเลือกไหมขัดฟันที่มีสารเคลือบฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันการเกิดปัญหาฟันผุ เช่น Systema Silky Floss Plus Fluoride
ประเภทของไหมขัดฟัน
- ไหมขัดฟันแบบเคลือบขี้ผึ้ง (Waxed Dental Floss) จะเคลือบด้วยชั้นขี้ผึ้ง ซึ่งช่วยให้ไหมลื่นและง่ายต่อการใช้งาน โดยเฉพาะกับผู้ที่มีซอกฟันแคบ ๆ ไหมชนิดนี้จะช่วยลดการฉีกขาดของไหมระหว่างการใช้งาน และทำให้การขัดฟันทำได้สะดวกขึ้น
- ไหมขัดฟันแบบไม่เคลือบขี้ผึ้ง (Unwaxed Dental Floss) ช่วยให้สามารถลื่นไหลเข้าไปในซอกฟันได้ง่ายขึ้น เหมาะกับคนที่มีซอกฟันแคบ หรือผู้ที่ชอบไหมขัดฟันที่ให้ความรู้สึกสัมผัสที่สะอาดและแน่น
- ไหมขัดฟันแบบนิ่ม (Soft or Comfort Floss) จะมีความนุ่มพิเศษ และออกแบบมาเพื่อคนที่มีเหงือกอ่อนหรือบอบบาง สามารถใช้ได้อย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้เหงือกบาดเจ็บหรือระคายเคือง
- ไหมขัดฟันชนิด Super Floss เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่เครื่องมือจัดฟันหรือมีฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ควรใช้ไหมชนิดนี้ เพราะมีลักษณะพิเศษที่สามารถใช้ทำความสะอาดระหว่างลวดและฟันได้ดี
- ไหมขัดฟันเส้นแบน (Flat Floss) มีลักษณะเป็นเส้นแบนกว้างกว่าไหมขัดฟันทั่วไป ช่วยในการทำความสะอาดพื้นที่กว้าง ๆ เช่น บริเวณฟันกรามหรือบริเวณที่มีคราบอาหารสะสมมาก
- ไหมขัดฟันแบบมีด้าม (Floss Holder) มีด้ามจับเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้มือขัดฟันได้สะดวก เช่น ผู้ที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวมือ หรือผู้ที่มีขนาดปากจำกัด ไหมขัดฟันชนิดนี้มีด้ามจับที่ช่วยให้สามารถทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องแหย่นิ้วเข้าไปในปาก
- ไหมขัดฟันพลังน้ำ (Water Flosser) คืออุปกรณ์ที่ใช้แรงดันน้ำในการทำความสะอาดซอกฟันและเหงือก ซึ่งสามารถปรับแรงดันน้ำได้ตามความต้องการ ไหมขัดฟันพลังน้ำสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ล้ำลึก
วิธีใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง
การใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้องจะช่วยให้ฟันสะอาดและไม่มีการสะสมของเศษอาหารที่สามารถทำให้เกิดปัญหาฟันผุได้ วิธีการใช้ที่ถูกต้องคือ
- ดึงไหมขัดฟันออกมาประมาณ 12 นิ้ว พันรอบนิ้วกลางทั้งสองข้าง
- ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับไหมให้ตึงแล้วขยับไปมาผ่านซอกฟัน
- ค่อย ๆ ขยับไหมขึ้น-ลงในซอกฟันเพื่อทำความสะอาด
- ทำความสะอาดฟันทุกซี่จนทั่ว
การเลือกไหมขัดฟันให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกไหมขัดฟันควรคำนึงถึงลักษณะช่องปากและฟันของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษาความสะอาดช่องปาก สำหรับใครที่ติดเครื่องมือจัดฟันหรือสะพานฟัน ควรเลือกไหมขัดฟันที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการทำความสะอาดในช่องปากที่มีอุปกรณ์เสริม หากมีปัญหาฟันแน่นหรือมีช่องว่างแคบ ก็ควรเลือกไหมที่มีความแข็งแรงและสามารถขยายตัวได้ง่าย
สรุป
การใช้ไหมขัดฟันเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากที่มักถูกมองข้าม แม้การแปรงฟันจะช่วยทำความสะอาดได้บ้าง แต่การใช้ไหมขัดฟันจะช่วยทำความสะอาดซอกฟันและพื้นที่ที่แปรงฟันเข้าถึงได้ยาก ช่วยลดการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคฟันผุและเหงือกอักเสบ การเลือกไหมขัดฟันที่เหมาะสมกับช่องปากของเราจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษาความสะอาดและสุขภาพช่องปาก สำหรับใครที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก หรืออยากตรวจสุขภาพช่องปาก สามารถเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ได้ที่ Smile Seasons เพื่อปรึกษาและรับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที