เปิดเทคนิคการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าให้ตอบโจทย์

ในปัจจุบัน แปรงสีฟันไฟฟ้าได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมาก และเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่คนนิยมเลือกซื้อเพื่อมาดูแลรักษาสุขอนามัยช่องปากของตัวเอง แปรงสีฟันไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างจากแปรงสีฟันโดยทั่วไป แต่ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าแล้วแปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าจริงหรือไม่ คุ้มค่าไหมที่จะหาซื้อมาใช้ บทความนี้จะมาแนะนำแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบต่างๆ พร้อมเทคนิคการเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าให้เหมาะกับคุณ พร้อมทั้งแนะนำ ประเภท คุณสมบัติ และวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าเหมาะกับการดูแลสุขภาพช่องปากของคุณหรือไม่

แปรงสีฟันไฟฟ้า คืออะไร

แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟัน โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หรือการชาร์จไฟ เพื่อขับเคลื่อนหัวแปรงให้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถขจัดคราบพลัคและเศษอาหารได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา แปรงสีฟันไฟฟ้ามักมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบจับเวลา โหมดการทำงานหลากหลาย และเซนเซอร์แรงกด ช่วยให้การแปรงฟันมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อดีของแปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยทำความสะอาดช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแปรงสีฟันธรรมดา ด้วยการสั่นที่มีความถี่สูง ทำให้กำจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงือกอักเสบหรือต้องการดูแลสุขภาพช่องปาก ไปดูกันว่าข้อดีของแปรงไฟฟ้ามีอะไรอีกบ้าง 

ขจัดคราบหินปูนได้ดีกว่า

หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญของแปรงสีฟันไฟฟ้าคือความสามารถในการขจัดคราบหินปูนที่ดีกว่าแปรงสีฟันโดยทั่วไป ขนแปรงของแปรงสีฟันไฟฟ้านั้นหมุนและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในหลากหลายทิศทาง ทำให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า มีงานวิจัยออกมาสนับสนุนว่าการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ทำให้ลดการก่อตัวของคราบหินปูนได้ถึง 21% เมื่อเปรียบเทียบกับแปรงสีฟันแบบธรรมดา

สามารถจับเวลาได้

รู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่ใช้เวลาแปรงฟันไม่ถึง 2 นาทีตามคำแนะนำของทันตแพทย์ โหมดจับเวลาของแปรงสีฟันไฟฟ้ามีประโยชน์มากในแง่ของการบังคับให้คุณใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อย 2-3 นาที และยังมีการแบ่งการจับเวลาออกเป็น 4 ช่วง เพื่อให้คุณเปลี่ยนบริเวณทำความสะอาดตามกำหนดเวลา

ปรับแรงกดให้เหมาะสม

การแปรงฟันที่แรงเกินไปจะทำให้เหงือกร่น และฟันสึกได้ ในขณะที่การแปรงฟันที่เบาเกินไปก็จะไม่สามารถขจัดคราบหินปูนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าจะทำให้แรงที่กระทำต่อฟันและเหงือกเป็นไปอย่างเหมาะสมไม่เบาไป และไม่แรงไป แปรงบางรุ่นอาจจะหยุดทำงาน หรือแจ้งเตือนหากคุณใช้แรงกดที่มากเกินไป

ใช้งานได้ง่าย โดยเฉพาะกับคนไข้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง

คนไข้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับการทำงานของสมอง หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เช่น คนไข้โรคหลอดเลือดสมอง คนไข้อายุมาก หรือคนไข้โรคพาร์กินสัน จะไม่สามารถใช้แปรงสีฟันแบบธรรมดาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีประโยชน์อย่างมากในคนไข้เหล่านี้

ทำให้การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ

การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะในเด็กๆ ที่บางทีก็ไม่ค่อยชอบแปรงฟันสักเท่าไหร่ แปรงสีฟันไฟฟ้าบางรุ่นมาพร้อมกับความสามารถที่จะเชื่อมต่อกับ  Application ในโทรศัพท์มือถือ มีตัวการ์ตูนที่สามารถโต้ตอบ หรือมีปฎิสัมพันธ์ กับการแปรงฟันของเด็กๆ ได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่มีตัวช่วยในการสร้างเสริมนิสัยในการดูแลสุขอนามัยช่องปากที่ดีของบุตรหลานได้ง่ายยิ่งขึ้น

ประเภทของแปรงสีฟันไฟฟ้ามีอะไรบ้าง

แปรงสีฟันไฟฟ้ามีหลากหลายประเภท แต่ละแบบมีคุณสมบัติและข้อดีแตกต่างกันไป การเลือกประเภทที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคลและสภาพช่องปาก เราจะพาคุณไปรู้จักกับประเภทหลัก ๆ ของแปรงสีฟันไฟฟ้า เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกได้อย่างมั่นใจ

แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบสั่นหรือระบบหมุน

แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบสั่นหรือระบบหมุนเป็นประเภทที่พบได้ทั่วไปและมีราคาไม่สูงมาก หัวแปรงจะเคลื่อนที่ในลักษณะหมุนหรือสั่นด้วยความเร็วประมาณ 2,500-7,500 รอบต่อนาที ช่วยขจัดคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้เริ่มใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเพราะให้ความรู้สึกคล้ายกับการแปรงฟันแบบปกติ

แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบโซนิค

แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบโซนิคใช้เทคโนโลยีการสั่นความถี่สูง โดยทั่วไปจะมีความเร็วในการสั่นประมาณ 24,000-48,000 ครั้งต่อนาที ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของของเหลวระหว่างซี่ฟัน ช่วยกำจัดคราบพลัคได้ลึกกว่าระบบสั่นหรือหมุน นอกจากนี้ยังมีเสียงการทำงานที่เบากว่า ทำให้ไม่ก่อให้เกิดเสียงรำคาญใจขณะใช้งาน นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกนุ่มนวลขณะแปรงฟัน

แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบอัลตร้าโซนิค

แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบอัลตร้าโซนิคเป็นเทคโนโลยีล่าสุด ใช้คลื่นความถี่สูงมากถึง 1.6 ล้านครั้งต่อนาที ทำให้เกิดฟองขนาดเล็กที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ระหว่างซี่ฟันและใต้เหงือกได้ดี ช่วยกำจัดแบคทีเรียและคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องออกแรงกดมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเหงือกหรือฟันไวต่อความรู้สึก

เทคนิคเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าต้องดูอะไรบ้าง 

การเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่าย มีปัจจัยหลายอย่างที่ควรพิจารณา ตั้งแต่คุณสมบัติพื้นฐานไปจนถึงฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ในส่วนนี้ เราจะแนะนำเทคนิคการเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า เพื่อให้คุณได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและคุ้มค่ากับการลงทุน

ความถี่ของการขยับหัวแปรงต่อนาที

ความถี่ของการขยับหัวแปรงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด โดยทั่วไป ยิ่งความถี่สูง ประสิทธิภาพในการกำจัดคราบพลัคก็จะยิ่งดี ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรนำความถี่ของการขยับหัวแปรงต่อนาทีมาพิจารณาในการเลือกซื้อด้วย เพื่อให้ได้ระดับความขยับหัวแปรงตรงตามความต้องการ 

ขนาดหัวแปรง

ขนาดของหัวแปรงสีฟันไฟฟ้าควรเลือกให้เหมาะกับขนาดของช่องปาก โดยทั่วไปหัวแปรงที่มีขนาดเล็กจะเข้าถึงพื้นที่ยาก ๆ ได้ดีกว่า เช่น ฟันกรามซี่ในสุด ดังนั้นควรเลือกหัวแปรงที่มีขนาดประมาณ 0.5-1 นิ้ว สำหรับผู้ใหญ่ และขนาดเล็กกว่านี้สำหรับเด็ก นอกจากนี้ ควรพิจารณาความนุ่มของขนแปรงด้วย โดยเลือกให้เหมาะกับสภาพเหงือกและฟันของคุณ

โหมดทำความสะอาด

แปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นใหม่มักมีโหมดการทำงานหลากหลาย เช่น โหมดทำความสะอาดทั่วไป โหมดขัดขาว โหมดนวดเหงือก และโหมดอ่อนโยนสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเหงือก หรือฟันไวต่อความรู้สึก ดังนั้นการเลือกแปรงที่มีโหมดตรงกับความต้องการของคุณ เช่น หากมีปัญหาเหงือกอักเสบ ควรเลือกรุ่นที่มีโหมดนวดเหงือก หรือหากต้องการฟันขาวสดใส ควรเลือกรุ่นที่มีโหมดขัดขาว

เซนเซอร์แรงกด

เซนเซอร์แรงกดเป็นคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันการแปรงฟันแรงเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเหงือกร่นหรือฟันสึก เมื่อคุณกดแปรงแรงเกินไป ระบบจะทำการแจ้งเตือนเพื่อให้คุณปรับแรงกดให้เหมาะสม คุณสมบัตินี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มแปรงฟันแรงหรือผู้ที่มีปัญหาเหงือกร่น เหงือกอักเสบ

ระบบจับเวลา

ระบบจับเวลาช่วยให้คุณแปรงฟันได้ครบตามเวลาที่แนะนำคือ 2 นาที โดยแปรงสีฟันไฟฟ้าจะแจ้งเตือนทุก 30 วินาที เพื่อให้คุณเปลี่ยนบริเวณที่แปรง ช่วยให้คุณแปรงฟันได้อย่างทั่วถึง ซึ่งคุณสมบัติระบบจับเวลานี้ช่วยสร้างนิสัยการแปรงฟันที่ดีและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด

วิธีใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าให้ถูกต้อง

การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าให้ถูกวิธีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและป้องกันการบาดเจ็บของเหงือกและฟัน ควรเริ่มด้วยการบีบยาสีฟันลงบนหัวแปรงเล็กน้อย จากนั้นวางหัวแปรงที่มุม 45 องศากับเส้นขอบเหงือก เปิดสวิตช์แปรงและเคลื่อนที่ไปตามแนวฟันอย่างช้า ๆ โดยไม่ต้องออกแรงกดมากนัก โดยเริ่มจากการทำความสะอาดทีละส่วน เริ่มจากด้านนอกของฟัน ด้านใน และด้านบดเคี้ยว ใช้เวลาแปรงประมาณ 2 นาที และอย่าลืมทำความสะอาดลิ้นด้วย

แปรงสีฟันไฟฟ้า คุ้มค่าที่จะซื้อมาใช้หรือไม่?

จริงอยู่ที่การแปรงฟันอย่างถูกวิธีสามารถช่วยดูแลสุขภาพช่องปากของคุณได้เพียงพอ แต่การแปรงฟันอย่างถูกวิธีนั้นไม่ง่าย ต้องใช้เวลาเรียนรู้และฝึกฝน รวมถึงการจับเวลาทุกครั้งที่แปรงฟันก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากในชีวิตจริง

แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นตัวเลือกที่ทำให้การรักษาสุขอนามัยช่องปากของคุณง่ายขึ้น ถึงแม้จะเป็นการลงทุนที่มีการสูงในระยะแรก แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลดโอกาสในการเกิดโรคทันตกรรมต่างๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ ตามมา ในระยะยาวก็ถือว่าการซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าดีๆ มาใช้เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่คุ้มค่า

สรุป

การเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เหมาะสมและใช้งานอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพช่องปากของคุณ สำหรับปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้า คือ ประเภทของแปรง ความถี่ในการทำงาน ขนาดหัวแปรง โหมดการทำความสะอาด และคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ที่ตรงกับความต้องการของคุณ นอกจากนี้ การใช้งานอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมีสุขภาพช่องปากที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่อุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลช่องปากและการพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกทันตกรรม เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากประจำปี Smile Seasons พร้อมดูแลคุณด้วยทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้คุณมีสุขภาพช่องปากที่ดี