จัดฟันแบบใส Invisalign คืออะไร ราคาเท่าไหร่
จัดฟันแบบใส Invisalign คืออะไร
Invisalign เป็นการรักษาทางทันตกรรม จัดฟัน รูปแบบหนึ่งที่ใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส (Clear Aligner) สวมไปบนฟันเพื่อค่อยๆ ออกแรงเคลื่อนฟันของคุณอย่างนุ่มนวลไปยังตำแหน่งที่คุณหมอวางแผนเอาไว้
จัดฟันแบบใส Invisalign มีกี่ประเภท เลือกแบบไหนดี
อันที่จริงแล้ว Invisalign นั้นเหมือนกันทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบ เทคโนโลยี และวัสดุ SmartTrack ที่ใช้ การแบ่งประเภทจะใช้เกณฑ์ของจำนวนชิ้นงาน Invisalign ที่จำเป็นต้องใช้ในการเคลื่อนฟันของคุณไปยังตำแหน่งสุดท้ายที่ได้วางแผนเอาไว้ หากคุณเคยจัดฟันมาก่อน หรือเป็นเคสที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งฟันไม่มาก โดยสามารถแบ่ง Invisalign ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
Invisalign Express
Invisalign Lite
Invisalign Moderate
Invisalign Comprehensive
Essentials by Invisalign
สำหรับ Invisalign ประเภทนี้มีความพิเศษแตกต่างจาก Invisalign อื่นๆ โดยปกติแล้ว Invisalign มีการวิจัย และพัฒนาวัสดุสำหรับนำมาผลิต Invisalign ให้มีความทันสมัย โดยก่อนปี 2013 Invisalign ใช้วัสดุ Polymer ชื่อ Exceed 30 (EX30) ก่อนจะพัฒนาเป็น SmartTrack อย่างในปัจจุบัน
Essentials by Invisalign มีวิธีการออกแบบ และการผลิตเหมือนตามแบบฉบับ Invisalign ทุกอย่าง เพียงแต่เปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตไปเป็นรุ่นก่อน นั่นก็คือ EX30 นั่นเอง ทำให้ Essentials by Invisalign มีราคาที่ถูกลงกว่า Invisalign แบบปกติ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่คุณต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันนานขึ้น จากปกติ 7 วันเป็น 14 วัน ความสบายขณะใส่ก็อาจจะลดหลั่นลงมาบ้าง แต่ถ้าเทียบกับส่วนลดแล้วก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
Essentials by Invisalign มีจำนวนคู่ได้มากที่สุด 20 คู่ เหมาะสำหรับเคสที่ไม่ต้องถอนฟัน หรือเป็นการจัดฟันรอบสอง
คุณอาจใช้ Invisalign ประเภท express หรือ Lite ได้ แต่หากคุณเป็นเคสที่มีความซับซ้อน ต้องใช้จำนวน Invsialign หลายคู่ และต้องใช้เวลาจัดฟันยาวนานก็อาจจะต้องเขยิบเป็นประเภท Moderate หรือ Comprehensive ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
คุณอาจใช้ Invisalign ประเภท express หรือ Lite ได้ แต่หากคุณเป็นเคสที่มีความซับซ้อน ต้องใช้จำนวน Invsialign หลายคู่ และต้องใช้เวลาจัดฟันยาวนานก็อาจจะต้องเขยิบเป็นประเภท Moderate หรือ Comprehensive ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
การกำหนดประเภทของ Invisalign จำเป็นต้องเข้ารับการปรึกษากับทันตแพทย์ และต้องได้รับการสแกนฟัน 3D ด้วยเครื่อง iTero และออกแบบในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ถึงจะทราบจำนวน และชนิดของ Invisalign ที่เหมาะสมในการรักษา
หลักการทำงานของ Invisalign
Invisalign เป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใสที่ใช้เทคโนโลยี SmartTrack ในการผลิตเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถคืนรูปได้ดี แม้ในกรณีฟันซ้อนเกมาก ระบบนี้ทำงานโดยการส่งแรงเบาอย่างต่อเนื่องผ่านชุดเครื่องมือใส ซึ่งจะค่อยๆ เคลื่อนฟันไปตามแผนการรักษา โดยมีปุ่มเล็กๆ บนฟันช่วยควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ให้แม่นยำยิ่งขึ้น วิธีนี้ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ-
ใครบ้างที่เหมาะกับการจัดฟันแบบใส Invisalign
Invisalign เหมาะสำหรับคนหลายประเภท เช่น
- เด็กอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีปัญหาฟันเรียงตัวผิดปกติตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงเคสที่มีความซับซ้อน
- ผู้ที่มีปัญหาฟันเก ฟันห่าง ฟันที่มีการสบฟันผิดปกติ
- ดารา นักแสดง พิธีกร หรือกลุ่มอาชีพที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟันชัด
- ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางมาพบทันตแพทย์ เช่น อยู่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามการจัดฟันแบบใสด้วย Invisalign ก็จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของคุณด้วย โดยคุณต้องใส่เครื่องมือจัดฟันใสอยู่ตลอด มากกว่า 22 ชม. ต่อวัน ถึงจะทำให้การรักษาได้ผล
หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณเหมาะกับการจัดฟัน Invisalign หรือไม่ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือเข้ามาพูดคุยกับคุณหมอที่เป็น Invisalign Provider ของเรา หลังจากตรวจช่องปากอย่างละเอียดแล้ว คุณหมอสามารถให้คำแนะนำถึงทางเลือกในการจัดฟันรูปแบบต่างๆ รวมถึง Invisalign ได้
ข้อดีของการจัดฟันแบบใส Invisalign
1. สวยงาม ไม่เป็นที่สังเกต
แน่นอนว่า ข้อดีของ Invisalign ข้อแรกก็คือ อุปกรณ์ถูกผลิตขึ้นจากพลาสติกเกรดทางการแพทย์ซึ่งมีความใส และเมื่อสวมลงบนฟัน ก็ทำให้คนอื่นแทบไม่รู้เลยว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่
ในสมัยก่อนการจะจัดฟันแบบใสนั้นเป็นเรื่องที่ทำกันเฉพาะในหมู่ดารา นักร้อง นักแสดง ที่จำเป็นต้องมีรูปลักษณ์ที่ดูดีอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบัน Invisalign ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีหน้าที่การงานที่ต้องการบุคลิกภาพดูเป็นมืออาชีพ หรือต้องการจัดฟันโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อรอยยิ้มของคุณ การจัดฟันแบบใส Invisalign คือหนึ่งในคำตอบที่คุณกำลังตามหา.
2. ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า
3. สุขภาพช่องปากระหว่างจัดฟันดีกว่า
หากคุณเคย จัดฟันแบบโลหะ คุณจะทราบดีกว่า การแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันให้มีประสิทธิภาพนั้นต้องใช้เวลา และความพยายามมากกว่าปกติ เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ (Bracket) ถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคในดูแลสุขอนามัยภายในช่องปาก การที่ Invisalign สามารถถอดออกได้จะช่วยให้คุณสามารถดูแลช่องปากได้ดี และง่ายกว่า
4. ใส่สบายกว่า
ขึ้นชื่อว่าโลหะแน่นอนว่าย่อมมีโอกาสเกิดการระคายเคือง ต่อเยื่อบุช่องปากมากกว่า ในบางครั้งเหล็กก็ทิ่มกระพุ้งแก้มเป็นแผล หรือร้อนในตามมา แต่ Invisalign มีพื้นผิวที่เรียบลื่นไม่มีอะไรมาเกี่ยว หรือทำอันตรายอวัยวะข้างเคียง ทำให้ใส่ได้สบายกว่า
5. ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอาหาร
แน่นอนว่า อาหารแข็ง หรือเหนียวมากๆ รวมถึงอาหารที่ชิ้นใหญ่ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องมือจัดฟันในปาก แต่ถ้าจัดฟันแบบ Invisalign คุณเพียงแค่ถอดเครื่องมือ ก็สามารถเต็มที่กับของอร่อยในงานเลี้ยง ปาร์ตี้ หรือโอกาสสำคัญของคุณ
6. ประหยัดเวลา
7. ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มี Active Lifestyle
Invisalign ปลอดภัยและตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬา หรือกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เพราะหากจัดฟันแบบโลหะ เวลาเกิดอุบัติเหตุ เครื่องมือสามารถทำอันตรายต่ออวัยวะข้างเคียงได้ คุณหมอจึงแนะนำให้ใส่เฝือกสบฟัน (Mouth Guard) ทุกครั้งที่ลงเล่นกีฬา แต่ถ้าคุณจัดฟันแบบใส Invisalign คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในประเด็นนี้
8. รอยยิ้มสวยงาม เสริมความมั่นใจ
ข้อจำกัดของการจัดฟันแบบใส Invisalign
หลายคนคงสงสัยว่า แล้วการจัดฟันแบบใส แบบ Invisalign มีข้อจำกัดรึเปล่า? ลองมาดูข้อจำกัดไปพร้อมกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- เครื่องมือสามารถถอดเข้าถอดออกได้ ดังนั้นคนไข้ต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือ โดยควรใส่อย่างน้อย 22 ชั่วโมง/วัน
- การจัดฟันใส Invisalign ราคาค่อนข้างสูงกว่าการจัดฟันประเภทอื่น
- ไม่ได้เหมาะสำหรับฟันทุกแบบ หากคุณมีฟันที่เรียงตัวผิดปกติมากๆ หรือมีความผิดปกติของขากรรไกรร่วมด้วย การจัดฟันด้วยเครื่องมือติดแน่น อย่างการจัดฟันโลหะ หรือดาม่อน ก็อาจทำให้คุณหมอสามารถเคลื่อนฟันได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ทั้งนี้ต้องขึ้นกับลักษณะทางคลินิกของฟันของคุณ รวมถึงประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของคุณหมอที่ให้การรักษาด้วย
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส Invisalign
1. พบกับคุณหมอครั้งแรก
2. การเคลียร์ช่องปาก
3. การสแกนช่องปาก 3 มิติ (3D Intraoral scan)
4. การออกแบบและวางแผนการรักษา (Treatment Planning)
5. ช่วงใส่เครื่องมือจัดฟัน Invisalign
เมื่ออุปกรณ์จัดฟันถูกผลิตเรียบร้อย คุณหมอจะนัดคุณเข้ามาพบเพื่อใส่อุปกรณ์ชิ้นแรก และให้คำแนะนำรวมถึงวิธีการปฎิบัติตัวอย่างถูกต้องระหว่างจัดฟันด้วย Invisalign
ในบางกรณีคุณอาจต้องติดเครื่องมือพิเศษเรียกว่า attachment ซึ่งเป็นปุ่มเล็กๆ สีเหมือนฟันที่จะถูกติดลงไปบนผิวหน้าของฟัน เพื่อช่วยในการออกแรงเคลื่อนตำแหน่งของฟัน หรือช่วยเร่งให้ฟันเคลื่อนที่ได้ไวมากยิ่งขึ้น
คุณอาจต้องเข้ามาพบคุณหมอทุก 6-8 สัปดาห์ เพื่อดูความคืบหน้าในการเคลื่อนฟันว่าเป็นไปตามแผนการรักษาหรือไม่
6. เสร็จสิ้นการจัดฟัน และใส่รีเทนเนอร์
จัดฟันแบบใส Invisalign ราคาเท่าไหร่
ประเภท | จำนวนคู่ | ราคาโปรโมชั่น |
Invisalign Express | 7 คู่ | 59,000 |
Invisalign Lite | 14 คู่ | 109,000 |
Invisalign Moderate | 26 คู่ | 149,000 |
Invisalign Comprehensive | ไม่จำกัด | 169,000 |
Essentials by Invisalign* | 20 คู่ | 75,000 |
* ใช้วัสดุ EX30 ใส่ชิ้นงานนานขึ้นจากปกติ 7 วัน เป็น 14 วัน เหมาะกับเคสที่ไม่ต้องถอนฟัน หรือเคสจัดฟันรอบสอง
ขั้นตอนการแบ่งชำระ
- SCAN 3 มิติ ช่องปาก ชำระ 20,000 บ.
- หลัง Approve แผนการรักษา สามารถผ่อนชำระส่วนที่เหลือได้ สูงสุด 10 เดือน
- แถมฟรี รีเทนเนอร์ใส เมื่อจัดฟันเสร็จ
จัดฟันใส Invisalign ที่ไหนดี
- เป็น Official Invisalign Provider – เนื่องจากการจัดฟัน Invisalign มีความจำเพาะในการออกแบบ วางแผน ทันตแพทย์ที่จะจัดฟัน Invisalign จึงต้องผ่านการอบรมจาก Invisalign เสียก่อน
- ประสบการณ์ของคุณหมอ และคลินิก – Invisalign มีการจัดอันดับทันตแพทย์ หรือคลินิกตามจำนวนเคสของ Invisalign ที่อยู่ในความดูแล ยิ่งคุณหมอหรือคลินิกมีปริมาณคนไข้จำนวนมาก ก็หมายถึงมีประสบการณ์ในการดูแลคนไข้สูง
- รีวิวของคนไข้ท่านอื่น – ความคิดเห็นของคนไข้รายอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะบ่งบอกถึงคุณภาพของการรักษา และบริการ ซึ่งคุณควรนำมาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกคลินิก หรือคุณหมอที่จะจัดฟันแบบ Invisalign ให้กับคุณ
- ราคา – Invisalign เป็นการลงทุนที่มีราคาค่อนข้างสูง คลินิกต่างๆ จึงมักมีโปรโมชั่น หรือรูปแบบการผ่อนชำระที่หลากหลาย คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับราคาให้ดี และเลือกคลินิกที่มีราคา รวมถึงวิธีการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
- สถานที่ตั้ง ความสะดวกในการเดินทาง – ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใส Invisalign จะทำให้คุณไม่ต้องมาพบกับคุณหมอบ่อยๆ เหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ อย่างไรก็ตาม ในทุกๆ 6-8 สัปดาห์ คุณหมอก็จะนัดให้คุณเข้ามาพบ เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของฟันว่าเป็นไปตามแผนการรักษาหรือไม่ ฉะนั้นคุณควรเลือกคลินิกที่ใกล้บ้าน หรือที่ทำงาน สามารถเดินทางได้สะดวก หรือมีที่จอดรถสำหรับคุณ
- ลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอดูก่อน – การเข้ารับการรักษาด้วย Invisalign เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ หากคุณยังลังเล คุณสามารถเข้าไปพูดคุย หรือปรึกษากับคุณหมอก่อน
การเตรียมตัวก่อนจัดฟันใส Invisalign
1. ไปปรึกษา และสอบถามคุณหมอ
Invisalign เป็นจัดฟันแบบใส ชนิดหนึ่งซึ่งอาจจะไม่ได้เหมาะสมสำหรับทุกคน คุณสามารถติดต่อทำนัดกับทันตแพทย์เพื่อประเมิน และรับฟังคำแนะนำได้ว่าคุณเหมาะกับ Invisalign หรือไม่ มีตัวเลือก หรือข้อจำกัดในการรักษาอย่างไรบ้าง
2. วางแผนงบประมาณที่ต้องใช้
3. ฝึกตัวเองให้งดของกินจุบจิบ
เพื่อให้การเคลื่อนฟันเป็นไปตามแผนการรักษา คุณต้องใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใสของ Invisalign อย่างน้อยวันละ 22 ชม. หากคุณถอด Invisalign เข้าออกบ่อยๆ ระหว่างรับประทานขนม หรืออาหารก็จะส่งผลต่อการจัดฟันของคุณ
คุณควรเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีส่วนผสมของโปรตีน ไฟเบอร์ ไขมันดีในปริมาณสูง จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้อย่างยาวนานมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ธัญพืช, ขนมปังชนิด Whole Grains, กรีกโยเกิร์ต, อะโวคาโด, เนื้อปลา, ถั่วประเภทต่างๆ, ไข่, ผักและผลไม้ต่างๆ
4. เตรียมชุด Kit สำหรับทำความสะอาดช่องปาก
5. เคลียร์ช่องปาก
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจจัดฟันด้วยเครื่องมือประเภทอะไร หรือแม้แต่คุณยังไม่แน่ใจว่าจะจัดฟันหรือเปล่า หากคุณมีปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ เช่น หินปูน ฟันผุ ฟันคุด หรือเหงือกอักเสบ คุณก็ควรรีบทำการรักษา เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามใหญ่โต
ฉะนั้นในช่วงที่คุณกำลังตัดสินใจ หรืออยู่ในช่วงค้นหาคลินิก Invisalign ที่ถูกใจ คุณก็สามารถจัดการกับปัญหาทันตกรรมที่มีอยู่ไปได้เลย
การดูเเลฟันระหว่างจัดฟันใส Invisalign
- ใส่เครื่องมือจัดฟันตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาสภาพฟันและให้การจัดฟันเห็นผลตามเวลาที่กำหนด คุณควรใส่เครื่องมือจัดฟันตลอดเวลารวมถึงในตอนเข้านอนด้วย โดยทั่วไปจะแนะนำให้ใส่ต่อเนื่องอย่างน้อยวันละ 22 ชม.
- ถอดเครื่องมือจัดฟันออกเมื่อรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ยกเว้นน้ำเปล่า เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันอาจเสียรูปทรงเมื่อเจอกับอุณหภูมิร้อนจัด และคราบอาหารหรือเครื่องดื่มที่ค้างอยู่ ก็เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก และฟันผุ รวมถึงอาจติดสีใส่เครื่องมือจัดฟันด้วย
- หลังรับประทานอาหาร ควรแปรงฟันหรือบ้วนปากให้สะอาดก่อนใส่เครื่องมือจัดฟัน
- หมั่นทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟัน
- แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย
- พบคุณหมอตามที่นัดหมายทุกครั้ง
เครื่องมือ Invisalign ดูแลอย่างไร
- ทำความสะอาดบ่อยๆ – คุณควรทำความสะอาด Invisalign อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยทำไปพร้อมๆ กับการแปรงฟันตามปกติ คุณสามารถใช้ยาสีฟัน และแปรงสีฟันขนนุ่ม แปรงทำความสะอาดเบาๆ ทั้งด้านนอกและด้านในของ Invisalign
- คุณสามารถแช่ Invisalign ไว้ในน้ำ ผสมเม็ดฟู่สำหรับทำความสะอาดฟันปลอม หรือรีเทนเนอร์ วันละประมาณ 10-15 นาที
- หลีกเลี่ยงการใช้สารที่มีส่วนผสมของผงขัด หรือ Charcoal ในการทำความสะอาด Invisalign เพราะจะทำให้ชำรุด เป็นรอย และลดความใสลง
- สามารถล้างน้ำเปล่าได้เมื่อถอดออก – หากตอนกลางวันคุณไม่สะดวกแปรงฟัน อย่างน้อยทุกครั้งที่ถอด Invisalign ออก เราแนะนำให้คุณล้างน้ำเปล่าแล้วถูเบาๆ เพื่อขจัดคราบน้ำลาย และเชื้อโรค ก่อนที่จะใส่กลับเข้าไป
- เก็บ Invisalign ไว้ในกล่องเสมอ เพื่อป้องกันการชำรุด หรือสูญหาย
- ถอด Invisalign ออกก่อนรับประทานอาหารเสมอ
- อย่าให้ Invisalign โดนอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจัด เพราะอาจทำให้เสียรูปทรง ซึ่งจะกระทบกับผลการรักษาได้
ดี-aligner ทางเลือกใหม่ของการจัดฟันแบบใส
ดี-aligner คืออะไร
อยากจัดฟันใส ดี-aligner ทำอย่างไร ที่ไหนดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดฟันแบบใส (Invisalign)
จัดฟันแบบ Invisalign ดีกว่าการจัดฟันแบบโลหะไหม ?
หากจัดฟันใสแบบ Invisalign ต้องใช้เวลาจัดฟันกี่ปี ?
จัดฟันใส Invisalign ต้องใส่รีเทนเนอร์ไหม ?
การจัดฟันแบบใสมียี่ห้ออะไรอีกบ้าง ?
อายุขั้นต่ำของการจัดฟันใสแบบ Invisalign ?
จัดฟันใสแบบ Invisalign เจ็บไหม ?
คุณอาจรู้สึกถึงแรงดัน และปวดตึงเล็กน้อยได้ นั่นเป็นเพราะเครื่องมือจัดฟัน Invisalign กำลังออกแรงเคลื่อนที่ฟันของคุณอยู่ อย่างไรก็ตามแรงที่กระทำนั้นเป็นแรงที่ต่ำ แต่สม่ำเสมอ ทำให้เจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบโลหะที่ออกแรงมากในช่วงแรก และค่อยๆ ลดประสิทธิภาพลง ซึ่งเป็นเหตุที่คุณต้องไปปรับเครื่องมือกับคุณหมอบ่อยๆ
อย่างไรก็ตามเด็กเล็กมีวินัยในการใส่เครื่องมือจัดฟันน้อยกว่าผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น หากน้องๆ ไม่สามารถใส่ Invisalign ได้นานก็อาจทำให้การรักษาล่าช้า หรือล้มเหลว ซึ่งในกรณีแบบนี้การจัดฟันแบบติดแน่นก็อาจจะเหมาะสมกว่า
มีกรณีไหนบ้างที่ไม่สามารถจัดฟันแบบใส Invisalign ได้ ?
โดยทั่วไปแล้ว ข้อจำกัดของ Invisalign คือ การสบฟันที่ผิดปกติอย่างมาก ฟันที่มีรูปร่างผิดปกติ ฟันเรียงตัวแบบหมุนหรือฟันเหลื่อมกับในแนวบนล่าง มีช่องว่างขนาดใหญ่มากระหว่างฟัน มีวัสดุบูรณะเช่นสะพานฟัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม Invisalign สามารถปรับใช้ในเคสที่หลากหลาย หรือแม้แต่ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติในการเรียงตัวของฟัน และมีแผนการรักษาที่ซับซ้อน การจะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคือการเข้าพบคุณหมอเพื่อปรึกษาว่าคุณเหมาะสมสำหรับ Invisalign หรือไม่
ใน 1 วันสามารถถอด Invisalign ได้กี่ชั่วโมง ?
จัดฟันใสแบบ Invisalign ช่วยลดน้ำหนักได้ไหม ?
จัดฟัน invisalign ต้องถอนฟันไหม ?
ขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของคนไข้ หากมีฟันซ้อนเกจนไม่มีช่องว่างในการขยับฟัน ก็จะต้องถอนฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบทั่วไป ทั้งนี้คุณหมอจะแจ้งให้ทราบก่อนการจัดฟัน
จัดฟันแบบใสมีผลต่อการพูดหรือไม่ ?
อาจมีผลต่อการออกเสียงในช่วงแรก ๆ เพราะยังไม่คุ้นชินกับเครื่องมือใหม่ในช่องปาก แต่พอเริ่มชินกับการใส่เครื่องมือแล้ว ก็สามารถพูดหรือออกเสียงได้ตามปกติ
Invisalign ดูดซับสีอาหารที่เราทานไหม ?
สามารถดูดซับสีจากอาหารและเครื่องดื่มได้ ดังนั้นแนะนำให้ถอดเครื่องมือจัดฟันใสก่อนรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่ม ยกเว้นน้ำเปล่า
ถอดเครื่องมือระหว่างวันบ่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น มีผลกับการจัดฟันไหม?
ถ้าถอด Invisalign เข้าออกบ่อย ๆ สามารถส่งผลต่อการจัดฟันได้ ดังนั้นหลังจากรับประทานอาหาร แนะนำให้รีบทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วใส่กลับเข้าไปอีกครั้ง
Invisalign ต้องถอดออกบ่อยไหม
Invisalign ไม่จำเป็นต้องถอดบ่อย แต่ควรถอดเมื่อรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ควรถอดเมื่อแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน นอกจากนี้ อาจถอดในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น ระหว่างการถ่ายรูปสำคัญหรือกิจกรรมพิเศษ แต่โดยทั่วไปแล้ว ควรใส่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา
Invisalign ต้องใส่ตลอดเวลาไหม
Invisalign ควรใส่ประมาณ 20-22 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด แม้จะไม่ต้องใส่ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ควรใส่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
Invisalign ทำความสะอาดอย่างไร
การทำความสะอาด Invisalign ทำได้ง่ายๆ โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและน้ำอุ่น แปรงเบาๆ ทั้งด้านในและด้านนอก หลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันเพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือคราบ ล้างด้วยน้ำสะอาดหลังทำความสะอาดและก่อนใส่กลับเข้าปาก ควรทำความสะอาดอย่างน้อยวันละสองครั้งเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย
รีวิวการจัดฟันใสที่ Smile Seasons
สรุปเกี่ยวกับการจัดฟันใส Invisalign
การจัดฟันใส Invisalign ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนไข้ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว แถมยังมีข้อดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ไม่เป็นที่สังเกต ยิ้มสวยได้อย่างมั่นใจ ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทำความสะอาดง่าย และไม่เป็นอุปสรรคต่อการรับประทานอาหาร ดังนั้น ใครที่สนใจอยากจัดฟันใส หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง โทร 02-114-3274 หรือ add line @smileseasons.dc เราพร้อมทำนัดคุณเข้ามาปรึกษากับคุณหมอโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- การจัดฟันแบบใส Invisalign., Available from: https://www.bangkokhospital.com/center-clinic/dental-care/invisalign?info=overview
- โปรแกรมจัดฟัน และขั้นตอนการจัดฟันแบบใส |การรักษาด้วย Invisalign Thailand Available from: https://www.invisalign.co.th/treatment-process
- Invisible Orthodontic Aligners., Available from: https://www.webmd.com/oral-health/invisible-orthodontic-aligners
- Does Invisalign Work? Pros, Cons, Effectiveness., Available from: https://www.healthline.com/health/does-invisalign-work
บทความโดย
ทพ.วีรวัฒน์ บัวเผื่อน
วุฒิบัตรทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาทันตกรรมจัดฟัน ทันตแพทยสภา
Certification of Invisalign Provider
ทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เกียรตินิยมอันดับ 2)
ปรึกษา Invisalign กับคุณหมอฟรี
กรอกรายละเอียดที่แบบฟอร์มด้านล่าง และรอการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของเรา โทรหาเราที่ 02-114-3274 หรือ LINE @smileseasons.dc
รีวิวจากคนไข้ของเรา
โปรโมชั่นอื่นๆ
เปิดวิธีแก้ปวดฟันด้วยตัวเอง บรรเทาอาการปวดก่อนพบทันตแพทย์
เปิดวิธีแก้ปวดฟันด้วยตัวเอง บรรเทาอาการปวดก่อนพบทันตแพทย์ อาการปวดฟันนั้นเป็นอาการที่ทำให้รู้สึกทรมาน นอกจากอาการปวดแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรับประทานอาหารได้ไม่เต็มที่ บางครั้งหากปวดมาก ๆ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพในการนอน แต่หากอาการปวดเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่สามารถไปพบทันตแพทย์ได้ในทันที เพราะเป็นวันหยุด ปวดในช่วงเวลากลางคืน หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล การเข้าใจวิธีแก้ปวดฟันด้วยตัวเองจึงมีความสำคัญอย่างมากในการบรรเทาอาการปวดชั่วคราวก่อนที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องจากทันตแพทย์ อาการปวดฟันแบบฉับพลันเกิดจากอะไร อาการปวดฟันแบบฉับพลันคือภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการปวดฟันขึ้นแบบฉับพลัน และมักส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดฟันแบบฉับพลัน ได้แก่ ฟันผุลึกที่ลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน ฟันแตกหรือร้าวจากอุบัติเหตุ ฟันคุดที่กำลังขึ้น การติดเชื้อที่รากฟันหรือเหงือก
หลังจัดฟันเสร็จแล้วต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง
หลังจัดฟันเสร็จแล้วต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง การจัดฟันเป็นกระบวนการที่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามมากขึ้น แต่หลังจัดฟันเสร็จแล้วหากไม่มีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีฟันก็จะไม่เรียงตัวสวยงามตลอดไป การดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันเสร็จแล้วจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจ บทความนี้ Smile Seasons จะชวนทุกคนไปดูกันว่าหลังจัดฟันเสร็จแล้วนั้นต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไร หากไม่ดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีจะส่งผลต่อฟันอย่างไรบ้าง การจัดฟันส่งผลต่อสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง การจัดฟันไม่ได้เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปากในด้านอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งระหว่างการจัดฟันกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟันจะเกิดการปรับตัวให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามอย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยให้การทำความสะอาดช่องปากง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกและฟันผุ อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาการบดเคี้ยวและการพูด แม้ว่าหลังจากจัดฟันเสร็จแล้วโครงสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ
ก่อนจัดฟันต้องรู้ จัดฟันแบบใส กับ แบบเหล็ก แบบไหนดีกว่ากัน
ก่อนจัดฟันต้องรู้ จัดฟันแบบใส กับ แบบเหล็ก แบบไหนดีกว่ากัน การจัดฟันไม่เพียงช่วยเสริมความสวยงามของรอยยิ้ม แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง และการสบฟันที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาว ปัจจุบันมีทางเลือกในการจัดฟันมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ จัดฟันแบบใสกับแบบเหล็ก แบบไหนดีกว่ากัน? คำตอบไม่ได้ชัดเจนเสมอไป เพราะแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน บทความนี้ smile seasons จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการจัดฟันทั้งสองประเภท เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณมากที่สุด การจัดฟันใส กับการจัดฟันเหล็กคืออะไร การจัดฟันเป็นวิธีการทางทันตกรรมที่ช่วยปรับตำแหน่งฟันให้เรียงตัวสวยงามและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเคี้ยวอาหาร
เมื่อปวดฟันต้องกินยาแก้ปวดฟันแบบไหน ต้องเลือกอย่างไร
เมื่อปวดฟันต้องกินยาแก้ปวดฟันแบบไหน ต้องเลือกอย่างไร อาการปวดฟันเป็นความทรมานที่หลายคนไม่อยากเผชิญ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่เพียงส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังกระทบต่อคุณภาพชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย หากปล่อยให้อาการปวดฟันเรื้อรังโดยไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่ลุกลามและส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว การเลือกใช้ยาแก้ปวดฟันที่เหมาะสมจึงเป็นทางเลือกเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการก่อนพบทันตแพทย์ อาการปวดฟันเกิดจากสาเหตุใดบ้าง ฟันผุ : ฟันผุเกิดจากแบคทีเรียในช่องปากย่อยสลายอาหารจำพวกน้ำตาลและแป้ง ทำให้เกิดกรดที่กัดกร่อนเคลือบฟัน เมื่อฟันผุลึกเข้าไปถึงเนื้อฟันชั้นในจะทำให้เกิดอาการเสียวฟันและปวดฟัน เหงือกอักเสบ : เกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์บริเวณขอบเหงือก ทำให้เหงือกบวมแดง มีเลือดออกง่าย เมื่อไปสัมผัสโดนเหงือกบริเวณนั้นจะเกิดอาการปวด ฟันแตกหรือร้าว : อาจเกิดจากการกระแทก การกัดของแข็ง
รู้จักกับรีเทนเนอร์โลหะ พร้อมเปิดข้อดี-ข้อเสีย
รู้จักกับรีเทนเนอร์โลหะ พร้อมเปิดข้อดี-ข้อเสีย รีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์คงสภาพฟัน ซึ่งมีด้วยกันหลายแบบ สำหรับรีเทนเนอร์โลหะทำจากโลหะพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อใส่หลังจากถอดเหล็กจัดฟัน มีลักษณะเป็นโครงโลหะบางเบาที่พอดีกับแนวฟัน ช่วยรักษาตำแหน่งของฟันให้อยู่ในสภาพที่จัดเรียงไว้ มีความทนทานสูง และสามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยมักนิยมใช้ทั้งในฟันบนและฟันล่าง บทความนี้เราจะชวนทุกคนไปรู้จักกับรีเทนเนอร์โลหะกันให้มากขึ้น รีเทนเนอร์โลหะ คืออะไร รีเทนเนอร์โลหะเป็นอุปกรณ์คงสภาพฟันที่ทำจากวัสดุโลหะพิเศษ ออกแบบมาเพื่อใส่หลังจากถอดเหล็กจัดฟัน มีลักษณะเป็นโครงโลหะบางเบาที่พอดีกับแนวฟัน ช่วยรักษาตำแหน่งของฟันให้อยู่ในสภาพที่จัดเรียงไว้ มีความทนทานสูง และสามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยมักนิยมใช้ทั้งในฟันบนและฟันล่าง เปิดข้อดี-ข้อเสียของรีเทนเนอร์โลหะ ก่อนตัดสินใจเลือกใช้รีเทนเนอร์โลหะ มาทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียกันก่อน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
10 วิธีเปลี่ยนเมื่อมีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็น ให้หอมสดชื่น
10 วิธีเปลี่ยนเมื่อมีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็น ให้หอมสดชื่น การมีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็นเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก หลายคนรู้สึกไม่กล้าพูดคุยใกล้ชิดกับผู้อื่น ส่งผลต่อการเข้าสังคมและการทำงาน บางคนถึงขั้นเกิดความเครียดและวิตกกังวล แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี สาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นปาก ลมหายใจเหม็น มีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็นเกิดจากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่มาจากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากที่ย่อยสลายเศษอาหารและปล่อยก๊าซที่มีกลิ่นเหม็นออกมา นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากโรคในช่องปาก เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือแม้แต่โรคทางระบบต่าง ๆ เช่น โรคกระเพาะ ไซนัสอักเสบ รวมถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่เหมาะสม