ชวนหาคำตอบจัดฟันแล้วฟันผุเกิดจากอะไร
การจัดฟันเป็นทันตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันให้มีความสวยงามและมีการสบฟันที่เป็นปกติ แต่เนื่องจากการจัดฟันแบบติดแน่นต้องมีเครื่องมือจัดฟันอยู่บนฟันทุกซี่และไม่สามารถถอดออกได้ ทำให้การทำความสะอาดฟันทำได้ยากกว่าปกติ หากดูแลสุขภาพช่องปากได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุตามมาได้ มาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้จัดฟันแล้วฟันผุมีอะไรบ้าง และมีวิธีป้องกันแก้ไขอย่างไร
สาเหตุที่ทำให้จัดฟันแล้วฟันผุ
การจัดฟันไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดฟันผุ แต่การจัดฟันแบบติดแน่นที่จำเป็นต้องติดเครื่องมือที่ฟัน ทำให้ส่งผลให้คราบอาหารเข้าไปติดได้ง่ายขึ้น จึงทำความสะอาดช่องปากได้ยากขึ้น ทั้งการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งถือเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย หากทำความสะอาดได้ไม่ดี จะเพิ่มความเสี่ยงให้จัดฟันแล้วฟันผุได้มากกว่าคนที่ไม่ได้จัดฟัน
สัญญาณเตือนที่ควรระวังว่าอาจมีปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุ
ฟันผุเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้บ่อยในผู้ที่จัดฟัน โดยเฉพาะผู้ที่ดูแลความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ มาดูกันว่ามีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังมีปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุ
มีกลิ่นปาก
สำหรับใครที่สังเกตว่าตัวเองมีกลิ่นปากที่แรงผิดปกติหรือมีกลิ่นปากแรงขึ้นอาจเป็นสัญญาณของจัดฟันแล้วฟันผุ เนื่องจากแบคทีเรียที่ย่อยสลายเศษอาหารในช่องปากจะปล่อยสารที่มีกลิ่นเหม็นออกมา อย่างไรก็ตาม กลิ่นปากอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งโรคเหงือกอักเสบและฟันผุ หากมีกลิ่นปากผิดปกติควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุว่ามาจากอะไร
ปวดฟัน เสียวฟัน
อาการเสียวฟันเมื่อรับประทานอาหารร้อน-เย็น หรืออาหารรสจัด เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าจัดฟันแล้วฟันผุ เนื่องจากเคลือบฟันถูกทำลายจนส่วนของเนื้อฟันที่มีเส้นประสาทหล่อเลี้ยง สัมผัสกับสภาวะแวดล้อมด้านนอก ส่งผลให้มีอาการเสียวฟัน ฟันมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ หากปล่อยทิ้งไว้จนฟันผุลุกลามเข้าใกล้โพรงประสาทฟัน จะทำให้มีอาการปวดฟันรุนแรง และอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษารากฟันได้
เหงือกบวมอักเสบหรือมีหนอง
เศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน หรือตามเครื่องมือจัดฟันนอกจากจะก่อให้เกิดฟันผุแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดเหงือกอักเสบได้อีกด้วย แบคทีเรียที่สะสมอยู่สามารถก่อให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ และหากไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไข อาจลุกลามกลายเป็นหนอง และทำลายเนื้อเยื่อปริทันต์รอบๆ ฟันได้อีกด้วย
แนวทางแก้ปัญหาเมื่อจัดฟันแล้วฟันผุ
เมื่อพบว่ามีอาการของการจัดฟันแล้วฟันผุ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรีบปรึกษาทันตแพทย์ทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นจนต้องถอดเครื่องมือจัดฟันออกเพื่อรักษาฟันผุ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาในการจัดฟัน และใช้เวลาในการจัดฟันที่นานขึ้น โดยทันตแพทย์จะประเมินความรุนแรงของฟันผุและให้การรักษาที่เหมาะสมในแต่ละคน
จัดฟันแล้วฟันผุอุดฟันได้ไหม
การอุดฟันสามารถทำได้แม้ในขณะที่กำลังจัดฟันอยู่ โดยหากฟันผุอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ติดกับเครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์สามารถอุดฟันได้ทันที แต่หากฟันผุอยู่ใกล้หรืออยู่บริเวณใต้เครื่องมือจัดฟัน จำเป็นต้องถอดลวดและยางจัดฟันออกก่อน จากนั้นจึงทำการอุดฟันและใส่เครื่องมือจัดฟันกลับเข้าที่เดิม เพื่อแก้ปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุ
แนวทางการป้องกันปัญหาฟันผุขณะจัดฟัน
การติดเครื่องมือจัดฟันทำให้มีซอกมุมมากขึ้น เป็นที่สะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย ดังนั้นการดูแลความสะอาดช่องปากจึงมีความสำคัญมากขึ้น มาดูวิธีป้องกันฟันผุสำหรับผู้ที่จัดฟันกัน
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
- ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดบริเวณซอกฟันและบริเวณรอบเครื่องมือจัดฟัน อุปกรณ์อย่างเช่น ไหมขัดฟันแบบพิเศษที่มีความหนาอย่างเช่น SuperFloss หรือ ไหมขัดฟันพลังน้ำ (Water Picker) ก็มีส่วนช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดซอกฟันรวมถึงบริเวณใต้เหงือกได้สะดวก และง่ายมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงอาหารที่เหนียวติดฟัน
- พบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพช่องปากทุก ๆ 6 เดือน
- ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์และไม่มีแอลกอฮอล์
สรุป
จัดฟันแล้วฟันผุเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดจากการที่เครื่องมือจัดฟันทำให้มีซอกมุมมากขึ้น เป็นที่สะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย ประกอบกับการทำความสะอาดฟันทำได้ยากขึ้น หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดช่องปากให้ดีพอ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ ดังนั้นการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเคร่งครัดและพบทันตแพทย์ตามนัดจึงมีความสำคัญ และหากพบสัญญาณของฟันผุ สามารถเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ได้ที่ Smile Seasons เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ ทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมดูแลสุขภาพช่องปากของคุณอย่างครบวงจร เพื่อให้คุณมีรอยยิ้มที่สดใสและสุขภาพฟันที่แข็งแรง