จัดฟันคืออะไร มีกี่แบบ รวมข้อมูลการดัดฟันที่ต้องรู้
คนที่อยากจัดฟัน หรือดัดฟันทุกคนมักจะสงสัยกันว่า เราควรจะเลือกการจัดฟันแบบไหน การจัดฟันในปัจจุบันมีกี่ชนิด และจัดฟันราคา ปัจจุบันเท่าไหร่ ข้อมูลจากคำถามอันมากมายเหล่านี้อาจทำให้ผู้ที่อยากจัดฟันทุกท่านสับสนได้
วันนี้คุณหมอจะมาอธิบายข้อดี ข้อเสียของจัดฟันแบบต่างๆ ทั้ง จัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบเซรามิก จัดฟันแบบดามอน (Damon) หรือจัดฟันแบบใส ทั้ง Invisalign และแบรนด์อื่นๆ เช่น ดี-aligner นอกจากนี้ยังแนะนำเทคนิคในการเลือกคลินิกจัดฟันมาให้คุณด้วย – หวังว่าเมื่ออ่านจบแล้วคุณจะสามารถเลือกคลินิก และชนิดของจัดฟันให้เหมาะกับ Lifestyle และงบประมาณของคุณ ใครอยากให้ฟันเรียงสวยกว่าเดิมห้ามพลาด
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน หรือ Orthodontics ประกอบไปด้วยรากศัพท์ภาษากรีก 2 คำ คือ ‘Orthos’ ซึ่งแปลว่า แก้ไข/ให้ตรง ส่วน ‘Dontics’ แปลว่า ฟัน การจัดฟันเป็นทันตกรรมเฉพาะทางแขนงหนึ่ง ที่มุ่งเน้น การวินิจฉัย การป้องกัน และการแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น การสบฟัน ตำแหน่งและขนาดของกระดูกขากรรไกร
การดัดฟันมีจุดประสงค์เพื่อการบดเคี้ยวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดฟันสึก รวมทั้งยังทำให้คุณสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ดีขึ้น ทำให้ลดโอกาสในการเกิดโรคทางทันตกรรมอื่นๆ และแน่นอนว่ายังช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงาม ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับคุณได้
การจัดฟันมีกี่แบบ?
การจัดฟันสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ดังนี้
- การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ ได้แก่ ติดเครื่องมือแบบใช้ยาง O-ring เช่น การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก และการติดเครื่องมือแบบไม่ใช้ยาง (Self-ligating) เช่น การจัดฟันแบบดามอน (Damon)
- การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ เช่น จัดฟันใส Invisalign หรือ ดี-aligner
การเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของการจัดฟันในแต่ะละชนิด จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมกับ lifestyle และงบประมาณของคุณ วันนี้เรามาเรียนรู้การจัดฟัน และโปรจัดฟันในแต่ละประเภทกันดีกว่า
1. จัดฟันแบบโลหะ
คลินิกจัดฟันที่ราคาถูกที่สุด โปรจัดฟันเพียบ คุณหมอมีตัวช่วยเยอะเหมาะกับเคสซับซ้อน สนุกกับการเลือกเปลี่ยนสียางโอริงได้ทุกเดือน
การจัดฟันแบบโลหะ หรือ การจัดฟันแบบเหล็ก (Metal Bracket) เป็นวิธีดั้งเดิมที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่าย แบบสบายกระเป๋า
ข้อดีอีกอย่างของจัดฟันแบบโลหะธรรมดา คือ เหมาะสำหรับเคสที่ยากหรือซับซ้อน เนื่องจากคุณหมอสามารถควบคุม และปรับเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนฟันของคุณในยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย และยืดหยุ่นกว่า นอกจากนี้คุณหมอยังสามารถเลือกใช้อุปกรณ์เสริม หรือการรักษาอื่นๆ เช่น การปักหมุดจัดฟัน, การดึงยาง มาเป็นตัวช่วยได้อีกด้วย
สามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบโลหะ เพิ่มเติม เขียนโดยทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญได้ที่นี่!
จัดฟันแบบโลหะ ราคาเท่าไหร่?
- ผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้ว ราคาเดือนละ 1,500 บ. (12-18 เดือน)
ผู้ที่ยังไม่เคยจัดฟันมาก่อน ติดเครื่องมือจัดฟัน 999 บ. ( 2 เดือนแรก) หลังจากนั้นเดือนละ 1,500 บ.
2. จัดฟันแบบเซรามิก
เหมือนแบบโลหะ แต่ Bracket สีใส เหมาะกับเคสซับซ้อน ที่ต้องการบุคลิกภาพที่ดีตลอดเวลา
การจัดฟันแบบเซรามิก คือ การจัดฟันที่มีวิธีการเคลื่อนตำแหน่งฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่เปลี่ยนเครื่องมือจัดฟัน (Bracket) โลหะ ให้เป็นเซรามิกใส ซึ่งสังเกตได้ยากเพราะมีสีคล้ายกับฟันธรรมชาติ ดูสวยงามกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพ หรือความต้องการที่จะคงบุคลิกภาพที่ดี ดูเป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ฟันที่เรียงตัวผิดปกติเยอะ เป็นเคสยาก และต้องอาศัยการออกแรงดึงฟันที่ซับซ้อน รวมทั้งอาจต้องใช้อุปกรณ์จัดฟันอื่นๆ มาช่วยเคลื่อนฟันเพิ่มเติม
ข้อดีอีกอย่างนอกจากความสวยงามคืออุปกรณ์จัดฟันที่เป็นเซรามิกจะมีความเรียบ และโค้งมนกว่าแบบโลหะ ลดโอกาสไปเกี่ยวกระพุ้งแก้มเป็นแผลร้อนในได้
3. จัดฟันแบบดามอน
ใช้ตัวล๊อคแบบพิเศษ ไม่ต้องมีโอริง เจ็บน้อยกว่า จัดฟันเสร็จเร็วกว่า
จัดฟัน damon หรือ จัดฟันแบบดามอนคือ รูปแบบหนึ่งของการจัดฟันชนิดที่เรียกว่า ‘Self-Ligating Braces’ โดยคุณหมอจะไม่ใช้โอริง (o-ring) ในการยึดลวดเข้ากับอุปกรณ์จัดฟันโลหะ (Metal Bracket) ที่ติดอยู่กับฟัน แต่จะใช้ Bracket แบบพิเศษซึ่งมีตัวล๊อคเปิดปิดได้เป็นตัวยึดลวดจัดฟัน
ข้อได้เปรียบของการจัดฟันแบบดามอนคือ ลวดจัดฟันจะสามารถเคลื่อนที่ซ้ายขวาได้อย่างอิสระ ไม่ถูกยึดอยู่กับที่ด้วยโอริง แรงที่กระทำต่อฟันจะคงที่ตลอดเวลา ทำให้เจ็บน้อยกว่า เคลื่อนฟันได้นุ่มนวล รักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า โอกาสที่เศษอาหารติดก็จะลดลง ทำให้จัดฟันเสร็จไวกว่า และไม่ต้องเสียเวลามาพบคุณหมอบ่อยๆ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบดามอน เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
จัดฟันแบบดามอน ราคาเท่าไหร่?
- ราคาติดเครื่องมือ 12,000 บ. ( 2 เดือนแรก) หลังจากนั้นเดือนละ 2,500 บ. (22 เดือน)
4. จัดฟันแบบใส
มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน ดูเป็นผู้ใหญ่ คงลุคมืออาชีพอยู่ตลอด สามารถถอดได้ แปรงฟันง่าย รับประทานอาหารสะดวก ไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ มีโปรจัดฟันใส ราคาไม่ได้แพงเหมือนแต่ก่อน
หากคุณไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ และการมี Bracket ติดอยู่ที่ฟันนั้นเป็นอุปสรรคต่อหน้าที่การงาน หรือคุณต้องการลุคที่ดูเป๊ะ เป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา การจัดฟันแบบใส หรือดัดฟันใส เป็นคำตอบของคุณ การที่สามารถถอดออกได้ ทำให้คุณสามารถรับประทานอาหารได้สะดวก และง่ายต่อการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันด้วย
การจัดฟันแบบใสในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ได้แก่
- Invisalign – เป็นยี่ห้อจัดฟันใสจากอเมริกา มีจำนวนคนไข้ถึง 12 ล้านคน รวมทั้งเปิดให้บริการมายาวนานถึง 25 ปี Invisalign ถือเป็น Gold Standard ในการจัดฟันใส ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง invisalign ราคาเริ่มต้นที่ที่ 69,000 บ. ซึ่งจำกัดระยะเวลารักษาที่ 6 เดือน เคลื่อนฟันได้ถึงฟันกรามน้อยเท่านั้น และราคาจะแพงขึ้นตามความยากของเคสและเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันใส
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบใส invisalign เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
- จัดฟันใส d-aligner – เป็นแบรนด์จัดฟันใสแบบใหม่ ซึ่งมีราคาถูกกว่า ใช้เทคโนโลยีจัดฟัน และวางแผนจากอเมริกาเช่นกัน แต่คลินิกสามารถใช้เทคโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ผลิตชิ้นงานขึ้นมาได้เอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้คุณเข้าถึงการจัดฟันใสได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณหมอประจำตัวคอยดูแล และให้คำปรึกษากับคุณจนจัดฟันเสร็จ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันใส d-aligner เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
- จัดฟันใสยี่ห้ออื่นๆ ปัจจุบันมีแบรนด์จัดฟันใสอื่นๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น Zenyum, BeforeDent, Clear Correct ฯลฯ
สมัยก่อนการจะจัดฟันใสนั้นมีค่าใช้จ่ายแพงมาก บางเคสต้องควักกระเป๋าจ่ายเป็นแสนบาท แต่เพราะ เราอยากรู้ว่าการจัดฟันมีข้อดีจำนวนมาก เราจึงอยากให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงการจัดฟันใสในราคาที่สมเหตุสมผล Smile Seasons ได้นำเทคโนโลยี Digital Dentistry ระดับโลกมาใช้ เราภูมิใจที่จะขอแนะนำ แบรนด์จัดฟันใส ‘ดี-aligner’ ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่สามารถผลิตจัดฟันใสขึ้นมาได้เองใน คลินิกทันตกรรม
จัดฟันแบบใส ราคาเท่าไหร่?
- จัดฟันแบบใส Invisalign ราคาเริ่มต้น 49,000 บ. (ราคาเพิ่มขึ้นตามจำนวนชิ้นงานที่ต้องใช้)
- จัดฟันแบบใส ดี-Aligner ราคาเริ่มต้น 39,999 บ. (สำหรับ 12 คู่แรก) ผ่อนชำระได้สูงสุด 10 เดือน
ลักษณะฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน ?
การจัดฟันสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัว และการสบฟันที่ผิดปกติแบบใดได้บ้าง
- ฟันซ้อน ฟันเอียง หรือ บิด – ปัญหาเหล่านี้เป็นประเด็นหลักที่นำคนไข้เข้ามารับการรักษา หากฟันซ้อนกันมากๆ คุณหมออาจจำเป็นต้อง ถอนฟัน บางซี่ออก มีการตะไบฟัน หรือขยายขากรรไกรเพื่อให้มีพื้นที่ในการเรียงฟัน
- ฟันห่าง – ปัญหาฟันห่าง สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
- ฟันเบี้ยว หรือ ฟันกัดเบี้ยว – เป็นภาวะที่กึ่งกลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกัน ทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สามารถแก้ฟันเบี้ยวได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
- Deep bite หรือ ฟันสบลึก เป็นภาวะที่ฟันบนสบลงมาฟันล่างลึกเกินไป
- Cross bite หรือ ฟันสบคร่อม เป็นภาวะที่ฟันล่างคร่อมฟันบน
- Open bite หรือ ฟันสบเปิด เป็นภาวะที่ฟันบนและฟันล่างไม่สามารถสบสัมผัสกันได้ หรือที่เรียกกันว่า ฟันไม่สบกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการเรียงตัวของฟัน
สงสัยกันไหมว่าทำไมคนเดี๋ยวนี้ถึงมีฟันเรียงตัวผิดปกติกันเยอะ อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงกันแน่
- วิวัฒนาการของมนุษย์ – อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 15,000 ปีที่แล้ว จากการศึกษาโครงกระดูกของมนุษย์ เราจะพบว่าบรรพบุรุษของเรานั้นมีฟันที่เรียงตัวดี และแทบไม่มีฟันคุดอยู่เลย ที่เป็นแบบนั้นเพราะขากรรไกรของมนุษย์สมัยก่อนนั้นใหญ่กว่าในปัจจุบัน การปฎิวัติการเกษตร และอุตสาหกรรมทำให้เราปรุงอาหารได้ดีขึ้น มีอุปกรณ์ในการหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กลง ทำให้จำนวนครั้งในการเคี้ยวน้อยลงตามไปด้วย ขนาดของขากรรไกรในมนุษย์จึงหดเล็กลงเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่ของฟันน้อยลง แต่จำนวนฟันเท่าเดิม เกิดเป็นการเรียงตัวที่ผิดปกติของฟัน จนต้องลงเอยที่การจัดฟัน
- ฟันล้ม – หากคุณเคยถอนฟันมาก่อนและไม่ได้บูรณะทดแทนฟันด้วย รากฟันเทียม สะพานฟัน หรือฟันปลอม ฟันซี่ข้างเคียงก็จะเคลื่อน และล้มเข้ามาในช่องว่างที่เกิดขึ้น
- โดนฟันคุดดัน – สาเหตุหนึ่งที่คุณหมอแนะนำให้ถอนฟันคุดออกเพราะ ฟันคุดสามารถดันฟันซี่อื่นให้เอียง หรือขยับมาซ้อนกันได้
- พฤติกรรมบางอย่าง – การหย่าขวดนมช้า การดูดนิ้ว ภาวะลิ้นดุนฟัน อาจทำให้การเรียงตัวของฟันผิดปกติ
ควรจัดฟันดีไหม จัดฟันช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าการจัดฟันเป็นการแก้ไขปัญหาด้านความสวยงามเพียงอย่างเดียว จริงอยู่ที่การมีฟันเรียงสวยนั้น ส่งผลต่อบุคลิกภาพของคุณในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับคุณหมอแล้ว การจัดฟันยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เช่น
- ช่วยลดปัญหาทันตกรรมอย่างอื่น เช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือ ฟันผุ – ทั้งนี้เนื่องจากฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบนั้นสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และทั่วถึงกว่า การจัดฟันจึงช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้
- ช่วยในการย่อยอาหาร – การสบฟันที่ดีขึ้นสามารถทำให้คุณเคี้ยวอาหารได้ละเอียดกว่า ลดภาระของระบบทางเดินอาหารลง บอกลาอาการท้องอืด ปวดจุกท้อง และลดโอกาสในการเกิดกรดไหลย้อน
- ลดโอกาสการละลายของกระดูกขากรรไกร – กระดูกขากรรไกรที่ปกติจะได้รับแรงจากฟันที่สบกันเวลาเคี้ยวอาหาร แรงสบฟันจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกได้
- ช่วยให้พูดชัดขึ้นได้ – พยัญชนะเช่น ฟ ส ซ หรือตัว S ต้องใช้การออกเสียงผ่านฟัน ซึ่งผู้ที่ฟันเรียงตัวผิดปกติอาจออกเสียงได้ไม่ชัดเจน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน
- ช่วยลดความอูมของริมฝีปาก – จะยิ่งเห็นชัดเจนในเคสที่มีการถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน
- เพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ – คนไข้ที่จัดฟันเสร็จแล้วมักจะมีความมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง เป็นเสน่ห์และความสดใสที่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต
ข้อดี และ ข้อจำกัดของการจัดฟัน
ข้อดีในการจัดฟัน
การจัดฟันมีประโยชน์และข้อดีหลายอย่างดังนี้
- สุขภาพช่องปากดีขึ้น – ฟันที่เรียงสวย ตรง และเป็นระเบียบจะทำให้คุณสามารถรักษาสุขอนามัยของช่องปากได้ดีมากขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและฟันผุ
- การเคี้ยวและการพูดดีขึ้น – ฟันที่เรียงไม่ตรงอาจมีปัญหาในการสบฟันทำให้ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ละเอียด หรือมีช่องว่างทำให้ออกเสียงพูดได้ไม่ชัดเจน ซึ่งการจัดฟันสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
- ยิ้มสวยมากขึ้น – แน่นอนว่าการจัดฟันสามารถทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง
- ป้องกันปัญหาทางทันตกรรมในอนาคต – การจัดฟันสามารถแก้ไขฟันที่เก เรียงตัวไม่เหมาะสมซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมที่รุนแรงมากขึ้น เช่น ปวดกราม ปวดหัวเรื้อรัง หรือ ฟันสึก
- สุขภาพโดยรวมดีขึ้น – สุขภาพช่องปากมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสุขภาพโดยรวมของคุณ ดังนั้น การปรับปรุงสุขภาพฟันด้วยการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นด้วย
ข้อจำกัดในการจัดฟัน
แม้ว่าการจัดฟันจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดและข้อเสียที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
- ระยะเวลาในการรักษา – การจัดฟันมักใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจจะหลายปีจนกว่าจะเสร็จ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความผิดปกติในการเรียงตัวของฟัน คุณต้องปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอ และมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การเคลื่อนฟันเป็นไปตามแผนการรักษา
- ความเจ็บปวด – คนไข้มักรู้สึกปวดในระหว่างการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-5 วันแรกของการปรับเครื่องมือจัดฟัน (ในกรณีจัดฟันแบบติดแน่น) หรือการเปลี่ยนชุดเครื่องมือจัดฟันใส
- ข้อจำกัดด้านอาหาร – เมื่อจัดฟัน คุณอาจต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด หรือปรับเปลี่ยนประเภทอาหารในระหว่างจัดฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็ก หรืออุปกรณ์จัดฟันเสียหาย ในกรณีจัดฟันแบบใส คุณสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ขณะรับประทานอาหาร ทำให้ลดข้อจำกัดของตัวเลือกในการรับประทานอาหารลง
- ค่าใช้จ่าย – การจัดฟันแต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกัน คุณควรพิจารณาตัวเลือก และงบประมาณที่เหมาะสมกับคุณ
- การเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม – หากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) หลังจัดฟันเสร็จ ฟันของคุณมีความเสี่ยงในการเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม
- สุขอนามัยในช่องปาก – การรักษาความสะอาดในช่องปากเป็นเรื่องท้าทายขึ้น เมื่อมีเหล็กดัดฟัน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในช่องปาก คุณต้องหมั่นแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
ควรเลือกเทคนิคการจัดฟันแบบไหนดี ?
การจัดฟันปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคโดยแบ่งเป็นการจัดฟันแบบติดแน่น เช่น การจัดฟันแบบโลหะแบบทั่วไป ซึ่งโดดเด่นที่ราคาถูก สามารถจัดได้ในเคสยากซับซ้อน และสามารถเปลี่ยนสีโอริงได้ หรืออยากเรียบร้อยขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นแบบเซรามิกซึ่งใช้หลักการเดียวกัน แต่อุปกรณ์จัดฟันจะสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากคุณต้องการจัดฟันให้เสร็จเร็ว เจ็บน้อยลง และไม่อยากถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน คุณอาจเขยิบไปจัดฟันแบบดามอน
การจัดฟันแบบใสอย่างเช่น ดี-aligner หรือ invisalign เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่รบกวนบุคลิกภาพ ยังสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ และถอดออกตอนแปรงฟันกับรับประทานอาหารได้ ทำให้สุขภาพช่องปากดีกว่า รวมทั้งลดข้อจำกัดในการทานอาหาร นอกจากนี้ยังไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ อีกด้วย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกจัดฟันแบบไหน การจัดฟันราคาเท่าไหร่ อยากได้ข้อมูลการจัดฟัน เราแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ : จัดฟันมีกี่แบบ ? ควรเลือกอย่างไร บอกข้อดีข้อเสียแบบหมดเปลือก!
อยากจัดฟันครั้งแรกต้องเริ่มต้นอย่างไร
เมื่อเรารู้จักการจัดฟันชนิดต่างๆ แล้ว สำหรับคนที่จัดฟันครั้งแรก คุณหมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ในคลินิก เพื่อตรวจประเมินสภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด สิ่งที่คุณจะใช้รับจากการปรึกษาจัดฟันครั้งแรกกับคุณหมอที่ Smile Seasons คือ
- สุขภาพช่องปากของคุณ – มีฟันผุหรือไม่ มีเหงือกอักเสบหรือเปล่า มีฟันคุดที่ควรต้องจัดการก่อนเริ่มการจัดฟันไหม
- เอ็กซเรย์ภายนอกและภายในช่องปาก – เพื่อช่วยในการวางแผนการรักษา
- เลือกชนิดของการจัดฟัน – คุณอาจจะมีตัวเลือกการจัดฟันอยู่ในใจ แต่การมาพบคุณหมอ คุณก็จะได้ข้อมูลทางคลินิกเพิ่มเติม และสามารถปรึกษากับคุณหมอเพื่อเลือกชนิดของการจัดฟันที่เหมาะสมสำหรับคุณ
- แผนการรักษาคร่าว ๆ – คุณอาจสามารถจัดฟันได้เลย แต่บางคนอาจจะต้องมีการถอนฟัน เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับการเรียงฟัน ในบางครั้งอาจต้องใช้เครื่องมือจัดฟันพิเศษ เช่น มินิสกรูหรือหมุดจัดฟัน (Mini screw) เป็นต้น
- ราคาจัดฟันครั้งแรก – คุณหมอและเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก สามารถประเมินราคาค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปาก จัดฟัน ตามแผนการรักษาให้คุณได้
การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
ในบางครั้งความผิดปกติของฟันจะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งของขากรรไกรที่ผิดปกติด้วย ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว และจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน ถึงจะสามารถแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติได้
การผ่าตัดสามารถทำแค่ขากรรไกรล่างอย่างเดียว หรือทำทั้งบนและล่าง ขึ้นอยู่กับปัญหาทางคลินิกของคุณ โดยส่วนใหญ่คุณจะต้องเข้ารับการจัดฟันไปสักระยะหนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยทำการผ่าตัดซึ่งต้องทำในโรงพยาบาล เมื่อการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย คุณจะต้องจัดฟันต่ออีกหลายเดือนถึงจะเสร็จสิ้นการรักษา หากคุณเคยได้รับการวินิจฉัยว่าควรต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด คุณสามารถติดต่อเราเพื่อทำนัดพบกับคุณหมอจัดฟันเฉพาะทางจากเราได้
ทำความรู้จักกับเครื่องมือจัดฟัน
การจัดฟันเป็นการรักษาที่ใช้เวลารักษานานจึงเป็นการดีหากคุณรู้จักส่วนประกอบต่างๆ ของอุปกรณ์จัดฟันแบบติดแน่นที่จะอยู่กับคุณไปเป็นเวลาหลายเดือน หรือบางกรณีก็หลายปี
ส่วนประกอบหลักของเครื่องมือจัดฟัน
- Bracket – Bracket เป็นส่วนที่ติดแน่นอยู่บนผิวฟันด้วยกาวทางทันตกรรมแบบพิเศษ ทำหน้าที่ส่งผ่านแรงจากลวดจัดฟันมาที่ตัวฟัน Bracket นั้นมีทั้งที่ลักษณะเป็นโลหะ ซึ่งมักทำจาก Stainless Steel หรือมีลักษณะเป็นสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นซึ่งเป็นเซรามิกที่ทำจาก Sapphire
- ลวดจัดฟัน (Archwire) – ลวดจัดฟันเป็นส่วนสำคัญในการออกแรงเคลื่อนฟัน มีหลายขนาด หลายเบอร์ รวมถึงทำจากวัสดุหลายชนิด ทันตแพทย์จะเป็นคนดัดลวดจัดฟันรวมถึงเลือกชนิดและขนาดที่เหมาะสมในการเคลื่อนฟันของคุณให้เป็นไปตามแผนการรักษา
- ตัวรัด (Ligature) – เป็นส่วนที่ยึด Bracket กับลวดจัดฟันเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งอาจใช้ลวดขนาดเล็กๆ หรือใช้ยางโอริงที่มีสีสันสวยงามแบบที่เห็นกันทั่วไปก็ได้ การจัดฟันชนิดดามอนซึ่งเป็นระบบ Self ligating system สามารถล๊อคลวดจัดฟันเข้ากับ Bracket แบบพิเศษได้เลย ทำให้ไม่ต้องใช้ตัวรัดเพิ่มเติม
อุปกรณ์เสริมของเครื่องมือจัดฟัน
บางครั้งแค่อุปกรณ์หลักก็ไม่เพียงพอที่จะออกแรงเคลื่อนฟันไปตามแผนการรักษาได้ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าคุณหมอมีอุปกรณ์เสริมอีกเพียบซึ่งถือเป็นข้อดีหนึ่งของการจัดฟันแบบโลหะ ตัวอย่างอุปกรณ์เสริมมีดังนี้
- ยางดึงฟัน (Elastic) – มักใช้ดึงฟันไปแนวหน้าหลัง หรือแนวดึ่งเพื่อแก้ไขการสบฟัน โดยคุณหมอจะแนะนำวิธีการคล้องยางดึงฟันให้กับคุณ ซึ่งโดยปกติจะต้องเปลี่ยนยางทุกๆ 1-2 วัน
- เชนดึงฟัน (Power Chain) – ไว้ดึงฟันในแนวหน้าหลังเช่นกัน มีหลายสี คุณหมอเป็นคนใส่ให้ และห้ามถอดออกเอง คนไข้จัดฟันไม่จำเป็นต้องใช้เชนดึงฟันทุกคน ฉะนั้นหากคุณหมอไม่ใส่เชนให้ก็ไม่ต้องตกใจไป
- สปริง (Spring) – เอาไว้ดึง หรือดันฟันไปยังตำแหน่งต่างๆ โดยสปริงจะออกแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับเชนดึงฟันที่แรงจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
- หมุดจัดฟัน (Miniscew) – ใช้เป็นหลักยึดที่แข็งแรง เพื่อนำอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มายึดเพื่อเคลื่อนฟันในเคสที่ซับซ้อน
- ตัวหนุนฟัน (Raise Bite หรือ Bite turbo) – เป็นวัสดุสีฟ้า หรือสีเหมือนฟัน เพื่อยกฟันแยกจากกัน เพื่อแก้ไขการสบฟันในแนวดิ่ง ระหว่างนี้คุณอาจจะเคี้ยวอาหารยากขึ้นนิดหน่อย
ขั้นตอน และ ค่าใช้จ่าย ทั้งหมดในการจัดฟัน
1. พบทันตแพทย์และเอ็กซเรย์
ฟรี (จากปกติ 1,000 + 1,600)
วันแรกเข้ามาทำความรู้จักกับคุณหมอก่อน เพราะเราต้องเจอกับคุณหมอไปอีกเป็นปี คุณหมอจะซักประวัติและตรวจช่องปากของคุณอย่างละเอียด พร้อมกับดูฟิล์มเอ็กซเรย์ประกอบเพื่อวางแผนจัดฟันให้กับคุณ
คนไข้หนึ่งคนอาจมีแผนจัดฟันได้หลายแบบ คุณหมอจะอธิบายข้อดีข้อเสีย และช่วยคุณเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด หากคุณพูดคุยทำความเข้าใจกับคุณหมอเรียบร้อย และตกลงที่จะเข้ารับการจัดฟัน คุณหมอจะพิมพ์ปากทำโมเดลฟันเพื่อใช้ประกอบในการรักษา
2. การเคลียร์ช่องปาก
ฟรี คูปองส่วนลดมูลค่า 3,500 บ. พร้อมเคลือบฟลูออไรด์ (มูลค่า 500 บ.)
ฟันและช่องปากของคุณจะต้องมีสุขภาพดี นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณหมอจะต้องจัดการ ขูดหินปูน อุดฟัน ที่ผุ รวมถึงถอนฟันคุดของคุณให้เรียบร้อยก่อนจะติดเครื่องมือจัดฟัน ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าภาวะเหล่านี้จะไม่ไปรบกวนคุณระหว่างจัดฟัน
ถ้าหากช่องปากมีคราบหินปูนนอกจากจะทำใฟ้ฟันเหลืองเสียบุคลิกภาพได้แล้ว ยังสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อเหงือกและฟันได้ด้วย สามารถอ่านบทความ ขูดหินปูน เพิ่มเติม ที่ได้รวบรวมคำตอบของคำถามเกี่ยวกับการขูดหินปูนที่หลายคนสงสัยไว้ให้แล้ว ตอบโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คลิก!
สภาพช่องปากของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเคลียร์ช่องปากของคนไข้จึงแตกต่างกันด้วย คุณหมอจะให้คำแนะนำว่าคุณควรต้องรักษาอะไรบ้าง แต่คุณไม่จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปากให้เสร็จในครั้งเดียว สามารถแบ่งชำระได้ โดยคุณจะได้รับคูปองส่วนลดจัดฟันดังนี้
- ส่วนลดขูดหินปูน 300 บาท
- ส่วนลดอุดฟัน 200 บาท จำนวน 3 ใบ
- ส่วนลดถอนฟัน 200 บาท จำนวน 3 ใบ
- ส่วนลดผ่าฟันคุด 500 บาท จำนวน 3 ใบ
- ฟรี เคลือบฟลูออไรด์ 500 บาท
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ ผ่าฟันคุด ถอนฟันคุด เพิ่มเติม คลิก! (เนื้อหาเพิ่มเติม)
3. การติดและปรับเครื่องมือ
คุณต้องมาพบคุณหมอทุกเดือน โดย 2 ครั้งแรก คุณจะได้รับการติดเครื่องมือที่ฟันบนและล่าง มีค่าใช้จ่าย 999 บ. ต่อครั้ง หลังจากนั้นคุณจะได้รับการปรับเครื่องมือจัดฟัน เปลี่ยนลวด และเปลี่ยนยาง O-ring มีค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละ 1,500 บ. จนกว่าจะเสร็จสิ้นการรักษา
4. การทำรีเทนเนอร์
ฟรี! รีเทนเนอร์ใส
รีเทนเนอร์ คือเครื่องมือคงสภาพฟัน เมื่อคุณจัดฟันเสร็จคุณจะได้รับรีเทนเนอร์ใส 1 ชุด (บนและล่าง) และยังได้รับสิทธิ์ส่วนลดเพิ่มในการซื้อรีเทนเนอร์แบบลวดอีกด้วย
เงื่อนไขการได้รับรีเทนเนอร์ใสฟรี คือระหว่างจัดฟัน คุณไม่ผิดนัดเกิน 3 ครั้ง (หากคุณเลื่อนนัดล่วงหน้าไม่ถึง 24 ชม. ก่อนวันนัด 2 ครั้ง จะนับเป็นการผิดนัด 1 ครั้ง หากคุณไม่มาตามนัดโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าจะนับเป็นการผิดนัด 1 ครั้ง) อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ รีเทนเนอร์ เพิ่มเติม คลิก! (เนื้อหาเพิ่มเติม)
การเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน
คุณอาจจะตื่นเต้นในวันที่จะได้ติดเครื่องมือจัดฟัน ไม่รู้จะเตรียมตัวอย่างไร ไม่ต้องกังวล คุณหมอมีเทคนิคในการเตรียมตัวเองก่อนการจัดฟันดังนี้
- เช็คให้ชัวร์ว่าคุณเคลียร์ช่องปากเรียบร้อยแล้ว – การติดเครื่องมือจัดฟัน จะทำให้คุณแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันยากขึ้น สุขภาพช่องปากของคุณจึงควรอยู่ในสภาพดี และแข็งแรง สอบถามและตรวจเช็คว่าคุณได้ทำการรักษาทั้งหมดตามที่คุณหมอแนะนำ
- เติมของกินในตู้เย็น – หลังติดเครื่องมือจัดฟัน คุณอาจมีอาการปวดเพราะร่างกายยังไม่ปรับตัว คุณควรรับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยว หาซื้อ โจ๊ก ข้าวต้ม โยเกิร์ต สมูตตี้ผลไม้ ซุป ติดตู้เย็นเอาไว้
- เตรียมยา และขี้ผึ้งจัดฟันไว้ให้พร้อม – หากคุณจัดฟันที่ Smile Seasons คุณจะได้รับอุปกรณ์เหล่านี้กลับบ้านไปด้วย แต่ถ้าคุณไม่มี คุณหมอแนะนำให้หาซื้อยาแก้ปวด เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen รวมถึงขี้ผึ้งจัดฟัน ติดบ้านเอาไว้
- หาคนมารับมาส่ง – การติดเครื่องมือจัดฟันใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที และเมื่อเสร็จปุ๊บคุณก็อาจจะเริ่มปวด การมีเพื่อน คนรู้ใจ หรือคนในครอบครัว ขับรถไปส่งคุณที่บ้าน พร้อมกับให้กำลังใจ ก็เป็นไอเดียที่ดี
- เช็คตารางงานของคุณให้ดี – เนื่องจากอาการปวดอาจเป็นอยู่หลายวัน โดยเฉพาะหากคุณจัดฟันครั้งแรก อาจทำให้คุณตั้งสมาธิในการทำงานลำบาก หากสามารถหยุดงาน หรือหลีกเลี่ยงงานใหญ่ที่จำเป็นต้องพูด หรือทานอาหารเยอะๆ ไปก่อนสัก 2-3 วันได้ก็จะเป็นการดี
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ – คุณอาจจะทานอาหารได้น้อยกว่าปกติ ร่างกายได้รับพลังงานน้อย จึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะๆ ไปก่อน
ระยะเวลาในการจัดฟัน
“ฉันจะจัดฟันเสร็จเมื่อไหร่” เป็นหนึ่งในคำถามสำคัญที่คนไข้อยากรู้ โดยปกติแล้วการจัดฟันจะใช้เวลา 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับบุคคล ซึ่งการจะบอกให้แน่นอนได้ คุณหมอจะต้องดูปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังนี้
- สภาพฟันเริ่มต้น – ฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติมาก ย่อมใช้เวลาในการจัดฟันนานกว่า ผู้ที่จัดฟันครั้งแรกก็จะใช้เวลานานกว่า ผู้ที่จัดฟันรอบสอง
- มีการสบฟันที่ผิดปกติร่วมด้วย – การจัดฟันไม่เพียงแก้ไขเรื่องการเรียงตัวของฟันเท่านั้น คุณหมอจะต้องแก้ไขการสบฟันของคุณด้วย ซึ่งจะใช้เวลาจัดฟันนานกว่าปกติ
- แผนการรักษา – หากคุณหมอจำเป็นต้องถอนฟันร่วมด้วย ก็จะต้องใช้เวลาจัดฟันนานกว่า
- ชนิดของการจัดฟันที่เลือก – การจัดฟันแบบโลหะจะออกแรงได้ดีในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก หลังจากนั้นก็จะต้องไปให้คุณหมอปรับเครื่องมือจัดฟัน การจัดฟันชนิด Self-Ligating เช่น ดามอน หรือการจัดฟันใส จะสามารถออกแรงเคลื่อนฟันได้ต่อเนื่องตลอดเวลา ส่งผลให้เคลื่อนฟันได้ไว และจัดฟันเสร็จเร็วกว่า
- การดูแลสุขภาพช่องปาก – การจัดฟันชนิดติดเครื่องมือจะทำให้คุณแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันยากขึ้น เสี่ยงกับฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ซึ่งหากเกิดขึ้น คุณหมออาจจะต้องชะลอการจัดฟัน และรักษาอาการต่างๆ ให้ดีขึ้นก่อน ซึ่งจะทำให้ใช้เวลารักษานานมากขึ้น
- ความร่วมมือในการรักษาของคุณ – การจัดฟันถือเป็นการร่วมมือกันระหว่างคุณหมอและคนไข้ คุณควรปฎิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เช่น การดึง ยางจัดฟัน การมาพบคุณหมอตามนัด กรณีที่คุณจัดฟันแบบใส คุณควรใส่เครื่องมือจัดฟันต่อเนื่อง ยกเว้นเฉพาะตอนรับประทานอาหาร และแปรงฟัน การที่คุณผิดนัดบ่อยๆ ลืมดึงยาง ก็จะทำให้การจัดฟันใช้เวลานานมากขึ้น
- อายุของคุณ – คนไข้อายุน้อยจะสามารถเคลื่อนฟันได้ง่ายกว่า ใช้เวลาจัดฟันน้อยกว่าคนไข้อายุมาก (แต่ไมไ่ด้หมายความว่าคนไข้อายุมากจะจัดฟันไม่ได้นะ)
- อาหาร – อาหารที่แข็ง หรือเหนียว อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งหากเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็จะส่งผลให้คุณจัดฟันเสร็จช้าลง
- ยาที่คุณรับประทานอยู่ – ยาบางชนิดเช่น ยาแก้ปวดแก้อักเสบ NSAIDS (Ibuprofen, Aspirin) ยาในกลุ่ม Steroid และยากดภูมิกุ้มคัน จะทำให้ฟันเคลื่อนตัวช้าลง ขณะที่ยาเพิ่มไทรอยด์ และ วิตามินดี จะทำให้ฟันของคุณเคลื่อนไวกว่าปกติ
การดูแลตัวเองในช่วงจัดฟัน
คุณหมอมาแนะนำการดูแลตัวเองในช่วงจัดฟัน สิ่งที่ควรทำ และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงจัดฟันไว้ดังนี้
สิ่งที่ควรทำ
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (หรือถ้าจะให้ดีคือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร)
- ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
- บ้วนปากเสมอหลังรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่ม
- มาพบคุณหมอตามนัด และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เช่น การดึงยาง
- หากคุณเป็นนักกีฬา คุณควรใส่ mouth guard ในช่วงฝึกซ้อม หรือแข่งขัน
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว กรอบหรือชิ้นใหญ่เกินไป เพราะอาจทำให้เกิความเสียหายต่อเครื่องมือจัดฟัน
- งดโซดา น้ำอัดลม ขนมหวาน
- อย่ากัดเล็บ เคี้ยวน้ำแข็ง ใช้ฟันงัดเปิดขวด
จัดฟันที่ไหนดี?
จัดฟันที่ไหนดี ? การเลือกคลินิกจัดฟันถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่คุณต้องตัดสินใจ นี่คือสิ่งที่คุณควรพิจารณาในการพิจารณาเลือกคลินิกที่จะมาดูแลคุณ
- ความหลากหลายของตัวเลือกในการจัดฟัน – ยิ่งคุณมีตัวเลือกในการรักษามาก คุณก็มีโอกาสที่จะพบกับการจัดฟันชนิดที่เหมาะสมที่สุดกับคุณ ที่ Smile Seasons เราให้บริการจัดฟันทุกรูปแบบ ตั้งแต่การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก การจัดฟันชนิด Self Ligating ทั้งแบบดามอน และแบรนด์อื่นๆ รวมทั้งการจัดฟันใสแบบ Invisalign หรือตัวเลือกใหม่อย่าง ดี-aligner นอกจากนี้เรายังมีคุณหมอที่ดูแลการจัดฟันที่จำเป็นต้องทำร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรด้วย ไม่ว่าความต้องการของคุณเป็นแบบไหน รับรองว่าเรามีพร้อมให้บริการ
- ราคาของการจัดฟัน – จริงอยู่ว่าใครๆ ก็ไม่อยากเสียเงินเป็นจำนวนมากในการจัดฟัน อย่างไรก็ดี อุปกรณ์ รวมทั้งเครื่องมือทางทันตกรรมที่ดี มีราคาไม่ถูก เราอยากให้คุณเลือกคลินิกจัดฟันที่มีราคาปานกลาง ไม่แพงมากหรือถูกมาก จนน่าสงสัย และหลีกเลี่ยงการจัดฟันแฟชั่น หรือการจัดฟันที่ไม่ทำโดยทันตแพทย์ในทุกกรณี เชื่อเราเถอะว่าได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ เลือกจัดฟันแท้ ดัดฟันแท้กับคุณหมอตัวจริงจะดีกว่า
- ความสะดวกในการเดินทาง – การจัดฟันโดยเฉพาะแบบติดเครื่องมือ คุณจะต้องเข้ามาพบคุณหมอทุกเดือน ฉะนั้นคุณควรเลือกคลินิกที่เดินทางง่าย อยู่ในละแวกที่อยู่อาศัย หรือระหว่างทางไปทำงาน เพราะอย่าลืมว่าคุณต้องเจอกับคุณหมอไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปี Smile Seasons เปิดให้บริการทั่วกรุงเทพฯ และสามารถเดินทางได้สะดวกทั้ง ขนส่งสาธารณะ เช่น BTS, MRT หรือจะขับรถส่วนตัวมาก็ได้ คุณอาจค้นหา คลินิกจัดฟันใกล้ฉัน ใน google เพื่อตรวจสอบคลินิกในบริเวณใกล้เคียง
- รีวิวจากคนไข้ท่านอื่น – ความคิดเห็นจากผู้เข้ารับบริการจริง ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณควรนำมาเป็นปัจจัยร่วมในการตัดสินใจ คลินิกที่ได้รับคำชื่นชมก็จะทำให้คุณวางใจได้ระดับหนึ่งว่าคุณกำลังเลือกคลินิกได้อย่างถูกต้องแล้ว คุณสามารถอ่านรีวิวจากคนไข้ของเรา ได้ทั้งใน website, Facebook หรือใน google
- ลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอ – สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ที่ Smile Seasons และคลินิกบางแห่ง คุณสามารถเข้าไปปรึกษาคุณหมอได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากคุณพอใจในการเดินทาง การบริการ และคุณหมอที่ดูแล คุณสามารถตัดสินใจตอบตกลงเข้ารับการจัดฟันในภายหลังได้
- มีคุณหมอเฉพาะทางด้านอื่นๆ หรือไม่ – บางครั้งการจัดฟันอาจต้องทำร่วมกับทันตกรรมสาขาอื่นๆ ที่ Smile Seasons เรามีคุณหมอเฉพาะทางครบทุกด้าน ไม่ว่าเคสของคุณจะเป็นเคสซับซ้อนเพียงใด ก็มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา
ทำไม Smile Seasons ถึงเป็นคลินิกจัดฟันที่เหมาะกับคุณ
1. ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
จัดฟันราคา ปัจจุบันที่ Smile Seasons เราออกแบบการติดเครื่องมือให้เหลือเพียง 999 บ. และผ่อนชำระต่อเนื่องเพียงเดือนละ 1,500 บ. พร้อมโปรจัดฟันให้คุณได้เลือก ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เราคิดว่าคุณมีสิทธิที่จะได้รับการดูแลที่ดีจากคุณหมอมืออาชีพ มีรอยยิ้มที่สวยงามและมีสุขภาพที่ดีได้ คลินิกจัดฟันของเราจึงสามารถเข้าถึงได้ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร
2. ดูแลคุณเป็นทีม
บ่อยครั้งที่การจัดฟันต้องทำควบคู่กับการรักษาอื่นๆ เช่น การถอนฟันคุดยากๆ การอุดปิดช่องว่าง รากเทียม หรือ ครอบฟัน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะคลินิกจัดฟันของเรามีทีมคุณหมอเฉพาะทางจากทุกๆ สาขาคอยดูแลคุณ มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดจากเรา
3. เรามีเวลาให้คุณ
ปัญหาหนึ่งของคนไข้จัดฟันคือแทบไม่มีเวลาคุยกับคุณหมอ เราจำกัดเคสจัดฟันต่อหนึ่งวันในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อให้คุณหมอมีเวลาดูแลคุณมากขึ้น หากคุณอยากปรึกษา ถามคำถามข้องใจ ก็สามารถทำได้เต็มที่
4. เดินทางสะดวก
คุณสามารถเลือกจัดฟันกับเรา ได้ทั้งหมด 7 สาขา ทั่วกรุงเทพ ได้แก่
- สนามเป้า/อนุสาวรีย์ชัย
- อโศกทาวเวอร์
- เมเจอร์รัชโยธิน
- ท่าพระ
- BTS อ่อนนุช
- Silom Complex
- Central Westville
สามารถเดินทางโดย BTS/MRT รวมทั้งมีอาคารจอดรถไว้ให้บริการ
5. ผลตอบรับดีเยี่ยมจากคนไข้
เราให้ความสำคัญกับคำติชมจากคนไข้ของเราเป็นอย่างมาก ฉะนั้นเราจึงภูมิใจกับรีวิวและความประทับใจที่คนไข้ของเรามีให้ เราสัญญาว่าจะพัฒนาบริการของเราให้ดียิ่งขึ้น และพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เปรียบเทียบโปรโมชั่น
เราแนะนำให้คุณเลือกโปรจัดฟันแบบโอนจอง 500 บาท เพราะคุณสามารถติดเครื่องมือในราคาที่ถูกกว่า รวมทั้งได้รีเทนเนอร์ใสฟรี (ปกติราคา 5,000 บ.) คุณสามารถเลื่อนนัดล่วงหน้าได้ 24 ชม. ได้ 1 ครั้งโดยที่คุณไม่เสียสิทธิ์การจองโปรโมชั่นอีกด้วย
โปรโมชั่นปัจจุบัน
แบบโอนจอง
โปรโมชั่นปัจจุบัน
แบบไม่โอนจอง
ราคาปกติ
ค่าโอนจอง
500 บ.
ติดเครื่องมือ
999 x2
1,500 x2
4,000 x2
ปรับเครื่องมือ
1,500
1,500
2,000
ฟรี-ค่าปรึกษาและพิมพ์ปาก
ฟรี-ค่าเอ็กซเรย์
คูปองส่วนลดเคลียร์ช่องปาก 3,500
ฟรี-Retainer ใส
รายการแถมตามโปรโมชั่น
ค่าปรึกษาและพิมพ์ปาก
จากปกติราคา 1,000 บ.
ค่าเอ็กซเรย์ วางแผนจัดฟัน
จากปกติราคา 1,600 บ.
คูปองส่วนลดค่าเคลียร์ช่องปาก
มูลค่ารวม 3,500 บ.
รีเทนเนอร์ใส
จากปกติราคา 5,000 บ.
รีวิวจากคนไข้ที่จัดฟันกับเรา
ทีมทันตแพทย์ของเรา
คลินิกทันตกรรม Smile Seasons ของเรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดฟันที่พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการจัดฟันที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับคุณ
FAQ เกี่ยวกับการจัดฟัน จากทันตแพทย์
จัดฟันครั้งแรกต้องทำอย่างไร
เมื่อจัดฟันครั้งแรก คุณต้องเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่คลินิกว่า ต้องการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาอะไร เช่น ฟันห่าง ฟันเอียง ฟันเบี้ยว หรืออื่น ๆ คุณหมอจะทำการตรวจช่องปากอย่างละเอียด พร้อม X-ray เพื่อวางแผนการจัดฟัน คุณสามารถสอบถามข้อสงสัยของคุณ และหากคุณตกลงเข้ารับการจัดฟัน คุณหมอจะพิมพ์ปากเพื่อสร้างโมเดลฟัน สำหรับใช้ประกอบการรักษา
โปรโมชั่นของเรา : ฟรี ค่าปรึกษา ค่า X-ray และค่าพิมพ์ปาก – คุณไม่เสียค่าใช้จ่ายในวันแรกที่พบคุณหมอ
จัดฟันราคา ปัจจุบันเริ่มต้นที่เท่าไหร่ อัพเดต 15/06/67
ที่ Smile Seasons จัดฟันราคา ปัจจุบันเริ่มต้นที่ ติดเครื่องมือ 999 บ. X2 ครั้ง หลังจากนั้นปรับเครื่องมือเพียงเดือนละ 1,500 บ. นอกจากนี้โปรโมชั่นจัดฟันของเรายังแถมฟรี คูปองส่วนลดค่าเคลียร์ช่องปาก 3,500 บ. และรีเทนเนอร์ใสเมื่อทำการรักษาเสร็จสิ้น
เคลียร์ช่องปากคืออะไร
ก่อนติดเครื่องมือจัดฟัน สภาพช่องปากของคุณต้องแข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด คุณหมอจะต้องขูดหินปูน อุดฟันที่ผุ รวมทั้งถอนฟันคุด (หากมี) ให้เรียบร้อย เพื่อให้มั่นใจว่าภาวะเหล่านี้จะไม่ไปรบกวนคุณระหว่างจัดฟัน
ค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปากประมาณเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเคลียร์ช่องปากของคนไข้แต่ละรายจะแตกต่างกันตามสภาพช่องปาก คุณหมอจะให้คำแนะนำว่าคุณต้องทำการรักษาอะไรบ้าง
คุณไม่จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปากให้เสร็จทั้งหมดในครั้งเดียว คุณสามารถแจ้งงบประมาณในแต่ละครั้งให้กับคุณหมอ หรือเจ้าหน้าที่ เพื่อเราจะได้ช่วยคุณวางแผนได้
ราคาค่ารักษาเริ่มต้น ที่เกี่ยวข้องกับการเคลียร์ช่องปาก – ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน 1,000 บ. ถอนฟันคุด 1,600 ผ่าฟันคุด 2,800 (ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ ตำแหน่ง และความยากง่าย) ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จัดฟันราคา เลย
จัดฟันใช้เวลากี่ปี
โดยเฉลี่ยการจัดฟันใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับการเรียงตัวของฟัน อายุของคนไข้ และความร่วมมือ เช่น มาปรับเครื่องมือตามนัดทุกครั้ง ดึงยางตามคำแนะนำของคุณหมอ เป็นต้น
อยากย้ายคลินิกจัดฟัน ต้องทำอย่างไร
หากคุณย้ายที่อยู่ หรือมีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนคลินิกจัดฟัน ถ้าคุณหมอสามารถจัดฟันต่อให้เสร็จได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันชุดใหม่ จะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 1,500 บ.
กรณีคุณหมอจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันชุดใหม่ จะมีค่าถอดเครื่องมือ ขัดกาวชุดเก่าออก 1,500 บ. หลังจากนั้นคุณสามารถเลือกใช้โปรโมชั่นจัดฟันของคลินิกได้ตามปกติ
จัดฟันจะปวดไหม ปวดนานกี่วัน
เมื่อฟันถูกเคลื่อนตำแหน่ง ย่อมเกิดความไม่สบายรบกวนคุณได้บ้าง อาการปวดจะเป็นอยู่ในช่วง 3-4 วันแรกหลังปรับเครื่องมือ และจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ หากปวดมาก คุณสามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
จัดฟันแล้วทานอาหารอะไรได้บ้าง
ในช่วงแรกที่มีอาการปวด คุณควรรับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป ไข่ตุ๋น พยายามใช้ฟันกรามเคี้ยว ซึ่งจะปวดน้อยกว่า
เมื่อหายปวดคุณสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรแบ่งหรือตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ และงดเว้นอาหารแข็ง/เหนียว เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุด หรือชำรุดได้
การมีเครื่องมือจัดฟันจะทำให้คุณทำความสะอาดช่องปากได้ไม่ดีเท่าเดิม คุณควรใช้เวลากับการแปรงฟันมากขึ้น และควรใช้ไหมขัดฟัน และแปรงซอกฟันเพื่อทำความสะอาดเพิ่มเติมในจุดที่เข้าถึงยาก
จัดฟันแบบไม่ถอนฟันได้หรือเปล่า
เมื่อจัดฟัน คุณหมอจำเป็นต้องมีช่องว่างสำหรับให้ฟันเคลื่อนที่ หรือหมุนไปอยู่ในตำแหน่งที่สวยงาม ความจำเป็นในการถอนฟันขึ้นอยู่กับสภาพฟันของคุณว่ามีพื้นที่เพียงพอหรือไม่ หากคุณไม่อยากถอนฟัน คุณสามารถสอบถามถึงทางเลือก และข้อจำกัดในการรักษากับคุณหมอของเราได้ตลอดเวลา
อายุเท่าไหร่ถึงจัดฟันได้
คุณสามารถจัดฟันได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม อย่างไรก็ดีช่วงวัยรุ่น (10-14 ปี) เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการจัดฟัน เพราะกระดูมกรามกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา เรียงตัวของฟัน และการสบฟันที่ดีจากการจัดฟันสามารถทำให้โครงหน้าสวยงามได้ในอนาคต
จัดฟันแล้วหน้าเรียว หน้าเปลี่ยนไหม
การจัดฟันอาจะทำให้ลักษณะโครงหน้าเปลี่ยนแปลงไป โดยขึ้นอยู่กับปลายปัจจัยดังนี้
- การถอนฟัน ร่วมกับการจัดฟัน ซึ่งทำให้ปากอูมลดลง โดยเฉพาะเมื่อมองจากทางด้านข้าง กรณีฟันบน จมูกก็จะดูโด่งมากขึ้น หากเป็นฟันล่าง คางก็จะชัดขึ้น
- ระหว่างจัดฟันคนไข้มักเคี้ยวน้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวทำงานน้อยลงตาม แก้มจึงดูเรียวกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
- คนไข้ที่จัดฟันตั้งแต่วัยรุ่น (10-14 ปี) กระดูกขากรรไกรกำลังเจริญเติบโต การแก้ไขฟันที่เรียงตัว หรือสบผิดปกติ สามารถส่งผลให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่ดี และสวยงามขึ้นได้
- การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร เมื่อรักษาเสร็จสิ้นจะทำให้โครงหน้าสวยงามขึ้นอย่างแน่นอน
หลังจัดฟัน ใส่รีเทนเนอร์ นานแค่ไหน
รีเทนเนอร์จะสำคัญมากในช่วง 1-2 ปีแรกหลังจากทำการจัดฟันเสร็จ ซึ่งทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทนเนอร์หลังจากที่จัดฟันเสร็จใหม่ตลอดเวลาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน แต่จะถอดได้เฉพาะตอนแปรงฟันและรับประทานอาหารเท่านั้น เนื่องจากช่วงที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ ฟันมีโอกาสที่จะเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งก่อนจัดฟันได้ง่าย แต่หลังจากนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนได้ หรือถ้าผ่านช่วงแรกไปแล้วก็เปลี่ยนเป็นใส่ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
สรุปคือ ถ้าสามารถใส่รีเทนเนอร์ไว้ได้ตลอดตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็จะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนตัวน้อย และไม่ต้องกลับมาจัดฟันรอบสองใหม่
จัดฟันแล้วสามารถทำจมูกได้หรือไม่
การจัดฟันไม่มีผลต่อการเสริม หรือการทำศัลยกรรมที่จมูก ความเชื่อที่ว่าทำจมูกร่วมกับจัดฟันแล้วจมูกจะทะลุเป็นความเข้าใจที่ผิด อย่างไรก็ตามการจัดฟัน โดยเฉพาะคนไข้ที่ถอดฟันบนร่วมด้วย ความอูมของปากจะลดลง รูปจมูกจะดูโด่งขึ้น หากคุณยังไม่ได้ทำจมูก อาจรอให้ฟันเคลื่อนตัวสไปสักพัก่อนปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมเรื่องการเสริมจมูกในภายหลัง
จัดฟันเด็กได้ไหม ต่างกับจัดฟันผู้ใหญ่อย่างไร
จัดฟันเด็กสามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการจัดฟันผู้ใหญ่ แต่ในด้านการทำทันตกรรมก็จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงอายุที่เข้ารับการรักษา ยกตัวอย่างเช่น
- หากทำการจัดฟันเด็กช่วงอายุ 6-11 ปี มักจะใช้การจัดฟันเฉพาะบางตำแหน่ง เพื่อให้ปัญหาภายในช่องปากบรรเทาลง เมื่อเข้าสู่ช่วงชุดฟันแท้งอกขึ้นมาจนครบ และมักจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่สั้นประมาณ 1-6 เดือน
- แต่เมื่ออายุ 12 ปีขึ้นไปจะเป็นการรักษาฟันแท้ทุกซี่ในช่องปาก เพื่อให้ฟันเรียงตัวในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยระยะเวลาการจัดฟันก็จะนานขึ้นด้วย (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับว่าต้องถอนฟันหรือไม่)
- สำหรับการจัดฟันผู้ใหญ่ก็จะใช้เวลาในการรักษาที่นานกว่าในเด็ก เนื่องจากมีความหนาแน่นในกระดูกที่มากกว่า
จัดฟัน ดึงฟันเจ็บไหม
จัดฟันเด็กได้ไหม ต่างกับจัดฟันผู้ใหญ่อย่างไร
รีเทนเนอร์จะสำคัญมากในช่วง 1-2 ปีแรกหลังจากทำการจัดฟันเสร็จ ซึ่งทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทนเนอร์หลังจากที่จัดฟันเสร็จใหม่ตลอดเวลาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน แต่จะถอดได้เฉพาะตอนแปรงฟันและรับประทานอาหารเท่านั้น เนื่องจากช่วงที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ ฟันมีโอกาสที่จะเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งก่อนจัดฟันได้ง่าย แต่หลังจากนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนได้ หรือถ้าผ่านช่วงแรกไปแล้วก็เปลี่ยนเป็นใส่ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
สรุปคือ ถ้าสามารถใส่รีเทนเนอร์ไว้ได้ตลอดตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็จะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนตัวน้อย และไม่ต้องกลับมาจัดฟันรอบสองใหม่
ฟันใหญ่ จัดฟันได้ไหม
กรณีฟันซี่หน้าใหญ่ ปัญหาฟันหน้าใหญ่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน แต่อาจมีจำเป็นต้องทำการรักษาอื่นๆ เช่น การกรอฟัน หรือการทำวีเนียร์ ร่วมกับการจัดฟันด้วย การรักษาจะมีความซับซ้อนมากขึ้น และจำเป็นต้องใช้ทีมคุณหมอเฉพาะทางหลายสาขาเข้ามาร่วมดูแล
สรุปเกี่ยวกับการจัดฟัน
โดยสรุปแล้วการจัดฟัน ถือเป็นการลงทุนกับสุขภาพช่องปาก รวมถึงบุคลิกภาพและความมั่นใจของตัวเอง คุณหมอหวังว่าคุณจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจ เลือกชนิดและคลินิกจัดฟันที่เหมาะสมกับตัวเอง รวมทั้งรู้ถึง ขั้นตอน วิธีการดูแลตัวเองทั้งก่อน และระหว่างจัดฟัน สำหรับใครที่อยากจัดฟันกับ Smile Seasons สามารถลงทะเบียน เข้ามาปรึกษากับคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วพบกันนะครับ
อ้างอิง
- What is orthodontics?., Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/24285-orthodontics
- Dental Braces: Types, Uses, Care., Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/24601-teeth-braces
- Braces and orthodontics ., Available from: https://www.nhs.uk/conditions/braces-and-orthodontics/
- What are Dental Braces?., Available from: https://www.news-medical.net/health/What-are-Dental-Braces.aspx
บทความโดย
ปริทันตวิทยา (โรคเหงือก), รากเทียม, จัดฟัน
- วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญ (ปริทันตวิทยา) ทันตแพทยสภา
- ประกาศนียบัตรหลักสูตรทันตแพทย์เฉพาะทาง (ปริทันตวิทยา) ม.มหิดล
- ประกาศนียบัตร (ทันตกรรมจัดฟัน) Advanced Orthodontic Society
- ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ม.เชียงใหม่
โปรโมชั่นอื่นๆ
เลือกน้ำยาบ้วนปากอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง
น้ำยาบ้วนปากเป็นตัวช่วยเสริมในการส่งเสริมให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี แต่ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับสุขภาพช่องปาก แต่จะเลือกอย่างไร คลิกเลย
หลังติดเครื่องมือจัดฟัน ฟันโยกเกิดจากอะไร แก้ไขได้ด้วยวิธีใดบ้าง
หลังจัดฟัน ฟันโยกเป็นอาการที่พบได้บ่อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการจัดฟันนานเกินไปและไม่พบทันตแพทย์อย่างต่อเนื่อง ที่ทำให้ฟันโยกหลังจัดฟัน
ชวนหาคำตอบเมื่อเหล็กจัดฟันหลุด ต้องทำอย่างไร
เหล็กจัดฟันหลุด ควรทำอย่างไร? เรียนรู้สาเหตุที่ทำให้เหล็กจัดฟันหลุด พร้อมวิธีรับมือและการป้องกัน ไม่ให้จัดฟันแล้วเหล็กหลุดได้ง่าย ๆ
จัดฟันแล้วปวดฟันเกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง
อาการจัดฟันแล้วปวดฟันเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น แรงดันจากการเคลื่อนฟันหรือการดูแลที่ไม่ดี ปัญหาเหล่านี้ควรรีบแก้ไขก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากอื่น ๆ
เกลารากฟันคืออะไร สำคัญต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร
เกลารากฟันเป็นการทำความสะอาดรากฟันใต้เหงือกลึก เพื่อกำจัดหินปูนและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษาโรคปริทันต์และป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากที่รุนแรง
ทำความเข้าใจการปักสกรูเวลาจัดฟันคืออะไร
เจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับการปักสกรูจัดฟัน ตั้งแต่ขั้นตอน อาการที่อาจเกิดขึ้น และการดูแลตัวเองหลังปักสกรู พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ