รู้จักกับฟันแท้มีกี่ซี่ เริ่มขึ้นตอนไหน พร้อมวิธีดูแลให้ฟันแข็งแรง

ฟันแท้เป็นฟันชุดที่สองของทุกคน ที่เกิดมาแทนที่ฟันน้ำนมเมื่อเราโตขึ้น ฟันแท้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเคี้ยวอาหาร พูดคุย และสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม ดังนั้นการดูแลฟันแท้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้มีสุขภาพฟันที่ดี แข็งแรง เรียงตัวในตำแหน่งสวยงามและจะอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต สำหรับในบทความนี้ Smile Seasons จะพาไปทำความรู้จักกับฟันแท้ให้มากขึ้น ว่าฟันแท้มีกี่ซี่ มีลำดับการขึ้นอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีดูแลรักษาให้แข็งแรง

ฟันแท้คืออะไร

ฟันแท้ คือ ฟันชุดที่สองของเราที่ขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมเมื่อเราโตขึ้น ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าฟันน้ำนม และมีสีขาวอมเหลืองเล็กน้อย โดยฟันแท้จะมีความสำคัญต่อการเคี้ยวอาหาร การพูด และยังช่วยให้เรามีรอยยิ้มที่สวยงามส่งผลต่อภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของเราอีกด้วย

ฟันแท้ VS ฟันน้ำนม ต่างกันอย่างไร

ฟันแท้ VS ฟันน้ำนม

ฟันแท้ และฟันน้ำนม ถึงแม้จะดูคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันหลายอย่าง โดยหลัก ๆ แล้วจะแตกต่างกันที่

  • จำนวน : ฟันน้ำนมมีประมาณ 20 ซี่ ส่วนฟันแท้จะมีทั้งหมด 32 ซี่เมื่อขึ้นครบ
  • ขนาด : ฟันแท้จะมีขนาดใหญ่กว่าฟันน้ำนม
  • สี : ฟันน้ำนมจะมีสีขาวและใสกว่า ส่วนฟันแท้จะมีสีขาวอมเหลืองเล็กน้อย
  • อายุการใช้งาน : ฟันน้ำนมจะค่อย ๆ หลุดไปเมื่อเราโตขึ้น เพื่อให้ฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ ส่วนฟันแท้จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต หากได้รับการดูแลอย่างดี
  • ความแข็งแรง : ฟันแท้จะมีเนื้อฟันที่แข็งแรงกว่าฟันน้ำนม ทำให้ทนทานต่อการเคี้ยวอาหารได้ดีกว่า

ฟันแท้มีกี่ซี่

โดยปกติแล้ว คนเราจะมีฟันแท้ทั้งหมด 32 ซี่ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • ฟันตัด (Incisors) เป็นฟันหน้าสุด ใช้สำหรับกัดและตัดอาหาร มีลักษณะแบนและขอบคม
  • ฟันเขี้ยว (Canines) อยู่ถัดจากฟันตัด ใช้สำหรับฉีกและขาดอาหาร มีลักษณะแหลมคม
  • ฟันกรามน้อย (Premolars) อยู่ถัดจากฟันเขี้ยว ใช้สำหรับบดเคี้ยวอาหาร มีลักษณะกว้างและมีสัน
  • ฟันกราม (Molars) อยู่ด้านในสุดของขากรรไกร ใช้สำหรับบดเคี้ยวอาหาร มีลักษณะกว้างและมีสันหลายสัน

ลำดับการขึ้นของฟันแท้

ลำดับการขึ้นของฟันแท้

ลำดับการขึ้นของฟันแท้ในแต่ละคนอาจแตกต่างกันเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้ว ฟันแท้ซี่แรกจะเริ่มขึ้นเมื่อเราอายุประมาณ 6-7 ปี และจะทยอยขึ้นมาเรื่อย ๆ จนครบ 32 ซี่ เมื่ออายุประมาณ 12-13 ปี ยกเว้นฟันกรามซึ่งอาจจะขึ้นได้ช้า บางคนอาจขึ้นเมื่ออายุ 20 ปลายๆ เลยก็ได้ ซึ่งก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อลำดับการขึ้นของฟันแท้ ได้แก่ พันธุกรรม สุขภาพ และโภชนาการ จึงทำให้ในแต่ละคนอาจมีลำดับการขึ้นของฟันที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีลำดับการขึ้นของฟันแท้ ดังนี้

อายุ 6-7 ปี

  • ฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 (หรือมักได้ชื่อเล่นว่าฟัน 6 ขวบ) มักเป็นฟันแท้ซี่แรกที่ขึ้นโดยขึ้นหลังฟันน้ำนมซี่สุดท้าย
  • ฟันหน้าซี่กลาง มักขึ้นไล่เลี่ยกันกับฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 โดยจะขึ้นแทนฟันน้ำนมที่เป็นฟันหน้าที่เพิ่งหลุดออกไป

อายุ 7-8 ปี

  • ฟันหน้าซี่ข้าง มักเป็นฟันชุดที่ 2 ที่เริ่มขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนม

อายุ 9-12 ปี

  • ฟันกรามน้อยซี่ที่ 1 และ 2 ขึ้นมาแทนที่ฟันกรามน้ำนม
  • ฟันเขี้ยว มักขึ้นมาไล่เลี่ยกันฟันกรามน้อยซี่ที่ 1 และ 2

อายุ 11-13 ปี

  • ฟันกรามแท้ซี่ที่ 2 (หรือมักได้ชื่อเล่นว่าฟัน 12 ขวบ) ขึ้นในตำแหน่งถัดไปจากฟันกรามแท้ซี่ที่ 1

อายุ 17-21 ปี

  • ฟันคุด หรือฟันกรามแท้ซี่ที่ 3 เป็นฟันที่จะขึ้นทีหลังสุด อย่างไรก็ตามในบางคนก็อาจไม่ขึ้นมาเลย หรือขึ้นมาเพียงบางส่วน ซึ่งอาจต้องได้รับการถอนหรือผ่าฟันคุดออก

ทั้งนี้ฟันคุดอาจขึ้นไม่ครบทุกซี่ หรือขึ้นในตำแหน่งที่ผิดปกติ จึงมักจะถอนออกเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ฟันแท้ขึ้นช้าเกิดจากสาเหตุอะไร

 การเกิดฟันแท้ล่าช้าอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสภาวะแวดล้อมหรือสุขภาพต่าง ๆ ต่อไปนี้คือสาเหตุที่พบบ่อย

  1. พันธุกรรม ประวัติครอบครัวอาจมีผลต่อช่วงเวลาที่ฟันแท้จะขึ้น หากพ่อแม่มีฟันขึ้นช้า เด็กก็อาจประสบปัญหาการเกิดฟันแท้ล่าช้าเช่นกัน
  2. การสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด หากฟันน้ำนมหลุดออกก่อนกำหนดเนื่องจากอุบัติเหตุหรือฟันผุ ฟันข้างเคียงอาจเคลื่อนเข้ามาในช่องว่างที่ฟันหลุดออก ทำให้ฟันแท้ไม่สามารถขึ้นได้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และอาจทำให้เกิดความล่าช้า
  3. การคงอยู่ของฟันน้ำนมเป็นเวลานาน บางครั้งฟันน้ำนมไม่หลุดออกตามเวลา ทำให้ฟันแท้ไม่สามารถขึ้นได้ ซึ่งอาจเกิดจากรากของฟันน้ำนมไม่ละลาย หรือฟันแท้ที่กำลังพัฒนาอยู่ข้างใต้ไม่เป็นไปตามปกติ
  4. ฟันฝัง ฟันแท้อาจถูกบล็อกโดยฟันอื่น ๆ กระดูก หรือเนื้อเยื่ออ่อน ทำให้ไม่สามารถขึ้นได้ ซึ่งมักพบในฟันคุด แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับฟันแท้ฟันอื่น ๆ โดยเฉพาะฟันเขี้ยว
  5. การเบียดกันของฟัน เมื่อกรามมีขนาดเล็กเกินไปที่จะรองรับฟันแท้ทั้งหมด การเบียดกันของฟันอาจทำให้การขึ้นของฟันล่าช้าหรือไม่ขึ้นเลย การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันอาจจำเป็นเพื่อสร้างพื้นที่ให้ฟันขึ้นอย่างถูกต้อง
  6. ภาวะขาดสารอาหาร การขาดสารอาหารที่สำคัญเช่น แคลเซียม วิตามินดี และฟอสฟอรัส อาจส่งผลต่อการขึ้นของฟัน การขาดสารอาหารในช่วงต้นชีวิตสามารถทำให้ฟันพัฒนาและขึ้นช้าได้
  7. ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ สภาวะทางฮอร์โมนบางอย่าง เช่น ภาวะพร่องไทรอยด์ หรือ ภาวะต่อมใต้สมองทำงานน้อยเกินไป สามารถชะลอการเจริญเติบโตและการพัฒนารวมถึงการขึ้นของฟันได้
  8. ภาวะระบบร่างกายทั่วไป กลุ่มอาการดาวน์ หรือความผิดปกติของพัฒนาการอื่น ๆ อาจทำให้ฟันขึ้นช้าทั้งฟันน้ำนมและฟันแท้
  9. การติดเชื้อหรือการอักเสบ การติดเชื้อหรือการอักเสบในเหงือกอาจขัดขวางหรือทำให้การขึ้นของฟันล่าช้าได้
  10. การรักษาด้วยรังสี เด็กที่ได้รับการรักษาด้วยรังสี โดยเฉพาะบริเวณศีรษะและลำคอ อาจประสบปัญหาการขึ้นของฟันล่าช้าเนื่องจากการทำลายของตาที่กำลังพัฒนาของฟัน
  11. ฟันเกิน (ฟันส่วนเกิน) การมีฟันเกินอาจบล็อกหรือทำให้การขึ้นของฟันแท้ล่าช้าโดยการยึดพื้นที่ที่ฟันแท้ควรจะขึ้น
  12. ซีสต์ฟันขึ้น บางครั้งอาจเกิดซีสต์ขึ้นที่ครอบฟันที่กำลังพัฒนาอยู่ ทำให้ฟันไม่สามารถขึ้นได้อย่างปกติและทำให้เกิดความล่าช้า

ฟันแท้ยังขึ้นไม่หมด จัดฟันได้ไหม

แม้ว่าฟันแท้จะยังขึ้นไม่ครบ แต่เด็กก็สามารถจัดฟันได้ แถมการจัดฟันในเด็กยังให้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น

  • แก้ไขปัญหาฟันซ้อนเก หรือฟันห่าง การจัดฟันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น และอาจไม่ต้องใช้เวลาในการจัดฟันนานเท่ากับการจัดฟันในผู้ใหญ่
  • ควบคุมการขึ้นของฟันแท้ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ลดโอกาสที่ฟันแท้จะขึ้นซ้อนกันหรือผิดตำแหน่ง
  • การจัดฟันตั้งแต่เด็กจะช่วยป้องกันปัญหาการสบฟันผิดปกติในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร การออกเสียง และความมั่นใจในการยิ้มได้

วิธีดูแลรักษาฟันแท้ให้แข็งแรง

วิธีดูแลรักษาฟันแท้ให้แข็งแรง

ฟันแท้เป็นฟันชุดสุดท้ายที่เราจะมี ดังนั้นการดูแลรักษาให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ฟันแท้อยู่กับเราไปนาน ๆ ซึ่งสามารถดูแลฟันแท้ให้ดีได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้เลย

  1. แปรงฟันให้ถูกวิธีและสม่ำเสมอ โดยควรแปรงวันละ 2 ครั้ง หลังตื่นนอนและก่อนนอน แปรงนาน 2 นาที ให้ทั่วถึงทุกซี่ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านใน ที่สำคัญควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม และยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
  2. ใช้ไหมขัดฟันขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง โดยควรทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ในบริเวณซอกฟันต่าง ๆ
  3. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เพราะน้ำตาลเป็นสาเหตุหลักของฟันผุ
  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างอาหารที่มีแคลเซียม เช่น นม โยเกิร์ต และชีส จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของฟัน
  5. ไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก ตรวจหาฟันผุ หินปูน และปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น จะได้ทำการรักษาและแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
  6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อฟัน โดยไม่ใช้ฟันกัดสิ่งของแข็ง เช่น กัดเล็บ และกัดปากกา เป็นต้น

สรุป

หลาย ๆ คนคงรู้แล้วว่าฟันแท้มีกี่ซี่ สำหรับฟันแท้ คือ ฟันชุดสุดท้ายที่เราจะมี ดังนั้นการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีตั้งแต่เด็กนั้นสำคัญมาก จะช่วยให้คุณมีฟันที่แข็งแรงและสวยงามตลอดชีวิต แถมยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ฟันผุ โรคเหงือก และปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งการดูแลฟันแท้ให้แข็งแรงนั้นก็ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่หมั่นดูแลความสะอาดของช่องปากอย่างถูกวิธี และไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ

คลินิกทันตกรรม Smile Seasons เราสามารถช่วยดูแลฟันของคุณได้เป็นอย่างดี เพราะเราคือคลินิกทันตกรรมที่มีทันตแพทย์มากประสบการณ์ และใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการรักษาฟัน ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง จึงช่วยให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายและหมดความกังวลใจที่ต้องมาพบหมอฟันไปได้เลย หากคุณต้องการมีรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีต้องที่ Smile Seasons เลย

บทความโดย

Picture of ทพ.ธนิตย์ วนิชนพรัตน์

ทพ.ธนิตย์ วนิชนพรัตน์

  • วุฒิบัตรทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาปริทันตวิทยา ทันตแพทยสภา
  • Certificate of Training Orthodontic and Miniscrew
  • Advance Orthodontic Society
  • Certification of Invisalign Provider
  • ทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
  • เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน เราขอความยินยอมของคุณในการใช้คุกกี้ ดูรายละเอียด นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือ คุกกี้

    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน เราขอความยินยอมของคุณในการใช้คุกกี้ ดูรายละเอียด นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือ คุกกี้