รีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่ คืออะไร จำเป็นต้องใส่ไหม
หลังจากการจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับรีเทนเนอร์กันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่บางคนอาจจะมีคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับรีเทนเนอร์ว่า รีเทนเนอร์คืออะไร ทำไมเราจึงต้องใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันเสร็จ มีความสำคัญอย่างไรบ้าง รีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่ รีเทนเนอร์แบบลวด กับแบบใสราคาต่างกันหรือเปล่า ถ้าหากไม่ใส่แล้วจะเป็นอะไรไหม Smile Seasons จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรีเทนเนอร์มาไขข้อข้องใจให้กับทุก ๆ คนกัน
รีเทนเนอร์ คืออะไร
รีเทนเนอร์ (Retainer) คือ อุปกรณ์ที่ต้องใส่หลังจัดฟันเสร็จ เพื่อช่วยคงสภาพของฟันให้คงอยู่ในตำแหน่งเดิมหลังการจัดฟันเสร็จเรียบร้อย เนื่องจากฟันที่เพิ่งจัดเสร็จจะยังมีความไม่มั่นคงและสามารถเคลื่อนตัวกลับไปยังตำแหน่งก่อนจัดฟันได้ ซึ่งรีเทนเนอร์จะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจัดฟันอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน
ทำไมถึงต้องใส่รีเทนเนอร์ สำคัญอย่างไร
หลังจากที่จัดฟันเรียบร้อยแล้ว และทำการถอดเครื่องมือจัดฟันออก ฟันที่เพิ่งจัดเสร็จจะยังไม่สามารถจดจำตำแหน่งของฟันที่ใหม่ได้ จึงทำให้ฟันเคลื่อนตัวกลับไปยังจุดเดิมก่อนที่จะจัดฟัน และอาจส่งผลให้ฟันล้ม ฟันซ้อน หรือฟันเกได้ รีเทนเนอร์จึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ฟันคงอยู่ในตำแหน่งหลังจัดฟันเสร็จโดยไม่ก่อให้เกิดฟันล้ม ฟันซ้อน หรือฟันเก ซึ่งถ้าหากคนไข้ไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์แนะนำ โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 1 – 2 ปีแรกหลังจัดฟันเสร็จ ฟันจะสามารถซ้อน ล้ม หรือเกได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
รีเทนเนอร์มีกี่ประเภท ควรใส่แบบไหนดี
ประเภทของรีเทนเนอร์ มี 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ รีเทนเนอร์แบบลวด และรีเทนเนอร์แบบใส ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป และมีราคา รีเทนเนอร์ที่แตกต่างกันไปเช่นกัน
รีเทนเนอร์แบบลวด
รีเทนเนอร์แบบลวด เป็นรีเทนเนอร์แบบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด มีราคาค่อนข้างถูก และเป็นรูปแบบของรีเทนเนอร์ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยก่อน รูปทรงจะเป็นลวดดัดรับกับรูปทรงของส่วนโค้งของแนวฟัน และมีแผ่นอะคริลิกคอยซัพพอร์ตให้ทรงของลวดมีความมั่นคงขึ้น มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้
ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบลวด
- สามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่าย และซ่อมแซมได้ง่ายหากได้รับการกระทบกระเทือนหรือเกิดการชำรุด
- สามารถเลือกสีหรือแบบของอะคริลิกได้ตามที่ตัวเองชอบ
- รีเทนเนอร์แบบลวด ราคาถูกกว่ารีเทนเนอร์แบบใส
- มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบลวด
มองเห็นลวดขณะที่สวมใส่ ทำให้บางคนอาจสูญเสียความมั่นใจขณะที่พูดหรือยิ้ม
อาจทำให้พูดออกเสียงให้ชัดได้ยากขึ้นในช่วงแรก ๆ ที่สวมใส่
รีเทนเนอร์แบบใส
รีเทนเนอร์แบบใส เป็นรีเทนเนอร์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะทำให้คนทั่วไปดูไม่ออกว่ากำลังสวมใส่รีเทนเนอร์อยู่ มีรูปทรงเป็นแบบใสและสามารถใส่ครอบลงไปตรงตัวฟันได้เลย ซึ่งรีเทนเนอร์แบบใสมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้
ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบใส
- ด้วยความที่เป็นแบบใส จึงทำให้ไม่เสียบุคลิกภาพและความมั่นใจเมื่อต้องพูดหรือยิ้ม
- สามารถใส่ครอบลงตรงตัวฟันได้เลย จึงไม่รบกวนการพูดและการออกเสียง
ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบใส
ดูแลรักษาความสะอาดได้ยากกว่ารีเทนเนอร์แบบลวด จึงต้องการความเอาใจใส่ที่มากกว่า
ได้รับการกระทบกระเทือนได้ง่าย จึงเกิดการชำรุดได้ง่าย และไม่สามารถซ่อมแซมได้หากได้รับการกระทบกระเทือน จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
- รีเทนเนอร์แบบใส ราคาราคาแพงกว่ารีเทนเนอร์แบบลวด
หากมีพฤติกรรมกัดฟันในขณะที่นอนหลับ อาจไม่เหมาะกับการใช้รีเทนเนอร์แบบใสเพราะจะทำให้เกิดการชำรุดได้ง่าย
อายุการใช้งานสั้นกว่ารีเทนเนอร์แบบลวด
น้ำลายสามารถขังในรีเทนเนอร์และเกิดฟองอากาศขณะใช้งานได้
ต้องใส่รีเทนเนอร์เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใส่รีเทนเนอร์ คือ จะต้องใส่รีเทนเนอร์เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ ซึ่งถ้ากล่าวกันตามตรงแล้วก็คือควรใส่ตลอดชีวิต เพื่อให้ฟันยังคงสภาพการเรียงตัวที่สวยงาม โดยเฉพาะเมื่ออายุเยอะขึ้น ก็จะยิ่งมีโอกาสที่ฟันจะเคลื่อนที่ได้มากขึ้น แต่รายละเอียดความถี่ในการใส่รีเทนเนอร์ในช่วงแรกที่เพิ่งจัดฟันเสร็จ กับช่วงที่จัดฟันเสร็จได้ระยะหนึ่งแล้วจะแตกต่างกันไป ดังนี้
- ช่วงประมาณ 6 เดือน – 1 ปีแรก ควรใส่รีเทนเนอร์อย่างน้อยเป็นเวลา 22 ชั่วโมงต่อวัน โดยสามารถถอดได้เฉพาะเวลาทานข้าวและแปรงฟันเท่านั้น เพราะยังเป็นช่วงที่ฟันสามารถเคลื่อนตัวได้ง่ายที่สุด
- ช่วงประมาณ 1 ปี – 2 ปีแรก สามารถใส่เฉพาะตอนนอนเท่านั้นได้ เพราะฟันเริ่มคงสภาพได้ดีขึ้นแล้ว
- ช่วงหลังจาก 2 ปีขึ้นไป ยังคงต้องใส่รีเทนเนอร์อยู่เพื่อให้ฟันคงสภาพสวยงามไปตลอด แต่สามารถเว้นระยะในการใส่จากทุกวันเป็นวันเว้นวันในเวลานอนได้
อายุการใช้งานของรีเทนเนอร์
โดยปกติแล้ว อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของรีเทนเนอร์จะอยู่ที่ประมาณ 1 – 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรีเทนเนอร์ของแต่ละบุคคล สำหรับบางคนที่ดูแลรักษาได้เป็นอย่างดี อาจมีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้ถึง 5 ปี ซึ่งหลังจากครบช่วงเวลานี้แล้วก็ควรทำรีเทนเนอร์ใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนที่จากการเสื่อมสภาพของรีเทนเนอร์
ปัญหาที่อาจพบจากการใส่รีเทนเนอร์
การใส่รีเทนเนอร์อาจส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาเมื่อระยะเวลาผ่านไป โดยปัญหาที่พบได้บ่อย มีดังนี้
รีเทนเนอร์หลวม
หลังจากใช้รีเทนเนอร์ไประยะเวลาหนึ่งแล้ว รีเทนเนอร์ประเภทลวดอาจเกิดการคลายตัวขึ้นจากการกระทบกระเทือนระหว่างใช้งาน จึงควรรีบเข้าพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้การเคลื่อนตัวของฟันเกิดขึ้น
รีเทนเนอร์คับ แน่น
การเก็บรักษารีเทนเนอร์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนมากเกินไป หรือได้รับการกระทบกระเทือน รวมไปถึงการไม่ใส่รีเทนเนอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้รีเทนเนอร์คับหรือแน่นขึ้นได้ และอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บภายในช่วงปาก อีกทั้งยังทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของฟันได้
รีเทนเนอร์แตกหรือหัก
การทำรีเทนเนอร์ตกหล่นหรือเก็บรีเทนเนอร์ไว้ในสถานที่ที่สามารถได้รับการกระทบกระเทือนได้ง่าย อาจทำให้รีเทนเนอร์แตกหักได้ จึงควรเข้าพบทันตแพทย์ให้ไวที่สุดหากรีเทนเนอร์ของคุณมีรอยร้าวหรือมีการแตกหักเกิดขึ้น
ฟันผุ
รีเทนเนอร์ทั้งแบบลวดและแบบใส หากรักษาความสะอาดไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดการสะสมของครบหรือเศษอาหารและส่งผลให้ฟันผุระหว่างสวมใส่ได้
รีเทนเนอร์หัก ซ่อมได้ไหม
จริง ๆ แล้วสามารถซ่อมได้ แต่ไม่แนะนำให้ซ่อม เพราะรีเทนเนอร์ที่ดีต้องใส่พอดีและแนบสนิทไปกับฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อน นั่นหมายความว่า เวลาซ่อม รีเทนเนอร์อาจจะไม่สมบูรณ์ 100% ดังนั้น ถ้ารีเทอร์หัก รีบเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำใหม่จะดีที่สุด
รีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่
รีเทนเนอร์ มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีราคาแตกต่างกันไป โดยรายละเอียดราคา รีเทนเนอร์ของแต่ละแบบ มีดังนี้
ประเภทรีเทนเนอร์ | สีและลวดลาย | ราคารีเทนเนอร์ |
---|---|---|
ราคารีเทนเนอร์แบบลวด | สีมาตรฐาน | 2,699 บาท |
เลือกสีและลายได้ | 2,899 บาท | |
ราคารีเทนเนอร์แบบใส | แบบธรรมดา | 2,899 บาท |
โปรโมชั่นรีเทนเนอร์ ! ทำรีเทนเนอร์ที่บ้าน ไม่ต้องมาที่คลินิก!
ไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลา! ด้วยบริการทำรีเทนเนอร์ถึงที่บ้าน! ที่ Smile Seasons ที่เดียวเท่านั้น
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราเพื่อใช้โปรโมชั่นทำรีเทนเนอร์ที่บ้าน
- เลือกสี ออกแบบ เลือกลาย และชำระเงิน
- เราจะส่งชุดพิมพ์ปากไปให้คุณถึงที่บ้าน ดูวิธีการพิมพ์ปากได้ ที่นี่
- เมื่อเราได้รับพิมพ์ปากจากคุณ ห้อง Lab ทางทันตกรรมจะทำรีเทนเนอร์ และส่งกลับไปให้คุณ
โดยรวมแล้ว รีเทนเนอร์แบบลวด ราคาจะถูกกว่ารีเทนเนอร์แบบใส เพราะรีเทนเนอร์แบบใสผลิตจากพลาสติกชั้นดี ครอบคลุมฟันทุกซี่โดยรอบ อย่างไรก็ตาม ราคารีเทนเนอร์ใสแบบธรรมดายังมีความใกล้เคียงกับรีเทนเนอร์แบบลวดที่เลือกสีและลายได้ ดังนั้น เช็คข้อดี-ข้อเสียให้ละเอียด เปรียบเทียบราคา แล้วเลือกใช้รีเทนเนอร์ที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด
สรุป
รีเทนเนอร์ เป็นอุปกรณ์จัดฟันที่ทุกคนที่จัดฟันเรียบร้อยแล้ว มีความจำเป็นที่จะต้องสวมใส่เพื่อให้ฟันคงสภาพอยู่ในตำแหน่งหลังจัดฟันเสร็จ ซึ่งการที่ไม่ใส่รีเทนเนอร์เพียงระยะเวลาเพียง 1 เดือนสามารถส่งผลให้ฟันเคลื่อนตัว ทำให้ฟันล้ม ฟันซ้อน หรือฟันเก ทำให้ต้องจัดฟันใหม่ได้
สำหรับคนที่ต้องการปรึกษาทันตแพทย์ทั้งเรื่องการจัดฟัน หรือเรื่องรีเทนเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นการขอคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดฟัน หรือการสอบถามรายละเอียดรีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่ สามารถติดต่อ Smile Seasons Clinic ได้ที่
- smileseasons.dc
- @smileseasons.dc
- smileseasons.dc@gmail.com
- 02-114-3274
บทความโดย
ทพญ.ฐิติรัตน์ ตั้งต่อสกุล
Certificate of Training Orthodontic – Advance Orthodontic Society
ทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เกียรตินิยมอันดับ 2)
รีวิวจากคนไข้ของเรา
โปรโมชั่นอื่นๆ
เปิดวิธีแก้ปวดฟันด้วยตัวเอง บรรเทาอาการปวดก่อนพบทันตแพทย์
เปิดวิธีแก้ปวดฟันด้วยตัวเอง บรรเทาอาการปวดก่อนพบทันตแพทย์ อาการปวดฟันนั้นเป็นอาการที่ทำให้รู้สึกทรมาน นอกจากอาการปวดแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรับประทานอาหารได้ไม่เต็มที่ บางครั้งหากปวดมาก ๆ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพในการนอน แต่หากอาการปวดเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่สามารถไปพบทันตแพทย์ได้ในทันที เพราะเป็นวันหยุด ปวดในช่วงเวลากลางคืน หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล การเข้าใจวิธีแก้ปวดฟันด้วยตัวเองจึงมีความสำคัญอย่างมากในการบรรเทาอาการปวดชั่วคราวก่อนที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องจากทันตแพทย์ อาการปวดฟันแบบฉับพลันเกิดจากอะไร อาการปวดฟันแบบฉับพลันคือภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการปวดฟันขึ้นแบบฉับพลัน และมักส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดฟันแบบฉับพลัน ได้แก่ ฟันผุลึกที่ลุกลามถึงโพรงประสาทฟัน ฟันแตกหรือร้าวจากอุบัติเหตุ ฟันคุดที่กำลังขึ้น การติดเชื้อที่รากฟันหรือเหงือก
หลังจัดฟันเสร็จแล้วต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง
หลังจัดฟันเสร็จแล้วต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง การจัดฟันเป็นกระบวนการที่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามมากขึ้น แต่หลังจัดฟันเสร็จแล้วหากไม่มีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีฟันก็จะไม่เรียงตัวสวยงามตลอดไป การดูแลสุขภาพช่องปากหลังจัดฟันเสร็จแล้วจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจ บทความนี้ Smile Seasons จะชวนทุกคนไปดูกันว่าหลังจัดฟันเสร็จแล้วนั้นต้องดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไร หากไม่ดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีจะส่งผลต่อฟันอย่างไรบ้าง การจัดฟันส่งผลต่อสุขภาพช่องปากอย่างไรบ้าง การจัดฟันไม่ได้เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปากในด้านอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งระหว่างการจัดฟันกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟันจะเกิดการปรับตัวให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามอย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยให้การทำความสะอาดช่องปากง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกและฟันผุ อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาการบดเคี้ยวและการพูด แม้ว่าหลังจากจัดฟันเสร็จแล้วโครงสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ
ก่อนจัดฟันต้องรู้ จัดฟันแบบใส กับ แบบเหล็ก แบบไหนดีกว่ากัน
ก่อนจัดฟันต้องรู้ จัดฟันแบบใส กับ แบบเหล็ก แบบไหนดีกว่ากัน การจัดฟันไม่เพียงช่วยเสริมความสวยงามของรอยยิ้ม แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง และการสบฟันที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาว ปัจจุบันมีทางเลือกในการจัดฟันมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ จัดฟันแบบใสกับแบบเหล็ก แบบไหนดีกว่ากัน? คำตอบไม่ได้ชัดเจนเสมอไป เพราะแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน บทความนี้ smile seasons จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการจัดฟันทั้งสองประเภท เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณมากที่สุด การจัดฟันใส กับการจัดฟันเหล็กคืออะไร การจัดฟันเป็นวิธีการทางทันตกรรมที่ช่วยปรับตำแหน่งฟันให้เรียงตัวสวยงามและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเคี้ยวอาหาร
เมื่อปวดฟันต้องกินยาแก้ปวดฟันแบบไหน ต้องเลือกอย่างไร
เมื่อปวดฟันต้องกินยาแก้ปวดฟันแบบไหน ต้องเลือกอย่างไร อาการปวดฟันเป็นความทรมานที่หลายคนไม่อยากเผชิญ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่เพียงส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังกระทบต่อคุณภาพชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย หากปล่อยให้อาการปวดฟันเรื้อรังโดยไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่ลุกลามและส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว การเลือกใช้ยาแก้ปวดฟันที่เหมาะสมจึงเป็นทางเลือกเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการก่อนพบทันตแพทย์ อาการปวดฟันเกิดจากสาเหตุใดบ้าง ฟันผุ : ฟันผุเกิดจากแบคทีเรียในช่องปากย่อยสลายอาหารจำพวกน้ำตาลและแป้ง ทำให้เกิดกรดที่กัดกร่อนเคลือบฟัน เมื่อฟันผุลึกเข้าไปถึงเนื้อฟันชั้นในจะทำให้เกิดอาการเสียวฟันและปวดฟัน เหงือกอักเสบ : เกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์บริเวณขอบเหงือก ทำให้เหงือกบวมแดง มีเลือดออกง่าย เมื่อไปสัมผัสโดนเหงือกบริเวณนั้นจะเกิดอาการปวด ฟันแตกหรือร้าว : อาจเกิดจากการกระแทก การกัดของแข็ง
รู้จักกับรีเทนเนอร์โลหะ พร้อมเปิดข้อดี-ข้อเสีย
รู้จักกับรีเทนเนอร์โลหะ พร้อมเปิดข้อดี-ข้อเสีย รีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์คงสภาพฟัน ซึ่งมีด้วยกันหลายแบบ สำหรับรีเทนเนอร์โลหะทำจากโลหะพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อใส่หลังจากถอดเหล็กจัดฟัน มีลักษณะเป็นโครงโลหะบางเบาที่พอดีกับแนวฟัน ช่วยรักษาตำแหน่งของฟันให้อยู่ในสภาพที่จัดเรียงไว้ มีความทนทานสูง และสามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยมักนิยมใช้ทั้งในฟันบนและฟันล่าง บทความนี้เราจะชวนทุกคนไปรู้จักกับรีเทนเนอร์โลหะกันให้มากขึ้น รีเทนเนอร์โลหะ คืออะไร รีเทนเนอร์โลหะเป็นอุปกรณ์คงสภาพฟันที่ทำจากวัสดุโลหะพิเศษ ออกแบบมาเพื่อใส่หลังจากถอดเหล็กจัดฟัน มีลักษณะเป็นโครงโลหะบางเบาที่พอดีกับแนวฟัน ช่วยรักษาตำแหน่งของฟันให้อยู่ในสภาพที่จัดเรียงไว้ มีความทนทานสูง และสามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยมักนิยมใช้ทั้งในฟันบนและฟันล่าง เปิดข้อดี-ข้อเสียของรีเทนเนอร์โลหะ ก่อนตัดสินใจเลือกใช้รีเทนเนอร์โลหะ มาทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียกันก่อน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
10 วิธีเปลี่ยนเมื่อมีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็น ให้หอมสดชื่น
10 วิธีเปลี่ยนเมื่อมีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็น ให้หอมสดชื่น การมีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็นเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก หลายคนรู้สึกไม่กล้าพูดคุยใกล้ชิดกับผู้อื่น ส่งผลต่อการเข้าสังคมและการทำงาน บางคนถึงขั้นเกิดความเครียดและวิตกกังวล แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี สาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นปาก ลมหายใจเหม็น มีกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็นเกิดจากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่มาจากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากที่ย่อยสลายเศษอาหารและปล่อยก๊าซที่มีกลิ่นเหม็นออกมา นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากโรคในช่องปาก เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือแม้แต่โรคทางระบบต่าง ๆ เช่น โรคกระเพาะ ไซนัสอักเสบ รวมถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่เหมาะสม