กัดลิ้นตัวเองเป็นแผล ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
การกัดลิ้นตัวเองถือเป็นอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใครหลายคนเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม แต่ถ้ากัดแรงหรือกัดบ่อยเกินไปจนเป็นแผล ก็อาจจะกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามได้เช่นกัน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องการพูด การกลืน รวมถึงการรับรสอาหาร วันนี้เราจึงมีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาอาการกัดลิ้นตัวเองมาฝากกัน พร้อมแล้วตามไปดูกันเลย
เพราะเหตุใดถึงกัดลิ้นตัวเอง
สาเหตุหลักของการกัดลิ้นตัวเองมักเกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น
- ตอนกำลังเคี้ยวอาหาร ถ้าเคี้ยวเร็วหรือพูดคุยไปด้วย ก็มีโอกาสกัดโดนลิ้นได้ง่าย
- ระหว่างนอนหลับ บางคนอาจมีอาการกัดฟันหรือกัดลิ้นโดยไม่รู้ตัว
- ตอนกำลังเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกระแทก เช่น มวยปล้ำ เตะบอล หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุ เช่น สะดุดล้ม หรือถูกชนแล้วฟันกระแทกกัน
- ภายหลังการทำฟันแล้วยังมีผลจากยาชา ทำให้ลิ้นชาและไม่รู้สึกตัวว่ากัดโดน
- ความเครียด ทำให้เผลอไปกัดลิ้นตัวเองโดยไม่รู้ตัว เหมือนคนที่เผลอไปเล่นหรือดึงผมตัวเองเวลาเครียด
- ผู้ที่เป็นโรคลมชัก ระหว่างชักอาจกัดลิ้นตัวเองได้ค่อนข้างแรง
แต่บางครั้งการกัดลิ้นตัวเองบ่อย ๆ ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง เช่น ไซนัสอักเสบ กรดไหลย้อน หรือมะเร็งบางชนิด ดังนั้น ถ้ากัดบ่อยผิดปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์นะคะ
กัดลิ้นตัวเองควรรักษาอย่างไร
เมื่อกัดลิ้นตัวเองจนเป็นแผลอาจทำให้เกิดอาการเจ็บ มีอาการบวม หรือเกิดแผลที่ลิ้นได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อและมีอาการที่รุนแรงไปมากกว่านี้ ควรมีวิธีการดูแลแผลจากการกัดลิ้นตัวเองได้ ดังนี้
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ถ้ากัดลิ้นแล้วไม่มีเลือดออกมาก บวมแดงเล็กน้อย ปวดไม่มาก สามารถทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ตามนี้เลยค่ะ
- ล้างบริเวณแผลด้วยน้ำเกลือเย็น หรือน้ำสะอาด เพื่อฆ่าเชื้อโรค
- ใช้ผ้าสะอาดพันหรือซับบริเวณแผลให้แห้ง
- กดห้ามเลือด ถ้ายังมีเลือดซิบ ๆ ให้กดสัก 5-10 นาที จนเลือดหยุดไหล
- อมน้ำแข็งหรือประคบเย็นที่บริเวณแผล เพื่อบรรเทาอาการปวดและบวม
แต่ถ้ากัดแรงจนเป็นแผลลึก มีเลือดออกเยอะ อาการปวดบวมมาก หรือมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในแผล ควรไปพบแพทย์เพื่อทำแผลที่ถูกวิธี ป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงอาจต้องเย็บแผลและฉีดยาป้องกันบาดทะยัก
การดูแลให้แผลหายเร็ว
เมื่อได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ก็ต้องดูแลตัวเองให้แผลหายไว ๆ ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย งดของแข็งและเหนียว เพื่อไม่ให้ไปกระทบกระเทือนแผล
- งดอาหารรสจัด ทั้งร้อน เย็น เปรี้ยว หรือเค็มจัด ที่จะยิ่งระคายเคืองแผล
- อย่าแตะต้องหรือเลียแผลบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่แผล
- บ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำเกลืออุ่น จะช่วยให้แผลสะอาดและหายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ จะยิ่งทำให้แผลหายช้าและมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น
- ทานยาแก้ปวดลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ถ้ามีอาการปวดมาก ๆ
- ใช้ยาทาแผลในปาก ซึ่งเป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ ประกอบด้วยตัวยา Triamcinolone acetonide 0.1% โดยป้ายยาลงไปบางๆ บริเวณแผล ช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบของแผลในปาก ห้ามใช้กับแผลในช่องปากที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
ส่วนใหญ่ถ้าทำตามขั้นตอนข้างต้นเป็นอย่างดี แผลที่ลิ้นก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปได้เองภายใน 1 สัปดาห์
ลิ้นเป็นแผลมีอาการอะไรบ้าง
เมื่อกัดลิ้นจนเป็นแผลแล้ว นอกจากความเจ็บปวดแสบร้อนแล้ว อาจมีอาการอื่น ๆ ตามมาได้อีก เช่น
- ลิ้นบวม แดงเป็นจ้ำเลือด
- เลือดออกหรือซึมตลอดเวลา
- มีแผลถลอก ฉีกขาด หรือมีเนื้อตาย
- เคี้ยวหรือกลืนอาหารลำบาก
- แผลมีหนองหรือของเหลวไหลออกมา
- มีไข้ ปวดศีรษะ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในกระแสเลือด
ถ้ามีอาการเหล่านี้ แนะนำว่าไม่ควรนิ่งนอนใจ ต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมโดยเร็วที่สุด
อาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
ต่อให้ทำการปฐมพยาบาลมาดีแค่ไหนแล้ว แต่ถ้ามีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและให้การรักษาอย่างทันท่วงที
- มีเลือดออกเยอะ หรือเลือดไม่หยุดไหล แม้จะกดห้ามเลือดนานกว่า 15 นาทีแล้ว
- เป็นแผลลึก ยาว หรือฉีกขาดจนเห็นเนื้อเยื่อชั้นใน
- มีอาการติดเชื้อ เช่น บวมแดงร้อนมากขึ้น มีหนองไหลออกมา กลิ่นเหม็น
- เจ็บปวดมากขึ้นทุกวัน ทานยาแก้ปวดก็ไม่ดีขึ้น
- เคี้ยวกลืนลำบาก มีไข้สูง ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน
- สงสัยว่ามีเศษฟันหรือสิ่งแปลกปลอมฝังอยู่ในแผล
- ลิ้นหรือต่อมทอนซิลบวมโตผิดปกติ หายใจหรือพูดลำบาก
สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าการกัดลิ้นอาจรุนแรง หรือมีภาวะแทรกซ้อนตามมา จึงไม่ควรชะล่าใจ แล้วไปพบแพทย์เพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิดจะปลอดภัยกว่า
สรุปบทความกัดลิ้นตัวเองเป็นแผล
กัดลิ้นตัวเองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักไม่รุนแรง แค่เจ็บปวดเล็กน้อยแล้วก็หายไปเอง แต่ถ้ากัดแรงจนเป็นแผลลึก มีเลือดออกเยอะ หรือมีอาการบวมแดงปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องระวังภาวะติดเชื้อหรือมีเศษสิ่งแปลกปลอมค้างอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
สำหรับคนที่ชอบกัดลิ้นตัวเองบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย หรือมีอาการกัดลิ้นโดยไม่รู้ตัวขณะหลับ ก็ไม่ควรละเลย ซึ่งสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Smile Seasons ที่พร้อมให้คำอธิบายอย่างละเอียด เพราะอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติบางอย่างได้ และที่สำคัญถ้ารักษาแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยป้องกันผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวจากการกัดลิ้นแบบเรื้อรังได้อีกด้วย