การดูแลตัวเองเมื่อมีปัญหาฟันสึก
ฟันสึกเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดจากความเสื่อมสภาพของสารเคลือบฟัน จนทำให้เห็นเนื้อฟันได้มากขึ้น จึงเกิดปัญหาฟันผุ ฝันแตก และมีอาการเสียวฟันตามมาได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะฟันสึกกร่อนเป็นปัญหาที่สามารถรักษาได้ โดยฟันของคุณยังคงแข็งแรง และใช้งานได้ตามปกติ เพียงแค่ให้ความสำคัญกับวิธีการดูแลรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาฟันสึกนั้นลุกลามรุนแรงไปมากกว่าเดิม ซึ่งจะมีวิธีการดูแลรักษายังไงได้บ้างนั้น ไปดูกันเลย!
ลักษณะของปัญหาฟันสึก
สำหรับลักษณะของฟันที่จัดได้ว่ามีปัญหาฟันสึก สามารถสังเกตได้จากรูปทรงและผิวสัมผัสของฟันที่จะมีความเปลี่ยนแปลง แตกต่างไปจากฟันปกติที่มีสุขภาพแข็งแรง ดังนี้
- ฟันสั้นลง หรือมีรูปร่างแปลกไปเมื่อเทียบกับฟันซี่อื่น ๆ รอบข้าง
- มีรอยสึกบนผิวฟัน ฟันด้านบดเคี้ยวเรียบเนียนไม่เป็นปุ่มตามรอยสบฟัน
- ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ใสขึ้น หรือสีคล้ำลง
หากสังเกตแล้วพบว่าฟันมีลักษณะดังข้างต้น ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเริ่มมีปัญหาฟันสึกที่จำเป็นจะต้องเริ่มรักษาแล้ว เพื่อช่วยยืดอายุฟันให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นนั่นเอง
ปัญหาฟันสึก ฟันกร่อนเกิดจากอะไรได้บ้าง
ปัญหาฟันสึก ฟันกร่อน เกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น
- พันธุกรรม เช่น คนที่มีสารเคลือบฟันน้อย และโครงสร้างฟันบาง มักจะมีฟันสึกกร่อนได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ
- ดูแลช่องปากไม่ถูกวิธี เช่น การแปรงฟันแรงเกินไป ใช้แปรงขนแข็ง และการใช้ยาสีฟันที่มีฤทธิ์กัดกร่อนจนไปทำลายเคลือบฟัน
- การรับประทานอาหาร เช่น การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีกรดสูงอย่างน้ำอัดลม อาหารรสเปรี้ยว หรือผลไม้ที่มีกรด รวมถึงการรับประทานขนมหวานที่มีปริมาณน้ำตาลเยอะ
- พฤติกรรมการนอน เช่น คนที่นอนกัดฟัน นอนกรน นอนเคี้ยวฟัน มักจะมีอาการฟันสึก ฟันกร่อนได้ง่าย
- โรคทางช่องปาก เช่น ปัญหาเหงือกร่น เหงือกบวม เหงือกอักเสบ และฟันผุ ก็ส่งผลให้ฟันสึกกร่อนได้ง่ายเช่นกัน
อาการที่กำลังบอกว่าคุณมีปัญหาฟันสึก
ถ้าอยากรู้ว่าฟันของเราตอนนี้กำลังมีปัญหาฟันสึก ฟันกร่อนอยู่หรือไม่? สามารถสังเกตฟันของตัวเองตามลักษณะด้านล่างนี้ได้เลย
เสียวฟัน
ถ้าสารเคลือบฟันถูกทำลายไป จนทำให้ฟันสึก ฟันกร่อน มักจะมีความรู้สึกเสียวฟันมากกว่าปกติเมื่อรับประทานอาหารที่มีความเย็น ร้อน หรืออาหารที่มีรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด หวานจัด โดยจะรู้สึกเสียวแปล๊บและปวดจี๊ดที่เนื้อฟัน สร้างความยากลำบากในการรับประทานอาหารให้คุณได้
สีของฟันเปลี่ยนไป
เมื่อสารเคลือบฟันเสื่อมลง การรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ส่งผลต่อสีของเนื้อฟันอย่าง ชา กาแฟ หรืออาหารที่มีสารแทนนิน (Tannin) ผสมอยู่ ก็จะทำให้สีของอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ฝังลงบนเนื้อฟันได้ จึงทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือสีเข้มขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ฟันหน้าบาง ปลายฟันดูโปร่ง
อีกจุดที่สังเกตเห็นได้ง่ายว่าเริ่มมีปัญหาฟันกร่อนก็คือ ฟันหน้ามีความบางลงและช่วงปลายฟันมีความโปร่งใสมากกว่าส่วนอื่น นั่นเป็นสัญญาณของฟันสึก ฟันกร่อนนั่นเอง บ่งบอกว่าฟันซี่นั้นไม่มีเคลือบฟันจนเนื้อฟันมีความบางลง ทำให้เกิดความบิ่นหรือเป็นรอยบนผิวฟันได้ง่าย รวมถึงยังอาจเกิดอาการเสียวฟันเมื่อรับประทานอาหารร้อนจัดหรือเย็นจัดร่วมด้วย
อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง
ผู้ที่มีปัญหาฟันสึกอยู่จำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรด เพราะกรดจากอาหารจะยิ่งไปทำลายให้เนื้อฟันมีความบางลงไปอีก นอกจากนั้นอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเรารับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล แบคทีเรียในช่องปากจะย่อยสลายน้ำตาลเหล่านั้นและผลิตกรดออกมา ซึ่งกรดที่เกิดขึ้นนี้จะไปทำลายเคลือบฟัน ซึ่งเป็นชั้นนอกสุดของฟัน จึงทำให้ฟันค่อย ๆ กร่อนและเกิดรูที่ฟันหรือที่เรียกว่า “ฟันผุ” นั่นเอง
อาหารที่คนฟันสึกควรหลีกเลี่ยง
- อาหารที่มีความแข็ง เคี้ยวยาก เนื้อเหนียว เพราะเสี่ยงทำให้ฟันแตก ฟันร้าว และฟันหัก
- ขนมหวาน เช่น ลูกอม เค้ก ไอศกรีม ช็อกโกแลต และขนมอื่น ๆ ที่มีน้ำตาลสูง
- ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด ฯลฯ
- น้ำแข็ง
เครื่องดื่มที่คนฟันสึกควรหลีกเลี่ยง
- น้ำอัดลม
- ชา และกาแฟ
- น้ำผลไม้
วิธีการรักษาเมื่อฟันสึก
สำหรับคนที่มีปัญหาฟันสึก ควรเข้าปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาและแก้ไขที่เหมาะสมกับปัญหาของตัวเอง เช่น การอุดฟัน ทำวีเนียร์ การจัดฟัน และการทำครอบฟัน เพื่อช่วยรักษาให้ฟันกลับมามีความแข็งแรงมากขึ้น และป้องกันไม่ให้การสึกกร่อนของฟันลุกลามมากขึ้นกว่าเดิม
อุดฟัน
การอุดฟันสามารถช่วยรักษาอาการฟันสึก ฟันกร่อนได้ เพราะฟันที่สึกระดับลึกมักจะมีรอยหรือหลุมบริเวณหน้าฟันหรือคอฟัน การอุดฟันจะช่วยป้องกันไม่ให้อาการสึกลุกลามไปมากกว่าเดิม และยังช่วยปรับสภาพฟันให้มีความเรียบเนียน ดูสวยงามเหมือนกับฟันสุขภาพดีปกติได้ รวมถึงยังช่วยลดอาการเสียวฟันได้อีกด้วย
ทำวีเนียร์
การทำวีเนียร์ เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความสวยงามให้กับฟัน และปกปิดรอยฟันสึกไปพร้อม ๆ กัน วิธีการคือ แพทย์จะใช้วัสดุเซรามิกหรือคอมโพสิตแผ่นบาง ๆ แปะลงบนผิวหน้าฟัน ซึ่งแผ่นนี้จะมีความคล้ายกับสารเคลือบฟันตามธรรมชาติ ช่วยปรับสีฟันให้สว่างขึ้น อีกทั้งยังจัดระเบียบฟันให้เรียงสวยเป็นธรรมชาติ แถมยังช่วยปรับบุคลิก และป้องกันการสึกของฟันที่อาจเกิดเพิ่มขึ้นในอนาคตได้
การจัดฟัน
หากฟันสึกเกิดขึ้นจากการสบฟันที่ผิดปกติ การจัดฟันจะมีส่วนช่วยเรียงฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และมีการสบฟันที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้ลดอัตราเร็วในการเกิดฟันสึกได้
ทำครอบฟัน
การครอบฟันนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาฟันแตก ฟันบิ่นแล้ว ยังช่วยแก้ฟันสึกได้ด้วย เหมาะกับคนที่มีปัญหาฟันสึกลึกมาก โดยจะทำการครอบฟันซี่ที่สึกเอาไว้เพื่อรักษาสภาพฟันให้ยังคงมีความแข็งแรงอยู่ แถมยังช่วยป้องกันการเสียวฟัน และช่วยปรับรูปร่างหรือสีของฟันให้กลับมาสวยงามเป็นธรรมชาติได้อีกครั้ง
สรุป
แม้ว่าปัญหาฟันสึกจะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เพราะเกิดจากทั้งปัจจัยการรับประทานอาหารและพันธุกรรม แต่การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่มีส่วนผสมกัดกร่อน ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดฟันสึกได้ ส่วนผู้ที่มีอาการฟันสึกรุนแรง ฟันบาง ปลายฟันสั้น ปลายโปร่ง เสียวฟันเวลารับประทานอาหาร
ก็ควรพิจารณาการรักษาและป้องกันฟันอย่างเช่น การอุดฟัน การครอบฟัน หรือทำวีเนียร์ เพื่อไม่ให้ปัญหาฟันสึกลุกลามจนทำลายรากฟันและต้องสูญเสียฟันซี่นั้น ๆ ไปนั่นเอง ใครที่มีปัญหานี้อยู่ก็สามารถมาดูแลสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงได้ที่ Smile Seasons เรามีบริการตรวจรักษาปัญหาช่องปากและฟันอย่างครบครัน เพื่อช่วยฟื้นฟูรอยยิ้มของคุณให้กลับมาสดใสอีกครั้ง