เจาะลึก! รากฟันเทียมคืออะไร ราคาเท่าไหร่ ทำรากฟันเทียมเจ็บไหม ?
“การทำรากฟันเทียม เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของผมและคุณแม่” หนึ่งในประโยคจากปากของลูกชายที่พาคุณแม่เข้ารับฝังรากฟันที่ Smile Seasons
สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไป วิธีนี้ถือเป็นสิ่งดีรองลงมาจากฟันธรรมชาติ สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตขึ้นได้อย่างมหาศาล หากคุณกำลังสนใจทำรากฟันเทียม นี่คือบทความที่คุณไม่ควรพลาด
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับรากฟันเทียม
รากฟันเทียม คืออะไร
รากฟันเทียม หรือ Dental Implant คืออุปกรณ์พิเศษรูปร่างคล้ายสกรู ซึ่งทำหน้าที่เสมือนรากฟันของคุณ ไม่ว่าคุณจะสูญเสียฟันธรรมชาติไปจากอุบัติเหตุ หรือสาเหตุอื่นๆ รากฟันเทียมทำจากโลหะไททาเนียมแบบพิเศษ ซึ่งออกแบบให้พื้นผิวสามารถเชื่อมติดกับกระดูกขากรรไกรได้ดี ทำหน้าที่เหมือนกับรากฟัน คอยรับและกระจายแรงบดเคี้ยว และรองรับ ครอบฟัน ฟันปลอม หรือสะพานฟันที่อยู่ด้านบน
คุณสามารถทดแทนฟันของคุณได้หลายวิธี เช่น การใส่ ฟันปลอม การทำสะพานฟัน แต่การทำรากฟันเทียม ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทดแทนฟันธรรมชาติของคุณ
การทำงานของรากฟันเทียม
หลักการทำงานของรากฟันเทียม คือการพยายามเลียนแบบฟันธรรมชาติให้คล้ายคลึงที่สุด ซึ่งนั่นก็คือรากฟันนั่นเอง เมื่อฝังรากฟันเสร็จ กระดูกจะค่อยๆ เจริญเติบโตมาเชื่อมกับรากฟันเทียม ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็พยายามจะพัฒนาพื้นผิวและวัสดุ เพื่อกระตุ้นให้กระดูกเติบโตมาเชื่อมกันกับรากฟันเทียมได้ดี
การมีรากฟันจะทำให้คุณสามารถเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนั้นแรงกดที่กดลงมายังทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นการสร้างมวลกระดูกใหม่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อสุขภาพของกระดูกขากรรไกรที่แข็งแรง
ใครบ้างที่ควรทำรากฟันเทียม
เมื่อคุณสูญเสียฟันธรรมชาติไป
หากคุณสูญเสียฟันไปด้วยสาเหตุต่างๆ (ถูกถอน หรืออุบัติเหตุ) คุณควรเข้ารับการทดแทนฟันธรรมชาติโดยเร็ว หากทิ้งไว้นาน ฟันข้างเคียงจะล้มมายังบริเวณที่เป็นช่องว่าง ฟันสู่คบก็อาจมีปัญหา ซึ่งจะทำให้การรักษายุ่งยากซับซ้อน และเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
การฝังรากฟันเทียมร่วมกับฟันปลอม หรือสะพานฟัน
คนไข้ที่ใส่ฟันปลอมถอดได้บางรายมีสันเหงือกเตี้ย ทำให้ฟันปลอมหลุดง่ายเวลาบดเคี้ยวอาหาร การใส่รากฟันเทียมเพื่อเป็นตัวยึดกับฟันปลอมให้แน่นไม่หลุดง่ายจะช่วยแก้ปัญหาได้ คนไข้จะสามารถเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น
การทำรากฟันเทียมไม่เหมาะกับใคร ?
การทำรากฟันเทียมเป็นการผ่าตัดทางทันตกรรมประเภทหนึ่ง จึงมีข้อห้าม หรือข้อควรระวังในบางกรณี ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการทำรากฟันเทียม
- มีการอักเสบหรือติดเชื้อ อยู่ในบริเวณที่ต้องการฝังรากฟันเทียม
- มีโรคทางทันตกรรมอื่นๆ หรือสุขอนามัยช่องปากไม่ดีเพียงพอ เช่น มีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์
- มวลกระดูกไม่เพียงพอ – การทำรากฟันเทียมจำเป็นต้องมีมวลกระดูกที่หนาแน่น และเพียงพอที่จะยึดกับรากฟันเทียม กรณีมีมวลกระดูกน้อยหรือถูกทำลายจากสาเหตุต่างๆ เช่น โรคปริทันต์ หรืออุบัติเหตุ คุณอาจต้องได้รับการปลูกกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม
- การสูบบุหรี่ – บุหรี่สามารถรบกวนกระบวนการหายของแผล ทำให้มีโอกาสสูงที่การทำรากฟันเทียมจะล้มเหลว หากคุณไม่สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้ ทันตแพทย์อาจแนะนำตัวเลือกในการทดแทนฟันด้วยวิธีอื่น
- โรคทางระบบ – โรคประจำตัวอาจเป็นข้อจำกัดในการทำรากฟันเทียมได้ เช่น โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้ไม่ดี กระดูกพรุนระดับรุนแรง มะเร็ง และโรคที่ส่งผลให้เลือดออกได้ง่าย
- ยาบางชนิด – หากคุณรับประทานยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Warfarin ทันตแพทย์อาจต้องปรึกษากับแพทย์ประจำตัวของคุณ ถึงความเสี่ยงของเลือดออก รวมถึงความจำเป็นในการหยุดยาก่อนทำรากฟันเทียม
- ตั้งครรถ์ – หากคุณกำลังตั้งครรถ์ในช่วงไตรมาสที่ 1 หรือ 3 ทันตแพทย์อาจเลื่อนการทำรากฟันเทียมออกไปเป็นหลักคลอด เนื่องจากความจำเป็นในการเอ็กซเรย์ รวมถึงหากท้องใหญ่ก็อาจจะนอนหงายทำฟันได้ไม่นาน และรู้สึกอึดอัดขณะทำการฝังรากฟันเทียมได้
หากไม่ทำรากฟันเทียมจะส่งผลกระทบอย่างไร
เมื่อคุณไม่ได้ทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปด้วยทันตกรรมบูรณะเช่น รากฟันเทียม ฟันและอวัยวะโดยรอบจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ หากทิ้งไว้เอาไว้นาน คุณอาจพบกับปัญหาใหญ่ตามมาในภายหลัง
- ฟันล้ม สบฟันผิดปกติ – เมื่อมีช่องว่างเกิดขึ้น ฟันซี่ข้างเคียงจะล้ม หรือเคลื่อนที่เข้ามาในช่องว่างเสมอ นอกจากจะทำให้ ฟันล้ม ฟันเกแล้ว การสบฟันก็จะผิดปกติตามมาได้
- กระดูกขากรรไกรละลาย – แรงเคี้ยวเป็นตัวกระตุ้นสำคัญต่อการสร้างมวลกระดูกใหม่ เมื่อฟันหายไปก็ไม่เกิดการกระตุ้น ทำให้กระดูกโดยรอบเสื่อมสภาพได้
- ปัญหาทันตกรรมอื่นๆ – ฟันที่เรียงตัวผิดปกติ ปัญหาการสบฟัน และกระดูกขากรรไกรที่ละลาย สามารถก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาเช่น ฟันผุ หินปูน เหงือกอักเสบ ฯลฯ
- ส่งผลต่อการออกเสียง – ฟันเป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญที่เราใช้ช่วยในการพูด ผู้ที่สูญเสียฟันอาจพบปัญหาการออกเสียงบางคำที่ไม่ชัด
- ดูไม่สวยงามขาดความมั่นใจ – เมื่อคุณสูญเสียฟัน โดยเฉพาะฟันหน้าที่สามารถมองเห็นได้ง่าย หากไม่บูรณะทดแทน ก็อาจส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพของคุณ ทำให้คุณไม่กล้ายิ้ม ไม่กล้าพูด ขาดความมั่นใจ
การทำรากฟันเทียม แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?
1. ความสวยงาม
การทดแทนฟันด้วยรากฟันเทียมจะทำให้คุณกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
2. เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น
เนื่องจากรากฟันเทียมสามารถรับแรงได้มาก คุณสามารถทานอาหารได้หลากหลายกว่าเดิม เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เมื่อทานอาหารได้ร่างกายก็แข็งแรงขึ้น แฮปปี้ทั้งคนไข้และลูกหลาน
3. พูดชัดขึ้น
ฟันเป็นส่วนสำคัญมากต่อการออกเสียง รากฟันเทียมช่วยให้คุณสามารถพูดคำต่างๆ ได้ชัดเจนและถูกต้อง และเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับคุณ
4. สะดวก
รากฟันเทียมนั้นเหมือนกับฟันธรรมชาติของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องถอดออกมาทำความสะอาดเหมือนกับฟันปลอม เพียงแต่แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันตามปกติก็เรียบร้อย
ส่วนประกอบของรากฟันเทียม
เพื่อให้คุณได้สื่อสารกับคุณหมอได้เข้าใจมากขึ้น เราจึงอยากอธิบายส่วนประกอบของรากฟันเทียมให้คุณได้เรียนรู้ โดยรากฟันเทียมจะมีส่วนประกอบหลักๆ อยู่ 3 ส่วนด้วยกัน ดังนี้
1. Fixture หรือ Post
- Fixture หรือ Post คือส่วนที่เป็นสกรูที่จะฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกร และทำหน้าที่เสมือนเป็นรากฟัน
- วัสดุที่นำมาใช้ทำ Fixture คือ Titanium เนื่องจากเป็นโลหะที่มีความคงทน และมีความเข้ากันได้กับร่างกาย
- Fixture มีหลากหลายขนาดให้คุณหมอเลือกใช้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของฟัน
- บางครั้งอาจมีการเคลือบด้วยสารพิเศษเพื่อช่วยให้สามารถเชื่อมกับกระดูกโดยรอบได้ดียิ่งขึ้น การเชื่อมดังกล่าวจะเรียกว่า ‘osseointegration’ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญต่อความสำเร็จในการทำรักษา
2. Abutment
- Abutment คือส่วนประกอบเล็กๆ ที่เชื่อมระหว่าง fixture กับครอบฟัน โดยมีสกรูหมุนเข้าไปใน fixture ส่วนที่ปลายมีไว้สำหรับต่อกับครอบฟัน
- ประเภทของ Abutment จะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ด้านบนที่ใช้ว่าเป็นครอบฟัน หรือเป็นฟันปลอม
- Abutment สามารถปรับมุมของครอบฟันด้านบนเพื่อให้ได้องศาที่เป็นธรรมชาติ
- การใส่ Abutment สามารถทำในขั้นตอนการฝังรากเทียม หรือในขั้นตอนการครอบฟันในภายหลังก็ได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่คุณหมอเลือกใช้
3. Prosthetic
- Prosthetic (ส่วนทันตกรรมประดิษฐ์) เป็นส่วนที่มองเห็นอยู่ด้านบนสุด ซึ่งส่วนใหญ่ในบทความนี้เราจะพูดถึงครอบฟัน เป็นหลัก แต่ทันตกรรมประดิษฐ์ชนิดอื่นเช่น การทำสะพาน หรือแม้กระทั่งการทำฟันปลอม ก็สามารถทำร่วมกับการฝังรากฟันเทียมได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนซี่ และความต้องการในการบูรณะฟัน
- กรณีครอบฟัน และสะพานฟัน คุณหมอจะเชื่อมส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ให้ติดกับ Abutment แต่หากเป็นฟันปลอมมักจะทำให้สามารถถอดเข้าถอดออกเพื่อมาทำความสะอาดได้
- ประเภทของ Prosthetic ยังเป็นตัวกำหนดปริมาณของการทำรากฟันเทียมด้วยเช่นกัน หากเป็นครอบฟัน มักจะทำ 1:1 นั่นคือ Fixture 1 ตัว ต่อครอบฟัน 1 อัน หากเป็นสะพานฟันจะต้องมี Fixture 2 ตัวขึ้นไป ในขณะที่ฟันปลอม มักจะใช้การฝังเพื่อเป็นตัวยึดประมาณ 4-6 ตัว
รากฟันเทียมมีทั้งหมดกี่แบบ
คุณอาจสงสัยว่าส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ของรากฟันเทียมมีกี่แบบ จำนวนของซี่ฟันที่ต้องการทดแทน มีความสำคัญต่อการเลือกประเภทของวัสดุบูรณะ (Prosthetic) ซึ่งเป็นเกณฑ์หนึ่งในการแยกประเภทของรากฟันเทียม โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิดดังนี้
- Single Tooth Dental Implant – คือการทำรากฟันเทียมคู่กับการทำครอบฟัน แบบ 1:1 ใช้ในกรณีที่ฟันหายไปซี่เดียว หรือหลายซี่แต่ไม่เป็นตำแหน่งที่ติดกัน
- Implant support Dental Bridge – เมื่อสูญเสียฟันตำแหน่งติดกันมากกว่า 2 ซี่เป็นต้นไป คุณหมออาจแนะนำให้ทำ สะพานฟันโดยมีตัวยึดเป็นรากฟันเทียม 2 ตัว ซึ่งแตกต่างจากการปกติที่ต้องกรอฟันข้างเคียงเพื่อใช้เป็นตัวยึดสะพานฟัน
- Implant support Denture – หากคุณสูญเสียฟันไปทั้งขากรรไกร หรือเหลือฟันอยู่จำนวนไม่กี่ซี่ การทำรากฟันเทียมทั้งปากก็ดูจะเป็นไปได้ยาก ในกรณีนี้คุณหมอจะแนะนำให้ฝังรากฟันเทียม ร่วมกับการทำฟันปลอม รากฟันเทียมจะมีหน้าที่เป็นตัวยึดให้ฟันปลอมอยู่กับที่ ข้อดีคือสามารถรับแรงเคี้ยวได้มากขึ้น ทำให้ไม่เจ็บสันเหงือกมากระหว่างรับประทานอาหาร และทำให้ฟันปลอมหลุดได้ยากขึ้น
รากฟันเทียมชนิดต่าง ๆ
1. Conventional dental implant
Conventional Implant เป็นเทคนิคการฝังรากฟันเทียมที่มีขั้นตอนตามปกติ โดยหลังจากวางแผนการรักษา และเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว คุณหมอจะนัดฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกร หลังจากนั้นต้องรอประมาณ 3-6 เดือน ให้กระดูกเชื่อมติดกับรากฟันเทียม จึงค่อยนัดมาใส่วัสดุบูรณะอย่าง ครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอม
2. Immediate implant placement
Immediate implant placement คือการฝังรากเทียมทันที หลังจากถอนฟันธรรมชาติออกไปในครั้งเดียว ซึ่งโดยปกติจะต้องรอให้แผลหายไปสักพัก ช่วยลดขั้นตอน เวลา และความเจ็บปวดเพราะไม่ต้องผ่าตัด 2 รอบ อย่างไรก็ตามเทคนิค Immediate implant placement ก็มีข้อจำกัดดังนี้
- คุณต้องมีปริมาณ และความหนาแน่นของกระดูกเพียงพอต่อการฝังรากฟันเทียม
- บริเวณที่จะฝังรากเทียมด้วยเทคนิคนี้ จะต้องไม่มีการอักเสบติดเชื้อ หากมีคุณจะต้องได้รับการรักษาให้ดีก่อน ถึงจะสามารถทำได้
3. Immediate loaded implant
Immediate loaded implant คือการใส่ส่วนทันตกรรมประดิษฐ์เช่น ครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอม ทันทีหลังจากฝังรากฟันเทียม ข้อดีคือประหยัดเวลาในการรักษา และมีความสวยงามมากกว่า เพราะคนไข้มีฟันอยู่ตลอดเวลา ทั้ง immediate implant และ loaded มีข้อกำจัดเหมือนกันนั่นคือ บริเวณที่จะฝังรากเทียมต้องไม่มีการอักเสบติดเชื้อ รวมทั้งต้องมีปริมาณของกระดูกเพียงพอ
ตำแหน่งทำรากฟันเทียม
รากฟันเทียมฟันหน้า
รากฟันเทียมฟันหน้าจะเป็นการทำรากฟันเทียมในบริเวณที่กระดูกและเหงือกที่บางกว่าฟันในตำแหน่งอื่นโดยธรรมชาติ ซึ่งบางครั้งอาจต้องทำการปลูกกระดูกหรือปลูกเหงือกร่วมด้วย เพราะฟันหน้าเป็นฟันที่นอกจากจะต้องบูรณะฟันให้ใช้งานได้แล้วก็ต้องเน้นในเรื่องของความสวยงามด้วย หลายครั้งในการทำรากฟันเทียมหน้าจึงต้องมีการใส่ที่ครอบฟันชั่วคราวเพื่อปรับเหงือกในบริเวณนั้นให้มีรูปร่างที่เหมาะสมมากพอที่จะทำรากฟันเทียมเพิ่มเติม (ทั้งนี้การวางแผนการรักษาแบบรากเทียมจะต้องดูหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของกระดูก เหงือก และปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย)
รากฟันเทียมทั้งปาก
รากฟันเทียมทั้งปาก จะเป็นการรักษาสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันแท้จำนวนหลายซี่ หรือสูญเสียฟันทั้งปากจากสาเหตุต่างๆ เช่น ฟันโยก ฟันหัก ฟันตาย โดยคนไข้จะต้องเข้ารับการรักษากับทนตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยตรวจสอบสภาพเหงือกและกระดูกขากรรไกรว่ามีปริมาณกระดูกมากพอที่จะสามารถนำรากเทียมเข้าฝังได้หรือไม่ หากมีน้อยก็ต้องทำการปลูกกระดูกก่อน แต่ถ้ามีปริมาณกระดูกมากพอคนไข้สามารถเข้ารับการทำรากเทียมได้ทันที
แบรนด์รากฟันเทียมยอดนิยม
คนไข้ควรเลือกรากฟันเทียมยี่ห้อไหนดี? นี่เป็นคำถามที่คุณหมอได้รับอยู่บ่อยๆ ในยุคที่แบรนด์ของยี่ห้อรากฟันเทียมมีอยู่เต็มไปหมด สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกยี่ห้อรากฟันเทียมมีดังนี้
- ความง่ายในการใช้งาน – การฝังรากฟันเทียมเป็นหัตถการทางทันตกรรมที่มีความซับซ้อน รากฟันเทียมแต่ละแบรนด์ก็พยายามคิดค้นวิธีการฝังรากฟันเทียมให้ง่ายต่อคุณหมอมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดเวลา ยังทำให้ลดโอกาสในการล้มเหลวของรากฟันเทียมอีกด้วย
- ความเข้ากันได้ของเซลล์กระดูกกับรากฟันเทียม (Biocompatibility) – ขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการทำรากฟันเทียมคือ Osseointegration ซึ่งก็คือการเจริญของกระดูกเพื่อเชื่อมกันระหว่างกระดูกขากรรไกร และส่วน Post ของรากฟันเทียม แบรนด์ต่างๆ ก็พยายามแข่งขันกันทางด้านเทคโนโลยีเพื่อผลิตรากฟันเทียมที่มี Osseointegration ที่ดี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในแต่ละแบรนด์ของรากฟันเทียม แต่คุณหมอส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ความสำเร็จในการทำรากฟันเทียมขึ้นอยู่กับ แบรนด์รากฟันเทียมที่คุณเลือกเพียง 5% ส่วนที่เหลืออีก 95% เป็นทักษะความชำนาญของคุณหมอเฉพาะทางที่ฝังรากฟันเทียมให้กับคุณ
แบรนด์ของรากฟันเทียม แยกตามประเทศผู้ผลิต มีดังนี้
- ประเทศเกาหลีใต้ – Neobiotech, Osstem
- ประเทศสหรัฐอเมริกา – Hiossen
- ประเทศในยุโรป – Astra Tech (สวีเดน), Straumann (สวิสเซอร์แลนด์)
ปัจจุบัน Smile Seasons ให้บริการรากฟันเทียมแบรนด์ Neobiotech และ Straumann
ข้อได้เปรียบของรากฟันเทียม
ทำรากฟันเทียมดีไหม? คำถามที่หลายคนสงสัย ถึงแม้การทดแทนฟันธรรมชาติจะทำได้หลายวิธี แต่วิธีนี้มีข้อได้เปรียบการรักษาแบบอื่นอยู่หลายอย่าง และถือว่าเป็นวิธีการทดแทนฟันธรรมชาติที่ดีที่สุด
1. รับแรงบดเคี้ยวได้มากกว่า
รับแรงบดเคี้ยวได้มากกว่า
ตารางแสดงความสามารถในการรับแรงบดเคี้ยวของฟันแต่ละชนิด
2. ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง
3. ลดโอกาสการละลายของกระดูกสันเหงือก
รากฟันเทียมลดการละลายของกระดูกใต้สันเหงือกได้ดี เพราะมีการกระจายแรงบดเคี้ยวลงสู่กระดูกอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เนื้อเยื่อในช่องปากมีสุขภาพดีกว่าการทำสะพานฟัน หรือฟันปลอม
4. อายุการใช้งานนานกว่า
รากฟันเทียมถูกออกแบบให้เป็นวัสดุทดแทนฟันชนิดถาวร มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 25 ปี ส่วนใหญ่สามารถใช้งานไปได้ตลอดชีวิต ส่วนสะพานฟันมีอายุการใช้งานที่ประมาณ 10 ปี
4. ราคาใกล้เคียงกับการทำสะพานฟัน
ปัจจุบันเทคโนโลยีทางทันตกรรมถูกพัฒนาไปมาก รากฟันเทียมมีคุณภาพดีขึ้นในราคาที่ถูกลง จนทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาใกล้เคียงกับการทำสะพานฟัน เมื่อพิจารณาปัจจัยเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การดูแลรักษาที่ง่ายกว่า อายุการใช้งานในระยะยาวที่คุณอาจต้องทำสะพานฟันใหม่ ในขณะที่รากฟันเทียมยังสามารถใช้งานได้ดี อีกทั้งโปรโมชั่นรากฟันเทียมของเราที่มีราคาไม่แพง
ทำให้รากเทียมเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่ามากในระยะยาว
ข้อจำกัดของรากฟันเทียม
1. ราคาสูง
เมื่อเทียบกับการทดแทนฟันแบบอื่น รากฟันเทียมมีราคาที่สูงกว่า อย่างไรก็ตามวิธีนี้เป็นการรักษาที่อยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ต่างจากฟันปลอม หรือสะพานฟันที่อาจชำรุดเสียหาย ต้องมีการซ่อมแซมหรือทำใหม่ ถึงแม้ราคาตอนทำจะสูงอยู่สักหน่อย แต่ก็คุ้มค่ากว่าในระยะยาว นอกจากนี้ในปัจจุบันรากฟันเทียมที่ดี มีราคาถูกกว่าแต่ก่อน ทำให้คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น
2. เบิกไม่ได้
ประกันชีวิตส่วนใหญ่ หรือแม้แต่สิทธิประกันสังคม ไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการทำรากฟันเทียมได้
3. เป็นการรักษาที่ต้องผ่าตัด
ขั้นตอนฝังรากฟันเทียม คือเป็นการผ่าตัดอย่างหนึ่ง หากคุณมีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน ทันตแพทย์อาจต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณ เพื่อควบคุมโรคประจำตัวให้คงที่ก่อนฝังรากฟันเทียม
คนไข้ที่รับประทานยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (Aspirin) หรือ วาร์ฟาริน (Warfarin) ก็อาจมีความจำเป็นต้องหยุดยาก่อนฝังรากฟันเทียม
การผ่าตัดก็อาจเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ได้ เช่น การติดเชื้อ ฟันข้างเคียงเกิดความเสียหาย เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ เลือดออกมาก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เราพบว่าโอกาสเกิดผลข้างเคียงมีแค่ 2-5% เท่านั้น และมักสามารถแก้ไขได้หากคุณตัดสินใจทำรากฟันเทียมแบบดิจิตอลที่แผลผ่าตัดขณะฝังรากฟันเทียมมีขนาดเล็ก ก็จะยิ่งลดโอกาสในการเกิดผลเสียต่างๆ ลง
4. มีโอกาสเกิดความล้มเหลว
การทำรากฟันเทียมมีโอกาสที่จะเกิดความล้มเหลว ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กระดูกไม่เชื่อมติดกับรากฟันเทียม หรือเกิดผลข้างเคียงขึ้น โดยอัตราการเกิดความล้มเหลวอยู่ที่ 5-10% ซึ่งอาจจะลดลงได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- การคัดเลือกคนไข้ที่เหมาะสมกับการทำรากฟันเทียม หากคุณไม่เหมาะ หรือมีข้อจำกัดทางคลินิก คุณหมอจะพูดคุยถึงความเสี่ยง และแนะนำทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมให้กับคุณ
- ตำแหน่ง องศา และความลึกในการฝังรากเทียมที่เหมาะสม ซึ่งการใช้ดิจิตอลไกด์เข้ามาช่วย จะทำให้การฝังรากเทียมเป็นไปได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ลดโอกาสความล้มเหลว
- ประสบการณ์ และฝีมือของคุณหมอ – ที่ Smile Seasons เราดูแลคนไข้ทำรากฟันเทียมเป็นจำนวนมาก ทีมคุณหมอที่ดูแลคุณ ทุกคนมีประสบการณ์ และเป็นคุณหมอเฉพาะทางในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการทำรากฟันเทียมโดยตรง มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพจากเรา
ระหว่าง รากฟันเทียม, สะพานฟัน, ฟันปลอมถอดได้ และ รักษารากฟัน แบบไหนดีกว่า
รากฟันเทียม กับ สะพานฟัน
- สะพานฟัน คือทันตกรรมบูรณะรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทดแทนฟันด้วยการใส่ฟันเข้าไปในช่องว่างโดยมีส่วนที่ครอบลงบนฟันซี่ข้างเคียงเพื่อยึดสะพานฟันเอาไว้ให้อยู่กับที่
- จำเป็นต้องมีการกรอฟันซี่ข้างเคียงออก
- เนื่องจากฟันที่อยู่ตรงกลางไม่มีฐาน หรือรากฟันรองรับทำให้รับแรงได้ไม่ดีเท่ากับรากฟันเทียม
- เศษอาหารสามารถไปติดระหว่างสะพานฟันกับเหงือกได้ง่ายกว่า
รากฟันเทียม กับ ฟันปลอมถอดได้
- ฟันปลอมถอดได้มีขั้นตอนการดูแลรักษาเพิ่มเติม คุณจำเป็นต้องถอดฟันปลอมออกมาล้างทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ไม่เหมือนกับรากฟันเทียมที่ติดแน่นอยู่บนขากรรไกร ซึ่งการรักษาสุขภาพช่องปาก เช่นการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน ทุกวันก็เพียงพอ
- ฟันปลอมมีโอกาสสูญหาย หรือชำรุดได้ง่ายกว่า
- เนื่องจากฟันปลอมไม่มีส่วนของรากฟัน ทำให้เคี้ยวอาหารได้ยากกว่าการทำรากฟันเทียม
- ครอบฟันของรากฟันเทียมทำจากเซรามิกมีความสวยงาม เหมือนฟันธรรมชาติมากกว่า ฟันปลอมถอดได้ที่ทำจากอะคริลิคเรซิน
รักษารากฟัน กับ รากฟันเทียม
- การรักษารากฟัน กับ รากฟันเทียม เป็นการรักษาทางทันตกรรมคนละแบบกัน
- การรักษารากฟัน เป็นการรักษาเพื่อกำจัดแบคทีเรีย และเนื้อเยื่อในบริเวณคลองรากฟันที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ
- รากฟันเทียม เป็นการทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ถึงแม้จะมีชื่อคล้ายกันแต่การทั้งสองอย่าง มีช้อบ่งชี้ในการรักษาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ขอต้อนรับสู่ยุคของทันตกรรมรากฟันเทียมแบบดิจิทัล
กำหนดตำแหน่งด้วยภาพเอ็กซเรย์ธรรมดา ความลึก และองศาในการฝังขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคุณหมอ
ต่อมาเริ่มมีการใช้ CT-Scan ที่มีความละเอียดสูง สามารถเห็นอวัยวะสำคัญอื่นๆ ที่สำคัญเช่น เส้นประสาท และหลอดเลือด รวมถึงเห็นความหนาแน่นของกระดูก ทำให้วางแผนการรักษาได้ดีขึ้น
ด้วยความก้าวหน้าของ Digital Dentistry ปัจจุบันเราสามารถนำภาพ 3 มิติจากการสแกนช่องปาก รวมกับ CT Scan และนำข้อมูลที่ได้ไปกำหนดตำแหน่งการฝังรากเทียมใน Software ที่มีความแม่นยำสูง
Smile Seasons ตระหนักถึงข้อดีของการทำรากฟันเทียม เราอยากให้คุณ หรือคนที่คุณห่วงใย ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทานอาหารได้อร่อย ยิ้มได้มั่นใจ นอกจากทีมคุณหมอเฉพาะทางที่มีประสบการณ์แล้ว เรายังอยากให้คุณได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด
การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะทำให้การฝังรากฟันเทียม โดยเฉพาะในเคสที่ซับซ้อน หรือฝังพร้อมกันหลายตัวนั้น มีความสะดวกรวดเร็ว เจ็บน้อย และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของการฝังรากฟันเทียมแบบดิจิทัล
Advantage of Digital Implant Surgery
1. แม่นยำ
ข้อมูลดิจิทัลจะทำให้คุณหมอวางแผนได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้เรายังผลิต Guide เพื่อใช้กำหนดตำแหน่งในการฝังรากฟันเทียม ให้มีองศา และความลึกที่แม่นยำ
2. เจ็บน้อย
การฝังรากฟันเทียมแบบเก่า จำเป็นต้องเปิดแผลขนาดใหญ่และลึกจนถึงกระดูก เพื่อกำหนดตำแหน่งในการฝัง การมี Guide จะช่วยให้แผลมีขนาดเล็กลง คุณเองก็จะเจ็บน้อยลงด้วย
3. รวดเร็ว
เมื่อตำแหน่งถูกกำหนดไว้อย่างแน่นอน และมี Guide เป็นตัวช่วย คุณหมอสามารถทำงานได้สะดวก ทำให้ลดเวลาในการรักษาลง นอกจากนี้แผลที่เล็กก็จะทำให้คุณฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้นด้วย
4. ผลข้างเคียงน้อย
แผลที่เล็กจะลดโอกาสเสี่ยงต่อ เลือดออก การบวมอักเสบ และการติดเชื้อของแผลผ่าตัด มีงานวิจัยสนับสนุนว่าการใช้ Guide จะลดโอกาสความล้มเหลวของการฝังรากฟันเทียมได้ถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับแบบดั้งเดิม
การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียม
คุณอาจตื่นเต้นในวันที่ทำการฝังรากฟันเทียม นี่คือทริคในการเตรียมตัวคุณเองให้พร้อม ก่อนถึงวันนัดทำรากฟันเทียม ที่คุณหมอแนะนำ
- ถามทุกคำถามที่คุณสงสัย – การที่คุณได้รับข้อมูล และคำแนะนำต่างๆ จะทำให้ความกังวลของคุณลดลงได้
จัดเต็มกับอาหาร – เนื่องจากคุณอาจทานอาหารอร่อยๆ ไปไม่ได้อีกหลายวัน ให้ถือ 1 วันก่อนวันฝังรากเทียมเป็น cheat day ร้านไหนชอบ อาหารแบบไหนใช่ เนื้อย่าง หมูกระทะ จัดเต็มได้เลยเต็มที่ - จัดการตารางงานให้เรียบร้อย – คุณหมอแนะนำให้ลางานล่วงหน้า คุณควรพักอย่างน้อย 1-2 วัน ก่อนกลับไปทำงาน หรือจะให้ดีกว่านั้นคุณควรเลื่อนธุระสำคัญ หรืองานประชุมใหญ่ๆ ออกไปอย่างน้อยสัก 1 อาทิตย์
เติมของกินในตู้เย็นให้พร้อม – เตรียมอาหารทานง่าย เช่น ซุป ข้าวต้ม โจ๊ก smoothie โยเกิร์ต - นอนหลับให้เพียงพอ – คุณควรนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในคืนก่อนหน้าวันนัดฝังรากฟันเทียม
- รับประทานยาประจำตัวมาตามปกติ – ยกเว้นคุณหมอสั่งให้งด หลายครั้งคนไข้ตื่นเต้นจนลืมกินยาความดันก่อนมาพบคุณหมอ ถ้ามาถึงคลินิกแล้วความดันโลหิตสูงมากๆ คุณหมอก็อาจจำเป็นต้องเลื่อนนัดออกไปก่อน
วางแผนการเดินทาง – คุณอาจรู้สึกเพลียหลังจากเข้ารับการฝังรากฟันเทียม การมีครอบครัว หรือเพื่อน มาขับรถให้ก็เป็นไอเดียที่ดี
ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม
เปรียบเทียบความแตกต่างของการทำรากฟันเทียมแบบดั้งเดิม และแบบดิจิทอล
1. การพบคุณหมอครั้งแรก และเอ็กซเรย์
คุณหมอจะพูดคุย ซักประวัติ พร้อมตรวจประเมินช่องปากอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษา
X-ray แบบปกติ ไม่เป็นที่นิยมที่ใช้วางแผนในการฝังรากฟันเทียม เนื่องจากมีรายละเอียดที่น้อยกว่า
- ปัจจุบัน CT-Scan ถือเป็นมาตรฐานในการกำหนดตำแหน่งรากฟันเทียม
- สามารถเห็นอุปสรรคต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการรักษา เช่น มวลกระดูกน้อยเกินไป, มีเส้นประสาท หรือเส้นเลือดในบริเวณใกล้เคียง
2. เก็บข้อมูลในช่องปาก
- การพิมพ์ปากแบบเดิมจะใช้ปูน คุณอาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยระหว่างพิมพ์
- เนื่องจากไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล จึงมีข้อจำกัดในการนำไปใช้ร่วมกับ CT-Scan ในการกำหนดตำแหน่งฝังรากฟันเทียม
- มีโอกาสแตกหัก หรือสูญหาย
- การสแกนฟัน 3 มิติเป็นเทคโนโลยีที่มาทดแทนการพิมพ์ปากแบบดั้งเดิม
- ข้อมูลดิจิทัลที่ไ่ด้สามารถนำไปใช้ร่วมกับ CT Scan เพื่อกำหนดตำแหน่งฝังรากฟันเทียมให้แม่นยำ
- เนื่องจากการ scan จะเก็บข้อมูลสีของฟันเอาไว้ จึงนำไปช่วยเลือกเฉดของครอบฟันให้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติซี่อื่นๆ
- ไฟล์จะถูกเก็บสำรองไว้ใน Cloud อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องแตกหัก หรือสูญหาย
3. วางแผน ผลิต Surgical guide ในคอมพิวเตอร์
- การใช้ software ที่ทันสมัยในการวางตำแหน่งรากฟันเทียม คือจุดแตกต่างสำคัญซึ่งทำให้รากฟันเทียมแบบดิจิทัล แตกต่างจากแบบดั้งเดิม
- เมื่อมีข้อมูลดิจิทัลที่ละเอียด คุณหมอก็สามารถวางตำแหน่งที่ดีที่สุดให้กับคุณได้
- Surgical Guide เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นมาจากการออกแบบในคอมพิวเตอร์ เพื่อครอบไปบนฟัน มีรูกำหนดขนาด ความลึก และองศา เพื่อช่วยให้คุณหมอฝังรากฟันเทียมได้อย่างแม่นยำ
- เทคนิคในการฝังรากเทียมแบบดั้งเดิม หรือ Free-hand technique นั้นอาจเกิดความผิดพลาดได้ระหว่างฝัง
4. ศัลยกรรมเพื่อใส่รากฟันเทียม
เมื่อวางแผนเรียบร้อยแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนการใส่รากฟันเทียม ในขั้นตอนนี้คุณหมอจะฝังรากฟันเทียมลงในกระดูกขากรรไกร หลังจากนั้นจะรอให้รากฟันเทียมยึดติดแน่นกับกระดูก ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน
- เนื่องจากมีข้อมูลในการวางแผนมีจำกัด การฝังรากฟันเทียมแบบดั้งเดิมคุณหมอจึงจำเป็นต้องเปิดแผลขนาดใหญ่ เพื่อเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม
- ต้องมีการเย็บแผล และคุณต้องเข้ามาตัดไหม
- ใช้เวลาทำการรักษา และเวลาในการฟื้นตัวนานกว่า
- เนื่องจากทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างดีแล้วในคอมพิวเตอร์ รวมถึงคุณหมอมีเครื่องมืออย่าง Surgical Guide มาช่วย แผลจึงมีขนาดเล็กกว่า
- ลดโอกาสที่ต้องเย็บแผล และคุณอาจไม่ต้องกลับมาตัดไหม
- อวัยวะข้างเคียงบาดเจ็บน้อยกว่า ลดโอกาสของการบวม ปริมาณเลือดออก และการติดเชื้อ
5. ทำครอบฟัน หรือฟันปลอม
- เมื่อส่วนฐานติดแน่นแข็งแรงดีแล้ว คุณหมอเฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์จะทำครอบฟัน หรือฟันปลอมส่วนบนต่อ ซึ่งเป็นของฟันที่ใช้บดเคี้ยว รวมทั้งเป็นส่วนที่ต้องใช้ความปราณีตให้มีลักษณะสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ
การปลูกกระดูกในการทำรากฟันเทียมคืออะไร
ปัจจัยที่สำคัญของความสำเร็จในการทำรากฟันเทียมคือ ปริมาณและคุณภาพของกระดูกบริเวณขากรรไกรโดยรอบบริเวณรากฟันเทียม หากคุณมีปริมาณกระดูกที่ไม่เหมาะสม คุณหมออาจแนะนำให้คุณปลูกกระดูก (Bone Graft) เพิ่มเติม เพื่อให้พร้อมต่อการฝัง
ใครบ้างที่ควรต้องปลูกกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม
- ผู้ที่กระดูกขากรรไกรบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มักมีสันกระดูกที่น้อย เนื่องจากเสื่อมสลายไปตามวัย
- ผู้สูญเสียฟันไปเป็นเวลานาน โดยไม่ได้รับการทดแทนฟันในทันที การที่กระดูกไม่ได้รับแรงเป็นเวลานานๆ จะทำให้กระดูกสลายไปเร็วกว่าปกติ
- ผู้ที่เคยมีประวัติเหงือกอักเสบรุนแรง เป็นโรคปริทันต์ เคยมีการติดเชื้อ หรืออุบัติเหตุในบริเวณที่ต้องการฝังรากฟันเทียม
ที่มาของกระดูกที่ใช้ในการปลูกกระดูก
- กระดูกจากมนุษย์ – หากต้องการใช้กระดูกของคุณเอง คุณต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อนำเอากระดูกจากที่อื่นมา ซึ่งจะเพิ่มขั้นตอน และรอยแผลให้มากขึ้น
- กระดูกจากสัตว์ เช่น หมู วัว หรือม้า
- กระดูกที่ทำขึ้นจากวัสดุสังเคราะห์ – วัสดุทดแทนกระดูกเหล่านี้ ทำให้ลดขั้นตอน และความเจ็บปวดลง มีผลการวิจัยรองรับอัตราความสำเร็จในการรักษาที่ทัดเทียมกับการใช้กระดูกจากสิ่งมีชีวิต ปัจจุบันจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมกว่าวิธีดังเดิม
หลังจากปลูกระดูกแล้วคุณจะต้องรอประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้กระดูกเจริญเติบโต และพร้อมสำหรับการฝังรากฟันเทียม ใบบางกรณีคุณสามารถปลูกกระดูกพร้อมกับกับฝังรากฟันเทียมไปพร้อมกับได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอ
วิธีการปฎิบัติตัวหลังได้ทำรากฟันเทียม
การทำความสะอาด
- งดแปรงฟัน และรบกวนบริเวณรอบๆ รากฟันเทียม
- เวลาในการเริ่มทำความสะอาดขึ้นอยู่กับการรักษา โดยปกติคุณสามารถแปรงฟันได้เลยในวันรุ่งขึ้น ยกเว้นกรณีที่ทันตแพทย์ทำหัตถการเพิ่มเติมเช่นการเปิดเหงือก หรือการปลูกกระดูก ซึ่งคุณจะได้รับคำแนะนำจากคุณหมอเพิ่มเติม
- ดูแลรักษาช่องปากอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวันตามปกติ
- ควรเพิ่มการทำความสะอาดบริเวณที่ใส่รากเทียม และเหงือกรอบๆ ด้วยแปรงกระจุก แปรงซอกฟัน หรือไหมขัดฟัน ตามทันตแพทย์แนะนำ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- 2-3 วันแรก – หลีกเลี่ยงใช้หลอด เพราะแรงดูดอาจทำให้เลือดออกได้
- 2 อาทิตย์แรก – เลือกรับประทานอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย เพื่อให้เนื้อเยื่อโดยรอบได้ฟื้นฟู
- หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม เครื่องดื่มหรืออาหารที่ร้อนจัด
ข้อแนะนำอื่นๆ
ห้ามใช้ลิ้นดุนบริเวณรากฟันเทียม เพราะอาจทำให้เลือดออก
แก้มของคุณอาจบวมในช่วง 2-3 วันแรก หลักจากนั้นจะค่อยๆ ลดลง คุณสามารถประคบเย็นเพื่อลดบวมได้
งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 อาทิตย์ เนื่องจากรบกวนกระบวรการหายของแผล
งดออกกำลังกาย 1-2 วันแรก หลังจากนั้นคุณสามารถออกกำลังเบาๆ ได้ เมื่อคุณรับประทานอาหารได้ตามปกติ คุณสามารถออกกำลังได้ตามปกติใน 1-2 อาทิตย์
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับรากฟันเทียม
หลังการฝังรากฟันเทียมไปแล้ว คุณหมอจะเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยสามารถแยกย่อยได้ดังนี้
1. รากฟันเทียมหลวม
เกิดจากการที่กระดูกโดยรอบไม่เชื่อมกับรากฟันเทียม หรือคุณหมอจะเรียกว่าไม่เกิด Osseointegration ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความล้มเหลวในการฝังรากฟันเทียม เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีมวลกระดูก หรือความหนาแน่นของกระดูกไม่เพียงพอ ซึ่งมักพบในคนไข้สูงอายุ ผู้สูบบุหรี่ มีโรคเหงือกอักเสบ และผู้ที่มีสุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี หากคุณรู้สึกว่ารากฟันเทียมที่ฝังไปขยับได้ หรือหลวม คุณควรรีบติดต่อกับคลินิก หรือคุณหมอฟันประจำตัวโดยเร็ว
2. การติดเชื้อ
รากฟันเทียมอักเสบ หรือติดเชื้อ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ก่อให้เกิดอาการเจ็บ หรือมีไข้ตัวร้อน หากไม่ได้รับการรักษารากฟันเทียมอาจเป็นหนอง กระดูกละลายใกล้รากฟันเทียม หรือเกิดรากเทียมเทียมหลุดออกมา หลังฝังรากฟันเทียมคุณควรปฎิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ โดยเฉพาะการรักษาความสะอาดในบริเวณที่ฝังรากฟันเทียมอยู่เสมอ
3. เลือดออก
หลังฝังรากฟันเทียม คุณอาจมีเลือดออกซึมๆ ได้บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ควรเกินกว่า 6 ชม. หากคุณมีเลือดออกมากผิดปกติ หรือเลือดยังคงซึมอยู่เรื่อยๆ เกิน 6 ชม. คุณควรติดต่อคลินิกในทันที
4. การบาดเจ็บต่อเส้นประสาท
การฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งใกล้กับเส้นประสาทอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ส่งผลให้มีอาการชาตามมา ส่วนใหญ่เส้นประสาทที่บาดเจ็บสามารถหายเองได้ในช่วงระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นอย่างถาวร
ปัจจุบันที่ Smile Seasons และคลินิกโดยส่วนใหญ่จะใช้เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์มาช่วยวางแผนการฝังรากฟันเทียม ทำให้สามารถรู้ล่วงหน้าว่าตำแหน่งที่จะฝังมีเส้นประสาทอยู่ใกล้ๆ หรือไม่ นอกจากนี้การใช้ไกด์มาช่วยก็จะทำให้การฝังรากฟันเทียมแม่นยำ อยู่ในทิศทาง และองศาที่ต้องการ ไม่กระทบต่อเส้นประสาทใกล้เคียง
5. รากฟันเทียมทะลุโพรงไซนัส
ฟันด้านบนจะอยู่ใต้โพรงไซนัสซึ่งเป็นช่องว่างที่มีอากาศอยู่ การฝังรากเทียมสามารถทะลุกระดูกเข้าไปสู่โพรงไซนัส ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อตามมาได้ ถึงอย่างไรก็ตาม การบาดเจ็บต่อโพรงไซนัสเป็นผลข้างเคียงที่พบน้อย
รีวิวจากคนไข้รากฟันเทียมที่น่ารักของเรา
โปรโมชั่นรากฟันเทียม
29,000 บาท
คืนชีวิตให้กับฟันของคุณ ในราคาที่ไม่แพง
ทำรากฟันเทียมที่ไหนดี ?
รากฟันเทียมเป็นหัตถการทางทันตกรรมที่ต้องมีการผ่าตัด จึงต้องทำโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และทำในคลินิกที่มีประสบการณ์ นี่คือเทคนิคที่จะช่วยให้คุณเลือกคลินิกที่ดีที่สุดให้กับคุณ
- ประสบการณ์ – ค้นหาคลินิกที่มีประสบการณ์ดูแลคนไข้มาเป็นจำนวนมาก คุณหมอที่จะมาดูแลคุณควรเป็นทีมคุณหมอเฉพาะทางที่มีความรู้ความสามารถในการทำรากเทียมโดยเฉพาะ
- เทคโนโลยี – คลินิกที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถช่วยให้การผ่าตัดฝังรากเทียมเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น ลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงลง
- ชื่อเสียง – อ่านรีวิว และประสบการณ์ของคนไข้ท่านอื่นๆ ที่ทำการรักษาในคลินิกที่คุณอยากเข้าไปทำการรักษา
- ราคา – การทำรากฟันเทียมแต่ละคลินิกมีราคาที่แตกต่างกัน พยายามเลือกคลินิกที่โปร่งใสเกี่ยวกับค่ารักษา มีแผนการผ่อนชำระที่หลากหลายและน่าสนใจ การทำรากฟันเทียมเป็นการลงทุนทางสุขภาพที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่เราคิดว่าคุ้มค่ากับคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้นอย่างแน่นอน
- การสื่อสาร – คุณสามารถเข้าไปพบคุณหมอเพื่อปรึกษาก่อนจะตัดสินใจทำรากฟันเทียม เราแนะนำให้คุณเลือกคลินิกที่คุณหมอให้คำปรึกษาได้เคลียร์ ชัดเจน สามารถตอบข้อสงสัยของคุณได้ดี มีการอธิบายขั้นตอน วิธีการ รวมทั้งพูดคุยเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำรากฟันเทียม
ทีมคุณหมอเฉพาะทาง ด้านรากฟันเทียม
- อาจารย์ประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ปริญญาเอก Doctor of Science in Dentistry in Prosthodontics, Boston University, USA.
- Certificate of Advanced Graduate Study in Prosthodontics, Boston University, USA.
- ทันตแพทยศาสตร์บัณฑิต ม.มหิดล (เกียรตินิยมอันดับ1)
- American Board Certified in Periodontology, USA.
- Certification of Advanced Graduate Study in Periodontology, USA.
- ปริญญาเอก Doctor of Science in Dentistry in Periodontology, Boston University, USA.
- อาจารย์ประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์
- ทันตแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ (เกียรตินิยมอันดับ 2)
ตัวเลือกอื่น ๆ นอกจากรากฟันเทียม
เมื่อคุณสูญเสียฟันธรรมชาติไป คุณมีการรักษา 3 ตัวเลือก แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออก เราอยากให้คุณรู้จักตัวเลือกทั้งหมดก่อนตัดสินใจ
ฟันปลอม
ฟันปลอม เป็นวิธีทดแทนฟันแบบถอดได้ ที่ได้รับความนิยม มีทั้งซี่เดียว หลายซี่ หรือทั้งปาก อาจจะเป็นแค่ส่วนของฟัน หรือมีส่วนของเหงือกด้วย
สะพานฟัน
สะพานฟัน ใช้ฟันข้างเคียงเป็นตัวยึด เรียกว่า Abutment teeth ซึ่งต้องได้รับการกรอฟันบางส่วนออก ส่วนฟันหลอที่ถูกแทนที่จะเรียกว่า Pontics
รากฟันเทียม
อย่างที่กล่าวไปในบทความนี้ รากฟันเทียมเป็นวิธีการทดแทนฟันธรรมชาติที่ดีที่สุด
FAQ คำถามพบบ่อยของรากฟันเทียม
ทำรากฟันเทียมใช้เวลานานไหม ?
เวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเคส โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 60 นาที ทั้งในตอนฝังรากฟันเทียม และตอนใส่ครอบฟันถาวร
อายุการใช้งานของรากเทียม
รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานมากกว่า 25 ปี ส่วนใหญ่จะสามารถใช้ไปได้ตลอดชีวิต
ทำรากฟันเทียมเจ็บไหม
คนไข้ส่วนใหญ่บอกว่าการฝังรากฟันเทียมนั้นไม่เจ็บอย่างที่คิด และอาจจะเจ็บน้อยกว่าถอนฟันด้วยซ้ำ ก่อนจะเริ่มทำหัตถการคุณหมอจะฉีดยาชาเฉพาะที่ให้กับคุณ ซึ่งทำให้ประสบการณ์การทำทันตกรรมไม่เจ็บปวด และน่ากลัวอย่างที่คิด
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำรากฟันเทียมกี่ตัว
จำนวนของรากฟันเทียมที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนของฟันที่ต้องการทดแทน จำนวนและคุณสมบัติของกระดูกโดยรอบ รวมทั้งแผนการรักษาของคุณหมอ หากคุณต้องการทราบแน่นอนว่าคุณควรใช้รากฟันเทียมกี่ตัว เราแนะนำให้คุณติดต่อเรา เพื่อทำนัดเข้ามาปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ
ทำไมการทำรากฟันเทียมต้องรอ 3-6 เดือน
หลังจากฝังรากฟันเทียมแล้ว คุณต้องรอให้กระดูกเชื่อมเข้ากับรากฟันเทียม เราเรียกขั้นตอนนี้ว่า Osseointegration ซึ่งปกติต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำรากฟันเทียม และคุณภาพของกระดูก
รากฟันเทียม ผู้สูงอายุดีกว่าใส่ฟันปลอมอย่างไร
ทำรากฟันเทียมสามารถเข้า MRI ได้หรือไม่
ได้ – รากฟันเทียมทำจากไทเทเทียม ซึ่งปลอดภัยสำหรับการทำ MRI
หากมีรากฟันเทียม เครื่องสแกนโลหะในสนามบินจะดังหรือไม่
ไทเทเนียมไม่ถือเป็น Menetic Metal เพราะฉะนั้นคุณสามารผ่านเครื่องสแกนโลหะทุกที่ได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวล
ทำรากฟันเทียม ภายใน 1 วัน คืออะไร ทำได้ไหม
รากฟันเทียม ภายใน 1 วัน หรือ one day implant นั้นใช้หลักการเดียวกับ immediate loaded implant นั่นคือการฝังรากฟันเทียม และใส่ส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ภายในวันเดียวกัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำ one day implant ได้ คนไข้ต้องไม่มีการอักเสบติดเชื้อ รวมทั้งต้องมีปริมาณ และมวลกระดูกเพียงพอในบริเวณที่จะฝังรากฟันเทียม
ใส่รากฟันเทียมจัดฟันได้ไหม
การจัดฟันไม่สามารถเคลื่อนที่รากฟันเทียมได้ ซึ่งต่างจากฟันธรรมชาติ คนไข้ที่ใส่รากฟันเทียมสามารถจัดฟันได้ แต่การวางแผนจัดฟันจะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น เพราะต้องวางแผนให้ฟันซี่ที่ทำรากฟันเทียมอยู่นิ่ง และขยับฟันธรรมชาติซี่อื่นๆ แทน
สรุปเกี่ยวกับรากฟันเทียม
รากฟันเทียมเป็นการทดแทนฟันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด มีอายุการใช้งานยาวนานตลอดชีวิต ดูแลรักษาความสะอาดง่ายไม่ต่างจากฟันธรรมชาติ สามารถเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไข้ได้ และยังเป็นผลดีต่อสุขภาพของกระดูกขากรรไกร
การทำรากฟันเทียมแบบดิจิทัล เป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การวางแผน และการฝังรากเทียมแม่นยำปลอดภัย แผลเล็ก เจ็บน้อย รวมทั้งลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงลงได้ หากคุณกำลังวางแผนอยากทำรากฟันเทียม คุณสามารถลงทะเบียน หรือติดต่อเราเพื่อทำนัดเข้ามาปรึกษากับคุณหมอเฉพาะทางได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Reference
Tanit Wanitnopparat, DDS. Dip., Thai Board (Periodontology), The Dental Council
- Dental implant surgery., Available from: https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/dental-implant-surgery/about/pac-20384622
- Dental Implants: What You Should Know., Available from: https://www.fda.gov/medical-devices/dental-devices/dental-implants-what-you-should-know
- What are dental implants? Types, procedures, and more., Available from: https://www.medicalnewstoday.com/articles/327515
- Dental Implants: Tooth Implants, Dentures, Dental Crowns & Bridges., Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/10903-dental-implants
- Dental implant procedure., Available from: https://www.healthdirect.gov.au/dental-implant
บทความโดย
อ.ทพ.ดร.สุพลเทพ ตีระกนก
Certificate of Advanced Graduate Study in Periodontology Boston University, USA
Doctor of Sciences in Dentistry in Periodontology Boston University, USA (ปริญญาเอก)
Master of Education, The University of Illinois at Urbana-Champaign, USA
Master of Science in Clinical Education, The University of Edinburgh, UK
อาจารย์ประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์
ทันตแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ (เกียรตินิยมอันดับ 2)
โปรโมชั่นอื่นๆ
เกลารากฟันคืออะไร สำคัญต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร
เกลารากฟันคืออะไร สำคัญต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร การเกลารากฟัน หรือ Root Planing เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่พบได้บ่อย และสำคัญมาก มักเป็นหนึ่งในทางเลือกแรกของการรักษา โรคปริทันต์ และ โรคเหงือกอักเสบที่รุนแรง หากคุณหนึ่งในคนที่ได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ให้เกลารากฟัน ในบทความนี้คุณหมอจะมาอธิบาย ข้อบ่งชี้ ขั้นตอน ข้อควรระวัง และการดูแลตัวเองหลังเกลารากฟัน เกลารากฟันคืออะไร เกลารากฟัน (Root Planing) เป็นหัตถการทางทันตกรรมที่มุ่งเน้นการกำจัดคราบหินปูนและจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่บริเวณใต้เหงือก ซึ่งแตกต่างจากการขูดหินปูนโดยทั่วไปที่เน้นการกำจัดหินปูนที่อยู่เหนือเหงือก
ทำความเข้าใจการปักสกรูเวลาจัดฟันคืออะไร
ทำความเข้าใจการปักสกรูเวลาจัดฟันคืออะไร การปักสกรูเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้จัดฟัน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ได้ทำในทุกคน คุณหมอจะพิจารณาใช้วิธีการปักสกรูในคนไข้จัดฟันบางรายที่จำเป็นต้องใช้แรงดึงที่ซับซ้อนในการเคลื่อนตำแหน่งของฟันเท่านั้น แม้ว่าการปักสกรูจัดฟันจะฟังดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วเป็นกระบวนการที่ปลอดภัย ไม่ซับซ้อน และเจ็บน้อยกว่าที่คิด บทความนี้จะช่วยทุกคนไปทำความเข้าใจว่าทำไมถึงต้องใช้การปักสกรูจัดฟัน หมุดจัดฟันคืออะไร หมุดจัดฟันหรือสกรูจัดฟัน (Orthodontic Mini-screws) เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ทำจากโลหะไทเทเนียม มีคุณสมบัติพิเศษคือไม่ก่อให้เกิดการแพ้ หมุดจัดฟันมีขนาดเล็กมาก โดยทั่วไปมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2-2 มิลลิเมตร และยาว 6-12 มิลลิเมตร
ใครจัดฟันต้องอ่าน เลือกแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันอย่างไรให้เหมาะสม
ใครจัดฟันต้องอ่าน เลือกแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันอย่างไรให้เหมาะสม การจัดฟันแบบติดแน่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเรื่องการทำความสะอาดช่องปาก เพราะเครื่องมือจัดฟันมักเป็นที่สะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย การเลือกแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันให้มีความเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ที่ผู้จัดฟันควรให้ความใส่ใจ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันต่างจากแปรงสีฟันทั่วไปอย่างไร แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากแปรงสีฟันทั่วไป ทั้งในด้านขนแปรงที่มีความนุ่มและความหนาแน่นพิเศษ พร้อมทั้งมีรูปทรงที่ออกแบบมาให้เข้าถึงซอกมุมรอบเครื่องมือจัดฟันได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ทำความสะอาดได้ทุกซอกมุม ที่สำคัญด้ามจับที่ออกแบบมาให้จับถนัดมือเพื่อให้ควบคุมแรงได้ดี ช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงโดยที่ไม่ทำลายเหงือกและฟัน ทำไมคนจัดฟันต้องใช้แปรงสีฟันพิเศษ? เครื่องมือจัดฟันที่ติดแน่นบนผิวฟันเป็นจุดที่เศษอาหารและคราบแบคทีเรียสะสมได้ง่าย แปรงสีฟันทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงซอกมุมเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งขนแปรงที่แข็งเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเหงือกและทำลายผิวฟันได้ การใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันจึงช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ชวนหาคำตอบจัดฟันแล้วฟันผุเกิดจากอะไร
ชวนหาคำตอบจัดฟันแล้วฟันผุเกิดจากอะไร การจัดฟันเป็นทันตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันให้มีความสวยงามและมีการสบฟันที่เป็นปกติ แต่เนื่องจากการจัดฟันแบบติดแน่นต้องมีเครื่องมือจัดฟันอยู่บนฟันทุกซี่และไม่สามารถถอดออกได้ ทำให้การทำความสะอาดฟันทำได้ยากกว่าปกติ หากดูแลสุขภาพช่องปากได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุตามมาได้ มาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้จัดฟันแล้วฟันผุมีอะไรบ้าง และมีวิธีป้องกันแก้ไขอย่างไร สาเหตุที่ทำให้จัดฟันแล้วฟันผุ การจัดฟันไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดฟันผุ แต่การจัดฟันแบบติดแน่นที่จำเป็นต้องติดเครื่องมือที่ฟัน ทำให้ส่งผลให้คราบอาหารเข้าไปติดได้ง่ายขึ้น จึงทำความสะอาดช่องปากได้ยากขึ้น ทั้งการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งถือเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย หากทำความสะอาดได้ไม่ดี จะเพิ่มความเสี่ยงให้จัดฟันแล้วฟันผุได้มากกว่าคนที่ไม่ได้จัดฟัน สัญญาณเตือนที่ควรระวังว่าอาจมีปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุ ฟันผุเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้บ่อยในผู้ที่จัดฟัน โดยเฉพาะผู้ที่ดูแลความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ มาดูกันว่ามีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังมีปัญหาจัดฟันแล้วฟันผุ มีกลิ่นปาก
เปิดเทคนิคการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าให้ตอบโจทย์
เปิดเทคนิคการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าให้ตอบโจทย์ ในปัจจุบัน แปรงสีฟันไฟฟ้าได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมาก และเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่คนนิยมเลือกซื้อเพื่อมาดูแลรักษาสุขอนามัยช่องปากของตัวเอง แปรงสีฟันไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างจากแปรงสีฟันโดยทั่วไป แต่ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าแล้วแปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าจริงหรือไม่ คุ้มค่าไหมที่จะหาซื้อมาใช้ บทความนี้จะมาแนะนำแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบต่างๆ พร้อมเทคนิคการเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าให้เหมาะกับคุณ พร้อมทั้งแนะนำ ประเภท คุณสมบัติ และวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าเหมาะกับการดูแลสุขภาพช่องปากของคุณหรือไม่ แปรงสีฟันไฟฟ้า คืออะไร แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟัน โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หรือการชาร์จไฟ เพื่อขับเคลื่อนหัวแปรงให้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถขจัดคราบพลัคและเศษอาหารได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา แปรงสีฟันไฟฟ้ามักมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบจับเวลา โหมดการทำงานหลากหลาย
เปิดสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วทอนซิล พร้อมแชร์วิธีรักษานิ่วทอนซิล
เปิดสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วทอนซิล พร้อมแชร์วิธีรักษานิ่วทอนซิล นิ่วทอนซิลเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้ไม่บ่อยนัก มักเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก แม้จะไม่อันตรายร้ายแรง แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้ บทความนี้ Smile Seasons จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ สาเหตุการเกิดนิ่วทอนซิล อาการ และวิธีรักษานิ่วทอนซิลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ นิ่วทอนซิลคืออะไร นิ่วทอนซิล หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Tonsil Stones หรือ Tonsilloliths คือ ก้อนสีขาวเหลืองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นตามซอกของต่อมทอนซิล ซึ่งก้อนเหล่านี้เกิดจากการสะสมของเศษอาหาร